เมื่อความรู้สึกผิดและโควิดเข้าครอบงำ นานชาตินึงพอดีเลยมาเล่าเรื่องการตามผัวไปวิ่งเมื่อเมษาปีที่แล้ว จะพยายามระลึกชาติให้ค่ะ ตรงไหนจำไม่ได้จะข้ามไปดูรูปแทนเนอะ เมื่อไปวิ่งมาหลายที่ อีผัวก็เริ่มลองของเลยลงรายการวิ่งที่เกาะมาเดรา อีเกาะนี้อยู่ในโปรตุเกส แต่อยู่ข้างนอกไปไกลลิบอีก สารภาพก็คือก่อนไปไม่รู้จักเลยแม่555 เกาะอยู่ตรงที่มิววงกลมให้จ๊ะ

และเครดิตรูปแผนที่เกาะน่ารักๆจาก pinterest ขอโทษที่จำแหล่งที่มาไม่ได้ค่ะ

ตอนวางทริปครั้งแรกคิดว่าจะต้องได้ไปลิสบอน วางไปวางมาสรุปไม่ได้เหยียบโปรตุเกสเลยจ๊ะ งงมาก เอาเป็นว่าเล่าเรื่องวิ่งก่อน รายการที่ไปนี้ชื่อ Madeira Island Ultra Trail (MIUT2019) รายการนี้บอกแล้วว่ามาลองของซึ่งนางก็ทำใจแล้วว่าไม่น่าจะจบแต่แรก ระยะทั้งหมดมี 16K ,42K ,60K , 85K และระยะที่บ้านเราลงคือ 115K สุดๆไปเลยจ๊ะพี่จ๋า ทุกวันนี้ยังงงๆลงทำไม 
ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นเทรลที่ทางโหดพอควร ใครอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมมิวใส่ไว้ให้จ้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/pg/miutmadeira/about/?ref=page_internal
บ้านเรารอบนี้ที่ไปคือบินจากโอมาน ไปที่เกาะมาเดราต่อเครื่องจนงง เช่นเดิมฮะการขอวีซ่าอย่าลืมขอจดหมายจากทางรายการมาประกอบด้วยเด้อ 
MIUT เป็นรายการที่จัดช่วงปลายเมษา ซึ่งปีนี้ตามระเบียบค่ะโดนพี่โควิดสอยไปเรียบร้อย ทางรายการจึงยกเลิกไป เราเองยังเสียดายแทนแม้ปีนี้จะไม่ได้ไปก็ตามที ตัดภาพกลับมาวันที่ไปลงสนามบินรู้สึกได้ว่าที่นี่คือบ้านเกิดคริสเตียโน โรนัลโด้จริงๆ ป้ายสนามบินยังมีรูปพี่เค้าแปะไว้เหมือนโลโก้กาแฟชาวดอย แผนของที่นี่ไม่ค่อยมีเพราะตอนแรกเห็นเป็นเกาะเล็กๆคิดว่าไม่น่ามีอะไรให้เที่ยว แต่ผิดถนัดเป็นเกาะที่โคตรสวย ใครมามิวแนะนำเช่ารถขับนะคะเพราะสะดวกสุด มาถึงแล้วนอกจากป้ายแล้วต้องมีรูปปั้นพี่แกมาตั้งไว้เป็นศรีมาเดราด้วย



สนามบินที่นี่น่าจะได้ขึ้นชื่อเรื่องความอันตรายติดอันดับโลกเนื่องจากรันเวย์สั้น นักบินที่จะบินลงที่นี่ต้องมีการฝึกพิเศษ โชคดีที่มารู้ตอนถึงแล้ว555 โซนที่เราเลือกพักคือ Santa Cruz ความโง่ของตัวเองคิดว่าที่พักห่างจากสนามบินประมาณ 2K ก็เดินไม่โหดมาก ดันลืมว่ามันเป็นเกาะกว่าจะเดินถึงโรงแรมสภาพก็แบบนี้แล้ว

สองวันแรกเราไม่ได้เช่ารถเนื่องจากคิดว่าคงได้ใช้แค่ตอนเข้าไปซัพพอร์ทนักวิ่งเท่านั้นเลยจะเช่าวันที่จะวิ่ง แล้วก็ได้รู้ว่าคิดผิด บ้านนอกสองคนเดินเที่ยวจนงงเว้ยแก แล้วรถเมล์หมดจ๊ะ....ห่านนนนน
ภาระกิจแรกคือการไปรับ bib เดินวนในงานซึ่งมิวว่าบูธขายของไม่ค่อยมี บรรยากาศประมาณนี้เลยฮะ ใครอยากอ่านอันที่เป็นสาระมิวใส่สปอยไว้ให้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/followmyhbrace/posts/439728643448264?__tn__=H-R

และช่วงเย็นมี Pasta Party ซึ่งถามผัวว่ามีอะไรพิเศษทำไมซื้อบัตร ผัวบอกอ๋อ...ไม่รู้เหมือนกัน สรุปคือไปกินข้าวเหมือนโรงอาหารใหญ่ๆแล้วนักวิ่งก็ไปกินกันตรงนั้น แค่นี้...

วันแรกที่เช่ารถหลังจากวางแผนการวิ่งเสร็จเราตัดสินใจเดินขึ้นยอด Pico Ruivo เป็นยอดเขาที่สูงสุดใน Madeira และของรายการด้วย เพราะคิดว่าผัวไม่น่าวิ่งถึงเลยพากันไปชมยอดนี้ก่อน จอดรถแล้วเดินขึ้นเขาไปกลับ 6K บ้านเราใช้เวลาเดินไปเรื่อยประมาณ 3 ชั่วโมง ข้างบนอากาศประมาณ 10 องศาแบบแดดโหดๆ แต่สวยจริงนะเออแนะนำ


 
จุดต่อไปที่เราไปเที่ยวคือ Porto Moniz Natural Swiming Pool นี่เป็นอีก CP หนึ่งของรายการฮะ มันเหมือนเป็นสระว่ายน้ำใหญ่มากๆแต่ช่วงที่เราไปคือเหมือนพายุเข้าเค้าเลยห้ามลงเล่นน้ำ

  
และมีอควาเรียมอยู่ด้านหลัง แต่ก็ไม่เปิดเช่นกัน

next station...Cristo Rei ที่นี่บราซิล // ผิด55

แล้วก็มาถึงวันปล่อยตัว ดูหน้าซะก่อนดีใจแค่ไหนไม่ต้องบอก

หน้าที่เราหลังจากปล่อยผีเข้าป่า....เที่ยวสิคะจะรออะไร นี่ตื่นแต่เช้าแล้วก็นั่งดูว่าจะไป Camara de Lobo แถวนั้นมีจุดชมวิวอยู่แล้วกะว่าบ่ายสองค่อยไปซัพนักวิ่งก็น่าจะทัน ไอ้เราก็ขับรถด้วยความสบายใจบาปบุญ ทางแคบมากมองไม่เห็นไหล่ทางแล้วก็โป๊ะ ยางแตก5555 ที่หน้าบ้านคนพอดี

โทรเข้าศูนย์ก็ไม่มีคนรับ โทรแจ้งตำรวจก็ไม่คุยกับกูอี้กกก ที่นี่เกิดอุบัติเหตุให้แจ้งตำรวจนะคะ สุดท้ายคนที่บ้านนั้นมาช่วยโทรหาศูนย์ Sixth ให้ระหว่างรอเราก็ยืนคุยกับเด็กชายมิเกลลูกบ้านนั้นโดยผ่านกูเกิลแก้เหงา แล้วรถสไลด์ก็มารับตอนนั่งลงมาพี่คนขับเหมือนกลัวเหงา ชวนคุยนิดหน่อยแล้วได้ความว่าที่นี่ปลูกกล้วยส่งออกจากเกาะไปขาย พี่แกถาม Do you like banana? ตอนแรกนี่คิดเลยกูต้องตอบว่าอะไรวะ555 สุดท้ายก็เปลี่ยนรถได้เสร็จพอดี 


ในที่สุดเราก็มาถึง CP ทันเวลา แต่ผัวมาไม่ทันเวลาเนื่องจากอัดยับตอนขึ้นเข้าลูกแรกและขาเจ๊งตอนลงเขา บ้านเราจึงต้องโดนรายการเทอย่างราบคาบจบแค่ CP6 : Curral Das Friesras สิริรวม 64K ตาลอยขนาดนี้พับเสื่อกลับบ้านค่ะ

มิวขอรวมภาพบรรยากาศที่พักและรอบเกาะให้ดูรวมกันเลยเนอะ บางที่จำชื่อไม่ได้จริงๆ


 
เช้ามาเคราะห์ซ้ำบัตรเครดิตโดนแฮกไปเรียบร้อย555 กว่าจะโทรคุยกับธนาคารได้คือแบบวุ่นวายมากเพราะต้องโทรกลับไทย สภาพจึงออกมาแบบนี้ถึงขั้นต้องย้อมใจก่อนบินไปที่อื่น

แล้วเราก็มาถึง Barcelona อย่าถามว่าจุดหมายคืออะไรจะตอบแบบทันใจว่าไม่มี ว่าด้วยร้านกาแฟนั่งเยอะมากแแต่จำไม่ได้ ส่วนตัวไม่ได้ปลาบปลื้มกับที่นี่มากเพราะไม่ใช่สายไปนั่งคาเฟ่น่ารักหาของกิน แต่เมืองไม่ได้แย่นะคะน่ารักดี แค่ไม่ติดท็อปในใจแค่นั้น ร้าน Satan's Coffee Corner ตามรูปค่ะ ร้านดีกาแฟดี


การได้ดูระบำฟลามิงโก้ ที่ Tarontos Club คือประทับใจและเมาในคราเดียวกัน

แล้วร้านกาแฟก็เหมือนที่พักถ่ายรูป 



แลนมาร์คอีกที่ที่คิดว่าทุกคนคงมากันคือ Basílica de la Sagrada Família สถาปัตยกรรมขึ้นชื่อของ Gaudi อยากบอกว่าสวยมากจริงๆค่ะ ข้างในแสงดีใครพาแฟนไปไม่ควรพลาดจากการหามุมถ่ายรูป แล้วกล้องมิวก็มาลาโลกที่นี่ภาพส่วนใหญ่เลยมาจากกล้องฟิล์มผู้ไม่เคยทรยศเรา555 



อีกที่คือ Park Guell ซึ่งมิวไม่ได้เข้าไปดูเพราะซื้อตั๋วผิดเลยได้แต่ยืนมองตาปริบๆ เข้าชมแต่ Gaudi House Museum ก็ดีเหมือนกันนะ มีสวนให้เดินเล่นด้วย
 

ขออนุญาตต่อในคอมเมนท์นะคะ รูปเยอะมากสารภาพว่าคัดไม่ถูกเลยจริง