ผลกระทบจากไวรัสทำให้คนยากจนลงมากกว่าที่คิด
ผมเพิ่งรู้ว่ามีคนฆ่าตัวตายไปไม่น้อยกว่าคนที่ตายจากไวรัสเลย นั่นบ่งบอกว่าคนยากจนลงมากขนาดไหน
เคยมีคนเปรียบเทียบว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจอาจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าช่วงสงครามโลกด้วยซ้ำ แต่ผมจำแหล่งอ้างอิงไม่ได้
ผมจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าพวกประเทศหลังสงครามนั้น เติบโตมากับรถเล็กในการใช้ทำมาหากิน
เพราะคนต้องอาศัยรถในการทำมาหากิน ที่บอดี้ไม่ต้องใหญ่ แต่มีภายในที่กว้าง มีออพชันพื้นฐานครบๆ ราคาไม่แพง
พวกบริษัทรถที่เน้นทำรถขนาดเล็กน่าจะรู้ว่านี่คือโอกาสทำรถขนาดเล็กเลยนะ
Suzuki Celerio นี่ผมว่ามันมาก่อนเวลามากเกินไป มันมาในช่วงที่คนยังจ่ายเงินซื้อ Swift ได้
โดยไม่จำเป็นต้องลดขนาดลงมาซื้อ Celerio จริงอยู่ ตัวรถเองมันก็โดนตัดออพชันเยอะมาก การตกแต่งด้านความสวยงาม
ก็แย่กว่า Swift แบบฟ้ากับเหว แต่พอมาถึงยุคนี้ ผมกลับมองว่ามันเป็นรถแนวที่ตอบโจทย์ตามสภาวะนี้ได้เลย
แต่ Suzuki ต้องแต่งตัว Celerio ให้มันดูดีกว่าที่เป็นอยู่ อย่างน้อยทำมาแบบในภาพก็ยังดี
ภายในก็อย่างก พวงมาลัยเอาของ Swift มาใส่แทน ก็จะทำให้ภายในสวยขึ้นจม
ถ้าไม่นับเรื่องวิกฤต จริงๆแล้วก็มีตลอดรอคอยรถขนาดเล็ก 'แต่มีภายในที่จุและนั่งสบาย' มาตลอดนะ
ผู้หญิงจำนวนมากไม่ชอบรถใหญ่ๆ แต่ชอบรถเล็กๆพอตัวที่นั่งสบาย มีราคาที่เหมาะสมกับขนาดและรูปร่างหน้าตา
ซึ่ง Celerio ในเวลานั้นมันไม่ตอบโจทย์ตรงที่ เพิ่มเงินอีกหน่อยก็ได้รถที่สวยกว่ามากอย่าง Swift
ดังนั้น ผู้ผลิตรถยนต์ควรจะรู้ว่า ราคาคงจะต่ำกว่ารถ Eco car B segment ประมาณเท่าไหร่ และควร
ให้อุปกรณ์และการตกแต่งที่ดูดีระดับใด เพราะถ้ามันตอบโจทย์คนที่กำลังจะเปลี่ยนจากรถมอเตอร์ไซค์มาเป็นรถเก๋งขนาดเล็กได้
จำนวนยอดขายทำได้เยอะแน่นอน
สิ่งที่ Celerio ดูแย่คือ รูปทรงไม่ผ่าน แต่นั่นก็ยังไม่แย่เท่า กับที่ไม่มีการตกแต่งเล็กๆน้อยๆที่ทำให้ตัวรถดูมีค่าขึ้น
- เสาบีกลางรถถูกปล่อยเป็นสีตัวถังเปล่าเปลือย
- ล้อแม็กติดรถที่ไม่มีความสวยและดูเล็กมาก ควรจะเป็นโทนดำ กับมีคิ้วซุ้มล้อที่ช่วยหลอกตาให้ล้อดูใหญ่ขึ้น
- ไม่มีไฟตัดหมอก แล้วก็ไม่มีเบ้าที่ทำออกมาปิดให้ดูเหมาะสม ถูกปล่อยเป็นรูโหว่ๆกลมๆ
- หลังคาที่ดูสูงโย่งแต่หน้าแบน ก็ควรทำสีหลังคาให้ดำเพื่อหลอกตาให้รถดูสมส่วนขึ้น
- กระจกมองข้างทำสีแดงสีส้มตัดๆให้มันดูน่ารักหน่อยก็ยังดี
- พวงมาลัยทำไมต้องใช้สีดำล้วนไม่มีพ่นสีเงินเลยสักนิด แม้แต่ในรุ่นท๊อป ซึ่งเป็นการเอาพวงมาลัยรุ่นโลว์ของ Swift มาใส่
- เบาะหนังไม่สามารถแยกหมอนรองคอได้ทุกตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย ข้อนี้ดูดูถูกผู้บริโภคมากไป
สำหรับค่ายอื่นๆผมคิดว่าทำรถเล็กไม่เก่งเท่า Suzuki อย่าง Brio นั้นก็ทำออกมาไม่ดีพอจึงต้องเลิกทำตลาดไป
แต่ที่จริงแล้วขนาดของตัวรถสามารถดึงดูดความสนใจจากสาวๆได้มาก
บางทีเราก็ไม่รู้เบื้องหลังว่าเรื่องภาษีเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รถเล็กพวกนี้เติบโตไม่ได้ ทำให้อุปกรณ์ทุกอย่างต้องถูกตัดเหี้ยน
ถ้ามีนโยบายส่งเสริมรถเล็กขนาด A segment ได้ ที่สามารถทำราคาเชื่อมต่อกับกลุ่มคนใช้มอเตอร์ไซค์ที่สามารถช่วยให้พวก
เขาเขยิบมาซื้อรถได้มากขึ้น ก็จะเป็นการสร้างบันไดที่มีความต่อเนื่อง เพราะคนใช้มอเตอร์ไซค์ต้องก้าวกระโดดในการขึ้นไปจับ
กับรถราคา 4-5 แสนซึ่งแพงมากไปสำหรับพวกเขา ไม่ใช่แต่รถเล็ก รถกระบะจิ่ว รถตู้จิ่งก็ควรได้รับการส่งเสริมด้วย
ผมถือว่ามันเป็นบันไดที่ช่วยให้คนค่อยๆเขยิบระดับชั้นขึ้นมาได้โดยไม่มีความเดือดร้อน
เรื่องรถมือสองนี่ช่วยอะไรไม่ได้ ดอกแพงมาก ค่าซ่อมค่าดูแลต่างๆไม่สามารถตอบโจทย์คนที่กำลังต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจได้
เรื่องวิกฤตเศรษฐกิจกับเรื่องการฟื้นตัวนี่ทำให้ผมนึกถึงเรื่องรถเล็กในญี่ปุ่นมาก
ทำไมเราไม่สร้างพื้นที่ให้กับรถเล็กบ้าง สำหรับคนตัวเล็กในสังคม (หมายถึงสถานะทางสังคม)
เรากำลังขยายตัวถังไปเรื่อยๆไปในแนวทางยุโรปหรืออเมริกา ซึ่งเป็นการตอบสนองคนชนชั้นกลางขึ้นไปเท่านั้น
ทำไมถึงมีคนหารถตู้ไดฮัทสุเล็กๆมาทำธุรกิจ ซึ่งมันเคยเป็นรถจดประกอบที่อันตรายแต่คนก็จำเป็นต้องใช้
ทำไมเราถึงตัดการสนับสนุนให้มีการสร้างรถเล็กประหยัดพลังงานที่มีราคาเป็นมิตรต่อคนส่วนใหญ่ของประเทศไป
ทำไมเรายกปัญหานี้ไปให้ตลาดรถมือสองเป็นหนทางแก้ไข ซึ่งทำให้คนมีปัญหาหนี้มากขึ้น จากดอกเบี้ยที่แพงมาก
ซึ่งเรื่องส่งเสริมการขนส่งสาธารณะก็ต้องทำควบคู่กันไป ผมไม่ได้หมายความว่าให้ทุกคนมาขับรถจนรถติดเต็มถนนนะ
ถ้าขนส่งมวลชนดี และมีรถราคาถูก คนทั่วไปก็สามารถเลือกทางใดทางหนึ่ง แต่ในทุกวันนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกสักทาง
ซึ่งการพัฒนารอบทิศทางมันจะช่วยปัญหาเรื่องรถล้นถนนเอง มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แล้วเอามาเป็นเงื่อนไข
ให้มีการติดล็อกทางความคิด ผมคิดว่าการที่ไม่มีการสนับสนุนรถเล็กๆมันเป็นเรื่องที่ผิดธรรมชาติ ยิ่งกับเมืองใหญ่
ที่เราเห็นกระบะคันโตและ SUV วิ่งขวักไขว่ไปทั่ว ผู้ที่ออกนโยบายควรเล็งเห็นว่าควรช่วยเหลืออะไร มากกว่าจะปล่อย
ให้เป็นไปตามกลไกตลาดอย่างเดียว เพราะก่อนหน้านั้นก็เคยช่วยเหลือกันมาก่อน เพื่อให้เกิดการผลิตที่มีความเหมาะสม
ซึ่งพวกนี้มันต้องมีการปรับนโยบายไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ห้ามไปแตะต้องมันอีกแล้วปล่อยกลไกตลาดทำงานแบบสุดโต่ง
ผมเห็นด้วยว่ารถ B segment ในปัจจุบันขนาดกำลังดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับตลาดในเวลานี้ แต่มันอาจจะเหมาะ
สำหรับเราแต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน มันยังมีคนที่สัมผัสและเข้าไม่ถึงได้อย่างเราๆ เวลาที่เราทิ้งใครไว้เบื้องหลังเราจะไม่เห็น
และลืมพวกเขาไป ผมเข้าใจว่าอินโดเห็นช่องนี้และสนับสนุนด้วยนะ ซึ่งผมเสียดายถ้าเราจะมองข้ามข้อเท็จจริงนี้ไป
วิกฤตไวรัสนี้อาจเป็นโอกาสสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้าได้เช่นกัน แต่ถ้าเราทำอะไรเหมือนเดิมๆ
และปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมมันก็จะดีขึ้นมาได้จากการดิ้นรนของแต่ละคน แต่มันก็ทำให้เสียโอกาสดีๆสำหรับการเปลี่ยนแปลงไป
หลังวิกฤตนี้ ที่ทำให้คนยากจนลงมาก ผมว่าตลาดรอรถเล็กราคาถูกออพชันพื้นฐานครบๆ นะครับ
ผมเพิ่งรู้ว่ามีคนฆ่าตัวตายไปไม่น้อยกว่าคนที่ตายจากไวรัสเลย นั่นบ่งบอกว่าคนยากจนลงมากขนาดไหน
เคยมีคนเปรียบเทียบว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจอาจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าช่วงสงครามโลกด้วยซ้ำ แต่ผมจำแหล่งอ้างอิงไม่ได้
ผมจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าพวกประเทศหลังสงครามนั้น เติบโตมากับรถเล็กในการใช้ทำมาหากิน
เพราะคนต้องอาศัยรถในการทำมาหากิน ที่บอดี้ไม่ต้องใหญ่ แต่มีภายในที่กว้าง มีออพชันพื้นฐานครบๆ ราคาไม่แพง
พวกบริษัทรถที่เน้นทำรถขนาดเล็กน่าจะรู้ว่านี่คือโอกาสทำรถขนาดเล็กเลยนะ
Suzuki Celerio นี่ผมว่ามันมาก่อนเวลามากเกินไป มันมาในช่วงที่คนยังจ่ายเงินซื้อ Swift ได้
โดยไม่จำเป็นต้องลดขนาดลงมาซื้อ Celerio จริงอยู่ ตัวรถเองมันก็โดนตัดออพชันเยอะมาก การตกแต่งด้านความสวยงาม
ก็แย่กว่า Swift แบบฟ้ากับเหว แต่พอมาถึงยุคนี้ ผมกลับมองว่ามันเป็นรถแนวที่ตอบโจทย์ตามสภาวะนี้ได้เลย
แต่ Suzuki ต้องแต่งตัว Celerio ให้มันดูดีกว่าที่เป็นอยู่ อย่างน้อยทำมาแบบในภาพก็ยังดี
ภายในก็อย่างก พวงมาลัยเอาของ Swift มาใส่แทน ก็จะทำให้ภายในสวยขึ้นจม
ถ้าไม่นับเรื่องวิกฤต จริงๆแล้วก็มีตลอดรอคอยรถขนาดเล็ก 'แต่มีภายในที่จุและนั่งสบาย' มาตลอดนะ
ผู้หญิงจำนวนมากไม่ชอบรถใหญ่ๆ แต่ชอบรถเล็กๆพอตัวที่นั่งสบาย มีราคาที่เหมาะสมกับขนาดและรูปร่างหน้าตา
ซึ่ง Celerio ในเวลานั้นมันไม่ตอบโจทย์ตรงที่ เพิ่มเงินอีกหน่อยก็ได้รถที่สวยกว่ามากอย่าง Swift
ดังนั้น ผู้ผลิตรถยนต์ควรจะรู้ว่า ราคาคงจะต่ำกว่ารถ Eco car B segment ประมาณเท่าไหร่ และควร
ให้อุปกรณ์และการตกแต่งที่ดูดีระดับใด เพราะถ้ามันตอบโจทย์คนที่กำลังจะเปลี่ยนจากรถมอเตอร์ไซค์มาเป็นรถเก๋งขนาดเล็กได้
จำนวนยอดขายทำได้เยอะแน่นอน
สิ่งที่ Celerio ดูแย่คือ รูปทรงไม่ผ่าน แต่นั่นก็ยังไม่แย่เท่า กับที่ไม่มีการตกแต่งเล็กๆน้อยๆที่ทำให้ตัวรถดูมีค่าขึ้น
- เสาบีกลางรถถูกปล่อยเป็นสีตัวถังเปล่าเปลือย
- ล้อแม็กติดรถที่ไม่มีความสวยและดูเล็กมาก ควรจะเป็นโทนดำ กับมีคิ้วซุ้มล้อที่ช่วยหลอกตาให้ล้อดูใหญ่ขึ้น
- ไม่มีไฟตัดหมอก แล้วก็ไม่มีเบ้าที่ทำออกมาปิดให้ดูเหมาะสม ถูกปล่อยเป็นรูโหว่ๆกลมๆ
- หลังคาที่ดูสูงโย่งแต่หน้าแบน ก็ควรทำสีหลังคาให้ดำเพื่อหลอกตาให้รถดูสมส่วนขึ้น
- กระจกมองข้างทำสีแดงสีส้มตัดๆให้มันดูน่ารักหน่อยก็ยังดี
- พวงมาลัยทำไมต้องใช้สีดำล้วนไม่มีพ่นสีเงินเลยสักนิด แม้แต่ในรุ่นท๊อป ซึ่งเป็นการเอาพวงมาลัยรุ่นโลว์ของ Swift มาใส่
- เบาะหนังไม่สามารถแยกหมอนรองคอได้ทุกตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย ข้อนี้ดูดูถูกผู้บริโภคมากไป
สำหรับค่ายอื่นๆผมคิดว่าทำรถเล็กไม่เก่งเท่า Suzuki อย่าง Brio นั้นก็ทำออกมาไม่ดีพอจึงต้องเลิกทำตลาดไป
แต่ที่จริงแล้วขนาดของตัวรถสามารถดึงดูดความสนใจจากสาวๆได้มาก
บางทีเราก็ไม่รู้เบื้องหลังว่าเรื่องภาษีเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รถเล็กพวกนี้เติบโตไม่ได้ ทำให้อุปกรณ์ทุกอย่างต้องถูกตัดเหี้ยน
ถ้ามีนโยบายส่งเสริมรถเล็กขนาด A segment ได้ ที่สามารถทำราคาเชื่อมต่อกับกลุ่มคนใช้มอเตอร์ไซค์ที่สามารถช่วยให้พวก
เขาเขยิบมาซื้อรถได้มากขึ้น ก็จะเป็นการสร้างบันไดที่มีความต่อเนื่อง เพราะคนใช้มอเตอร์ไซค์ต้องก้าวกระโดดในการขึ้นไปจับ
กับรถราคา 4-5 แสนซึ่งแพงมากไปสำหรับพวกเขา ไม่ใช่แต่รถเล็ก รถกระบะจิ่ว รถตู้จิ่งก็ควรได้รับการส่งเสริมด้วย
ผมถือว่ามันเป็นบันไดที่ช่วยให้คนค่อยๆเขยิบระดับชั้นขึ้นมาได้โดยไม่มีความเดือดร้อน
เรื่องรถมือสองนี่ช่วยอะไรไม่ได้ ดอกแพงมาก ค่าซ่อมค่าดูแลต่างๆไม่สามารถตอบโจทย์คนที่กำลังต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจได้
เรื่องวิกฤตเศรษฐกิจกับเรื่องการฟื้นตัวนี่ทำให้ผมนึกถึงเรื่องรถเล็กในญี่ปุ่นมาก
ทำไมเราไม่สร้างพื้นที่ให้กับรถเล็กบ้าง สำหรับคนตัวเล็กในสังคม (หมายถึงสถานะทางสังคม)
เรากำลังขยายตัวถังไปเรื่อยๆไปในแนวทางยุโรปหรืออเมริกา ซึ่งเป็นการตอบสนองคนชนชั้นกลางขึ้นไปเท่านั้น
ทำไมถึงมีคนหารถตู้ไดฮัทสุเล็กๆมาทำธุรกิจ ซึ่งมันเคยเป็นรถจดประกอบที่อันตรายแต่คนก็จำเป็นต้องใช้
ทำไมเราถึงตัดการสนับสนุนให้มีการสร้างรถเล็กประหยัดพลังงานที่มีราคาเป็นมิตรต่อคนส่วนใหญ่ของประเทศไป
ทำไมเรายกปัญหานี้ไปให้ตลาดรถมือสองเป็นหนทางแก้ไข ซึ่งทำให้คนมีปัญหาหนี้มากขึ้น จากดอกเบี้ยที่แพงมาก
ซึ่งเรื่องส่งเสริมการขนส่งสาธารณะก็ต้องทำควบคู่กันไป ผมไม่ได้หมายความว่าให้ทุกคนมาขับรถจนรถติดเต็มถนนนะ
ถ้าขนส่งมวลชนดี และมีรถราคาถูก คนทั่วไปก็สามารถเลือกทางใดทางหนึ่ง แต่ในทุกวันนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกสักทาง
ซึ่งการพัฒนารอบทิศทางมันจะช่วยปัญหาเรื่องรถล้นถนนเอง มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แล้วเอามาเป็นเงื่อนไข
ให้มีการติดล็อกทางความคิด ผมคิดว่าการที่ไม่มีการสนับสนุนรถเล็กๆมันเป็นเรื่องที่ผิดธรรมชาติ ยิ่งกับเมืองใหญ่
ที่เราเห็นกระบะคันโตและ SUV วิ่งขวักไขว่ไปทั่ว ผู้ที่ออกนโยบายควรเล็งเห็นว่าควรช่วยเหลืออะไร มากกว่าจะปล่อย
ให้เป็นไปตามกลไกตลาดอย่างเดียว เพราะก่อนหน้านั้นก็เคยช่วยเหลือกันมาก่อน เพื่อให้เกิดการผลิตที่มีความเหมาะสม
ซึ่งพวกนี้มันต้องมีการปรับนโยบายไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ห้ามไปแตะต้องมันอีกแล้วปล่อยกลไกตลาดทำงานแบบสุดโต่ง
ผมเห็นด้วยว่ารถ B segment ในปัจจุบันขนาดกำลังดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับตลาดในเวลานี้ แต่มันอาจจะเหมาะ
สำหรับเราแต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน มันยังมีคนที่สัมผัสและเข้าไม่ถึงได้อย่างเราๆ เวลาที่เราทิ้งใครไว้เบื้องหลังเราจะไม่เห็น
และลืมพวกเขาไป ผมเข้าใจว่าอินโดเห็นช่องนี้และสนับสนุนด้วยนะ ซึ่งผมเสียดายถ้าเราจะมองข้ามข้อเท็จจริงนี้ไป
วิกฤตไวรัสนี้อาจเป็นโอกาสสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้าได้เช่นกัน แต่ถ้าเราทำอะไรเหมือนเดิมๆ
และปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมมันก็จะดีขึ้นมาได้จากการดิ้นรนของแต่ละคน แต่มันก็ทำให้เสียโอกาสดีๆสำหรับการเปลี่ยนแปลงไป