การเปิดร้านอาหารเป็นความฝันของหลายๆคนที่อยู่ในอเมริกาเลยก็ว่าได้ นุ่นว่าสาเหตุของหลายๆคนน่าจะมาจากอยากกินอาหารรสชาติไทยๆ ที่ที่นี่หายากซะเหลือเกิน มาดูดีกว่าว่าถ้าตัดสินใจจะเปิดร้านที่นี่ มีอะไรที่ต้องรู้บ้าง

1.       Location Location Location ถ้าได้ทำเลดี ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง
2.       ข้อที่สองคือจ่ายไหวรึเปล่า อยากได้ร้านทำเลดี ค่าเช่าร้านก็แพงตามไปด้วย กรณีที่ซื้อร้านต่อเราก็จะมีข้อมูลจากคนขายว่ายอดขายต่อเดือนเท่าไหร่ แล้วต้องจ่ายค่าเช่าเท่าไหร่ คร่าวๆคือค่าเช่าไม่เกิน  8%  ของยอดขาย หรือถ้าเทียบง่ายๆ ทำสองสามวันต้องจ่ายค่าเช่าได้แล้ว ไม่งั้นเหนื่อย เช่นถ้าค่าเช่า 2,500 ต่อเดือน แสดงว่าร้านควรจะขายได้ เดือนละ 30,000 หรือวันละพันเป็นอย่างน้อย
3.       สัญญาเช่าร้าน อันนี้ก็สำคัญ โดยทั่วไปจะทำสัญญาห้าปี ต่อได้ครั้งละห้าปีอีกสองครั้ง โดยส่วนมากเจ้าของที่จะให้คนเช่าค้ำประกัน หรือเรียกว่า  Personal Guarantee พูดง่ายๆว่าถ้าเราไม่จ่ายค่าเช่า เจ้าของที่สามารถฟ้องล้มละลาย ยึดสินทรัพย์ทุกอย่างที่เรามียกเว้นบ้านกับเงินเกษียณมาใช้หนี้ ตอนนี้สถานการณ์โควิดก็ทำให้คนเช่าปวดหัวไปตามๆกัน ถ้าเป็นไปได้พยายามทำ Personal Guarantee แค่ปีเดียว 
4.       กำไรร้านอาหารอยู่ที่ 10% ของยอดขาย หรือว่าถ้าคิดเงินเดือนผู้บริหารก็อยู่ที่ 10% ของยอดราคาขายเช่นเดียวกัน ธุรกิจร้านอาหารแข่งขันกันสูงกำไรก็ไม่เยอะ ร้านที่ขายเหล้าเบียร์ด้วยกำไรจะดีกว่าเพราะต้นทุนอาหารแพงกว่าต้นทุนเครื่องดื่ม
5.       ราคาร้านอาหารที่เราซื้อ สุดท้ายก็กลับมาเป็นต้นทุนของเราอยู่ดี การประเมินราคาร้านอาหารใช้อยู่สองวิธีคือคิดเทียบกับยอดขาย หรือเทียบกับกำไรขั้นต้น

อันนี้เล่าให้ฟังแบบคร่าวๆนะคะ ใครมีคำถามอะไรฝากไว้ได้เลยค่ะ หรือถ้าใครเป็นเจ้าของร้านอาหารอยู่แล้วอยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ก็ยินดีค่ะ
ถ้าใครอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือว่าสนใจซื้อขายกิจการในอเมริกาก็แวะมาคุยกันได้นะคะ 

https://www.facebook.com/thaibusinessadvisor/