JJNY : ทบ. เผยแผนจัดซื้อฯยานเกราะ50คัน4.5พันล้าน/พิธาย้ำยุบอนค.ได้แต่ร่าง/ชาวไร่อ้อยกุมขมับ/ทั่วโลกติดเชื้อโควิด2.5ล.

ทบ. เผยแพร่แผนจัดซื้อฯ งบฯ 63 ยานเกราะล้อยาง 50 คัน 4.5 พันล้าน
https://prachatai.com/journal/2020/04/87304

 
กองจัดหากรมสรรพาวุธทหารบก เผยแพร่ ประกาศ แผนการจัดซื้อจัดจ้าง ประจำปีงบประมาณ 63 เรื่อง ยานเกราะล้อยาง พร้อมระบบอาวุธ และการบริการทางเทคนิค ฯลฯ จำนวน 50 คัน โดยวิธี FMS 4,515,000,000 บาท ขณะที่เมื่อต้นเดือน เม.ย. ทบ.ระบุจะทบทวนภาพรวมการใช้งบทั้งหมด โดยไม่กระทบต่อสัญญากับต่างประเทศ
 
21 เม.ย.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์กองจัดหากรมสรรพาวุธทหารบก เผยแพร่ ประกาศ กองทัพบก โดย กรมสรรพาวุธทหารบก เรื่อง เผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เรื่อง ยานเกราะล้อยาง พร้อมระบบอาวุธ และการบริการทางเทคนิค ฯลฯ จำนวน 50 คัน โดยวิธีFMS
 
โดยระบุว่า ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี และประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด และให้ปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานที่ปิดประกาศของหน่วยงานของรัฐ นั้น
 
กองทัพบก โดยกรมสรรพาวุธทหารบก ขอประกาศเผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2563 ตามเอกสารที่แนบท้ายประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ 20 เม.ย.2563  ลงนามโดย พล.ท.ศรชัย กาญจนสูตร เจ้ากรมสรรพาวุธ์ทหารบก
 
ที่มา : เว็บไซต์กองจัดหากรมสรรพาวุธทหารบก
 
รายละเอียดแนบท้ายประกาศฯ M63040017418 รหัสแผนจัดซื้อจัดจ้าง P63040021004 ยานเกราะล้อยาง พร้อมระบบอาวุธ และการบริการทางเทคนิค ฯลฯ จำนวน 50 คัน โดยวิธีFMS งบประมาณโครงการ 4,515,000,000 บาท คาดว่าจะประกาศจัดซื้อจัดจ้าง เดือนเม.ย. 2563
 
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา กรมสรรพาวุธทหารบก ก็มีประกาศเรื่อง เผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เรื่อง การจ้างซ่อมปรับปรุงปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ขนาด 40 มิลลิเมตร แอล 70 จำนวน 19 หน่วยยิง 446,500,000 บาท และเผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เรื่อง สป.5 สำหรับสนับสนุนรถถังหลัก แบบ VT4 จำนวน 4 รายการ  199,998,825 บาท
 
ขณะที่เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา สื่อหลายสำนัก เช่น ไทยรัฐออนไลน์ และข่าวสดออนไลน์ รายงานไว้ว่า จากมติคณะรัฐมนตรีให้กระทรวงต่างๆ พิจารณาตัดโอนงบประมาณเพื่อนำมาช่วยเหลือประชาชนในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด โดยกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพถูกจับตามองเรื่องการปรับลดงบประมาณในการจัด ซื้ออาวุธ มาเพื่อนำมาสนับสนุนแผนงานช่วยประชาชน จากข้อมูลพบว่าในกรอบวงเงินงบประมาณปี 2563 กระทรวงกลาโหมได้รับการจัดสรรงบประมาณ 2.3 แสนล้านบาท แบ่งเป็นงบประจำ 70 % และ งบลงทุน 30 % ซึ่งตามรายงานข่าวระบุด้วยว่าเหล่าทัพจะกลับไปทบทวนภาพรวมทั้งหมด โดยในส่วนของ กองทัพบก ได้แก่ โครงการจัดหายุทโธกรณ์ ที่หมายรวมถึงการซ่อมบำรุง และการปรับปรุงพัฒนาขีดความสามารถของอาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อให้เกิดความพร้อมใช้ โดยมีแผนจัดซื้อ ประกอบด้วย
 
• ยานเกราะลำเลียงพล หรือ สไตรเกอร์ ล็อต 2 จำนวน 50 คัน วงเงิน 4,500 ล้านบาท
• แผนจัดซื้อปืนใหญ่ขนาด 155 มม. เพื่อทดแทนของเก่า วงเงิน 2,000 ล้านบาท
• โครงการจัดซื้อปืนใหญ่ขนาด 105 มม.วงเงิน 900 ล้านบาท โครงการจัดซื้อเครื่องบินแบบใช้งานทั่วไปวงเงิน 1,350 ล้านบาท
• แผนจัดซื้อรถถังวีที 4 ล็อตที่ 3 วงเงิน 1,600 ล้านบาท
 
โดยวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ไทยรัฐ รายงานประเด็นนี้เพิ่มเติมด้วยว่า พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการพิจารณาตัดโอนงบ ประมาณ 2563 เพิ่มเติมว่า โครงการไหนสมควรชะลอก็ควรชะลอ โครงการไหนดำเนินการในปีต่อๆไป โดยไม่กระทบต่อสัญญากับต่างประเทศก็ต้องทำ ขณะนี้เหล่าทัพกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะมีโครงการใดบ้างในงบฯปี 63 และจะหารือกันต่อเนื่องไปถึงโครงการในงบฯปี 64 ในภาพรวมด้วย หลักการทบทวนโครงการคือดูการดำรงสภาพความพร้อมต่อไป 
 

 
'พิธา'ย้ำครบ 2 เดือนยุบ อนค.ได้แต่ร่างกาย - ลุยบี้เปิดสภาสมัยวิสามัญแก้โควิด-19
https://voicetv.co.th/read/Yms8ImnrZ
 
หัวหน้าพรรคก้าวไกลโพสต์ครบ 2 เดือนยุบ อนค. เผยเสียใจที่ลูกสาวต้องมาเผชิญสังคมแปลกๆ ปลุกทุกฝ่ายอย่าศิโรราบ ลั่นยุบได้แต่ร่างกายแต่จิตวิญญาณยังอยู่ ยืนยัน ส.ส.ก้าวไกลพร้อมลุยช่วยเหลือประชาชนฝ่าวิกฤตโควิด-19 บี้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ
 
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กถึงวันครบรอบ 2 เดือนที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคอนาคตใหม่เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมาพร้อมเพิกถอนสิทธิการเมืองคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี โดยระบุว่า นับย้อนหลังไปหนึ่งปีกว่า การเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่ทำให้กระดิ่งในใจของใครหลายๆ คนสั่นดังขึ้นมา แน่นอนว่าการที่พรรคโดนยุบลงไปทำให้หลายคนเสียใจ ความรู้สึกของตนในวันนั้น ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ เรื่องนี้ถึงแม้ว่ามันไม่ควรเกิดขึ้นเลย แต่ไม่ใช่เรื่องเกินคาดในสังคมไทยที่มีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ความรู้สึกตนในวันนั้นนอกจากในฐานะผู้แทนราษฎรคนหนึ่ง ตนยังเป็นพ่อที่มีลูกสาวอายุเพียง 4 ขวบ ตนเสียใจที่ลูกสาวตนต้องมาอยู่ในสังคมแบบนี้ และยังยืนยันตั้งใจจะส่งต่อประเทศไทยที่ดีกว่านี้ให้กับลูกหลานของพวกเรา
 
“พาหนะที่ชื่อพรรคอนาคตใหม่สิ้นสุดลง แต่คนยังเดินทางต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้กล่าวไว้ในวันนั้น เราได้แยกออกมาเป็นพาหนะ 2 คัน ที่ชื่อว่า คณะก้าวหน้า - Progressive Movement และ พรรคก้าวไกล - Move Forward Party ผมต้องขอบคุณสำหรับความไว้วางใจ และขอรับปากว่าจะทำให้ดีที่สุดในฐานะหัวหน้าพรรค โดย 2 เดือนที่ผ่านมานี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราจะไม่ล้มเลิก และอยากย้ำกับทุกท่านอีกครั้งว่า อย่าศิโรราบ อย่าหยุดหวัง อย่าหยุดเดินทาง"
 
นายพิธา ระบุว่า ตนได้พูดไว้ในวันที่ 21 ก.พ. ว่าถึงแม้ว่าตนไม่ได้เป็นดาวฤกษ์เหมือนนายธนาธรและนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่แต่ในเวลาที่มันมืดมนที่สุด เมื่อหิ่งห้อยมารวมตัวกัน มันยังสว่างขึ้นมาได้ เราจะเป็นดาวกระจาย ที่รวมตัวกันเมื่อไร ยังสว่างไสวในเวลาที่สังคมต้องการเรามากที่สุด และถ้าประชาชนทุกคนร่วมถือเทียนคนละเล่ม ซักวันหนึ่ง ก็จะสว่างเท่ากับดาวฤกษ์ได้
 
"ท่ามกลางวิกฤตใหญ่ครั้งนี้ รัฐบาลภายใต้แกนนำของพล.อ.ประยุทธ์ จะสอบผ่านหรือไม่นั้น ประชาชนชนจะเป็นผู้ตัดสิน ส่วนส.ส.พรรคก้าวไกลนั้นเดินหน้าทำงาน กระจายกันออกไปให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการแจกข้าวสารอาหารแห้ง เจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย รวมถึงการสรุปและกระจายข้อมูลต่างๆ ให้ประชาชนได้รับทราบ ทำข้อเสนอมาตรการต่างๆ เสนอทางรัฐบาลอยู่ตลอด และที่สำคัญคือนำความเดือดร้อนของประชาชนที่เราได้พบเจอ มาสะท้อนเพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือให้เร็วที่สุดผ่านกลไกต่างๆ และพวกเราพร้อมทำหน้าที่ในสภาอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งพรรคก้าวไกลได้เสนอให้เปิดสภาสมัยวิสามัญให้เร็วที่สุด"
 
นายพิธา ระบุว่า "เราจะพิสูจน์ให้เห็นต่อไปว่าการยุบพรรคอนาคตใหม่ เขายุบได้แค่ร่างกายเท่านั้น แต่จิตวิญญาณ อุดมการณ์ และความคิดยังคงอยู่ต่อไป ประเทศไทยยังต้องเดินหน้า ความเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้ เราจะเดินหน้าทำงานในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของคนส่วนใหญ่ โดยคนส่วนใหญ่ เพื่อพี่น้องประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ"
 
https://www.facebook.com/timpitaofficial/posts/2566044843502144
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่