ผมเป็นหนึ่งในผู้ไม่เห็นด้วยกับมาตรการปิด และล้อคดาวน์ทุกสิ่งอย่างตั้งแต่เดือนก่อน เพราะผมมองว่ามีแต่จะทำให้เศรษฐกิจพังพินาศโดยไม่จำเป็น และไม่สามารถทราบได้เลยว่าจะกลับมาเปิดเมื่อไหร่ และสุดท้ายก็ทำให้หมดไปไม่ได้อยู่ดี แล้วก็จะหมดความอดทนต้องกลับมาเปิดอยู่ดี สู้สร้างมาตรฐานใหม่ๆในการเปิดกิจการต่างๆ มาตรฐานการเข้าห้างร้านที่เข้มงวด มาตรการคัดกรองที่มากขึ้น จะดีกว่าการปิดทุกอย่างหมด

อย่างไรก็ตาม พอเริ่มมาตรการปิดตัวทางเศรษฐกิจไปแล้ว ผลก็คือตัวเลขผู้ติดเชื้อย่อมน้อยลง ตรงตามวัตถุประสงค์ และมันก็แสดงให้เห็นค่อนข้างชัดเจนแล้ว ว่าคุณทำให้มันศูนย์ไม่ได้ มันไม่มีทางเกิดขึ้น ยังไงผู้ติดเชื้อแฝงก็จะแพร่เชื้อมาให้คุณได้เห็นตัวเลข ตลอดไปอีกนานหลายเดือน ไม่มีทางหมด แต่ประโยชน์ของมาตรการที่ทำมา ก็ได้ผลในระดับที่ดีคือ บรรเทาภาระของระบบ สธ.

ทีนี้พอมาวันนี้ กลับมาคิดที่เริ่มเดินเครื่องเศรษฐกิจ โดยกิจการแรกๆที่ออกข่าวมา คือห้าง เนี่ย ผมตะลึง

ตะลึงเพราะห้าง คือที่ที่ควบคุมยาก เพราะคนมีจำนวนมาก ทั้งพนักงานเองและลูกค้า กิจการในห้างมีหลากหลายมาก วันๆนึงห้างใหญ่ๆมีคนเดินหลายหมื่นคน ความเสี่ยงมันสูงมาก และมาตรการควบคุมที่ดียังไม่ได้คลอด แต่ออกข่าวมาแล้วว่าจะเปิด

ผมขอเสนอเลย ว่ายังไง โควิท ก็ไม่มีวันจางหายไปไหน มันจะอยู่กับเราตลอดยันปีหน้า ใครที่คิดจะปิดทุกอย่างจนโควิทจบ อันนั้นคือบ้า และไร้เดียงสา
แต่ถ้าคิดจะเปิดเดินเครื่องเศรษฐกิจ ก่อนเปิด ต้องออกระเบียบ และระบบ ในการควบคุมที่ชัดเจน ทำให้มันเป็นมาตรฐานใหม่ไปเลย ว่าจะเข้าร้านอะไร ต้องมีอะไรบ้าง ร้านประเภทไหน ต้องติดตั้งอะไรบ้าง มีมาตรการคัดกรองหน้าร้านอย่างไรบ้าง กิจการไหน คิดเรื่องนี้เสร็จสรรพพร้อมสรรพแล้ว ค่อยเปิด

ไม่อย่างนั้น ที่ถล่มเศรษฐกิจพังไปเดือนกว่าๆที่ผ่านมา ศูนย์เปล่าแน่ เพราะแค่ super spreader ที่หาไม่เจอ อยู่ในที่ลับ โผล่เข้าห้างไปทีเดียว ตัวเลขคุณก็พุ่งไปเป็นร้อยเป็นพัน

แล้วที่ผ่านมาจะปิดเพื่อ....???