🚘Road Trip Nagoya & Train in Osaka🚅
✈ 6 Day 5 Night นาโกย๊าา-โอซ๊าาก้า📢
✈ Thai Lion Air
📸 Canon 650D+Len Fix 50 F1.8
📸 Canon QL17 + Film Fuji 100
📸 Note 9
🚘 เช่ารถที่ Toyota Rent A Car
🚅 รถไฟเราดูตารางจาก Hyperdia
Facebook :
https://www.facebook.com/ลองเที่ยวเอง-112838357047611/
Covid หายสิ้นปีพอดี มาเตรียมแพลนเที่ยวกันเลย
ดีจ้าา~ "นาโกย่า"เมืองเล็กๆแต่น่ารัก ทริปนี้ไปเที่ยวกันที่ นาโกย่า-โอซาก้า ครั้งนี้เราได้ไปขับรถในต่างประเทศเป็นครั้งแรกในชีวิตกันด้วย ใครอยากลองก็ตามมากันได้นะ ง่ายมากกกกกแบบ ก.ไก่หลายตัว ใครคิดว่ามันยากต้องไปลอง แล้วชีวิตการเที่ยวมันจะดีสุดๆ ไม่ต้องรีบไปตามตารางรถประจำทาง ใช้เวลาตามใจเรามันจะมีอะไรดีกว่านี้อีกหละคู้นนนน เรามาเริ่มกันเลยปะ !!!! เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง
แพลนการเที่ยวครั้งนี้ของเราใช้เวลา 6 วัน 5 คืน เราไปช่วงปลายเดือนธันวา อุณภูมิบนพื้นประมาณ 0-8 องศา (ถ้าไม่มีลมคือสบายมาก) เราได้เที่ยวทั้งธรรมชาติและในเมืองแต่สิ่งที่ตื่นเต้นสุดๆนอกจากการขับรถคือเจอหิมะครั้งแรก ความฝันในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ(Shirakawa-go)ขาวโพลนนไปด้วยหิมะเหมือนหมู่บ้านในเทพนิยาย โอ๊ยยยแค่คิดก็รอวันไปไม่ไหวแล้ววหละคุณ เราใช้เวลาจัดแพลนล่วงหน้าลิสต์ที่เที่ยว ลิสต์รายชื่อร้านของกิน อันไหนไปทันก็ไป ไปไม่ทันก็ไว้กลับไปใหม่เพราะที่นี่ดีจริงๆ
เริ่มจากเตรียมตัว ก่อนไปขับรถที่ญี่ปุ่น ไปอ่านวิธีทำใบขับขี่สากลได้ตามลิ้งค์เลยนะ "
https://ppantip.com/topic/39822056 "
วันแรก
การเดินทางครั้งนี้เราบินกับพี่สิงโต🦁 เวลาบินพอรับได้นะ DMK-NGO , NGO - DMK เราบินจากดอนเมืองช่วงเช้าไปถึงสนามบินนาโกย่า ชุบุเซนแทร์ช่วงบ่ายๆ(พูดให้เต็ม ชื่อเค้าเกร๋ดี🤣) เราลงเครื่องที่Terminal2 หลังจากที่ออกจากเทอมิน่อล ให้เดินเลี้ยวซ้ายขึ้นทางเชื่อมเพื่อไปต่อรถไฟเข้าเมืองนาโกย่าที่Terminal1 ด้วยรถไฟ "Meitetsu" ลงที่สถานี "Kanayama" แล้วต่อ รถไฟใต้ดิน ลงสถานี "Sakae"หลังจากเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟประมาน 1 ชม. ก็ถึงละ จังหวัด Aichi (ใช้เป็นทับศัพท์ไปเลยเนาะจาได้ตรงๆ) เราก็มุ่งมั่นเปิดกูเกิ้ลแมพหาโรงแรมกันก่อนเลย ในทริปนี้การนอนในเมืองเราเลือกนอนในเครือ APA Hotel ซึ่งเค้ามีอยู่ในเมืองใหญ่ๆหลายเมืองเลยหละคุณ หลังจากเข้าที่พักเก็บของเสร็จ ก็ได้เวลาเที่ยวนาโกย่ายามเย็นกันแล้ว เมืองนาโกย่าถ้าเทียบกับโตเกียวและโอซาก้าที่นี่เล็กกว่าแต่ก็เป็นอันดับสามรองจากแค่สองเมืองนั้นนั่นหละ แต่ที่นี่เงียบสงบนะไม่วุ่นวายคุณเชื่อไหมว่าเราแทบไม่เจอคนไทยในเมืองนี้เลย เรียกว่าคนไทยยังไม่ค่อยไปก็ได้นะ ถ้ามีโอกาส ก็ไปเถอะ มันเป็นเมืองที่น่ารักเมืองนึงเลย ป่ะเที่ยวกันดีกว่า
"Sakae" ที่นี่มีแหล่งช็อปปิ้งเยอะเลยนะ มีดองกี้ที่เปิด24ชม. น่าจะถูกใจสาวๆขาช็อป แบรนด์เนมก็มีเยอะส่วนใครชอบของมือสองต้องไปที่นี่เลย Book off ร้านขายของมือสองที่มีแต่ของน่าใช้ อยู่ที่ตึก Skyle Mesa ชั้น 8 มีอะไรจะบอกตึกนี้มีเสื้อผ้าให้ช็อปอีกหลายร้านเลยหละไปเลยอย่ารอช้า เราก็ได้เสื้อกับกางเกงฮีทเทคจากที่ตึกนี้แหละราคาเบากว่าไทย เรียกว่าที่ไทยไม่ต้องช็อปไปนู่นนแจ่มมกว่า
หลังจากช็อปปิ้งเตรียมหนาววันพรุ่งนี้เสร็จแล้วเราก็แวะไปกันที่แลนมาร์คของเมือง นั่นก็คือ Oasis 21 และ Nagoya TV Tower อาจจะไม่มีอะไรมากแวะไปถ่ายรูปสวยๆสัก2-3 รูป รับลมเย็นๆ แล้วหลังจากนั้นก็กลับไปพักผ่อนเตรียมตัว Road Trip ตามล่าหิมะ ในหมู่บ้านที่เหมือนหลุดมาจากเทพนิยายกันดีกว่า
วันที่สอง
เราจัดการเช็คเอ้าท์และฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่โรงแรม เพราะวันนี้เราจะไปนอนค้างที่ Takayama แล้วคืนที่สามเราจะกลับมานอนที่นาโกย่าอีกหนึ่งคืน หลังจากจัดการเรื่องที่โรงแรมเสร็จก็เกือบ 8 โมงแล้ว เรารีบเปิดกูเกิ้ลแมพลากกระเป๋าใบใหญ่อีกใบไปที่รับรถ ดีนะทำการบ้านมาก่อน นัดรับรถตอน8โมง เดินแปปเดียวก็ถึงกันแล้ว ชิววว~ (เราจองรถผ่านเว็ป Toyota Rent A Car ตั้งแต่ที่ไทย ในเว็ปมีภาษาไทยจองได้ง่ายมาก หลังจากจองเสร็จ เราก็ปริ้นเอกสารจากเมลที่เค้าส่งให้เผื่อไปก็ได้นะแต่ที่จริงเปิดเมลให้ดูก็พอ) พอยื่นเอกสารเสร็จเค้าก็ให้เราเช็ครถว่าไม่มีรอยนะ บลา บลา บลา แล้วเค้าก็มีแผนที่ให้ ในแผนที่มี
Map Code ไว้ใส่ในจีพีเอสรถ เค้าบอกกันว่ามันแม่นยำมาก สรุปคือได้รถละไม่มีปัญหาอะไร ก็ไปลุยกันเลย Road Trip ครั้งแรก เย่ 😅
หลังจากพวกเราได้รถ ก็ขับไปยาวๆเลยในเมืองอาจจะต้องระวังคนข้ามถนนหน่อย(เลี้ยวซ้ายไม่ผ่านตลอดนะคุณ ต่อให้คุณไฟเขียวก็ต้องมองคนข้ามถนนนะ😅) แต่พอขึ้นทางด่วนโอ้โหวว พวกคุณเชื่อไหมมันดีมากเลย รถขับกันเป็นระเบียบแซงขวาเสร็จหลบเข้าซ้ายขับง่ายกว่าประเทศไทยเย๊ออออะ
****
- Mapcode คือเลขที่เอาไว้ใส่ใน GPS ของรถสามารถดู Mapcode ได้จาก Google Map
- มีอะไรจะบอกนิดหน่อย ค่าทางด่วนที่นั่นแพงมากเป็นไปได้ให้ถามหาพาสทางด่วนจากพนักงานแล้วเหมาไปเลยรับประกันว่าคุ้ม
- จุดพักรถทุกที่มีของกินอร่อย
วันนี้หลังจากได้ขับรถที่ต่างประเทศครั้งแรกแล้วอย่างที่บอกเราจะไป หมู่บ้านชิราคาวาโกะ(Shirakawa-go) หมู่บ้านที่เหมือนเราหลุดเข้าไปในเทพนิยาย พอขับรถจากเมืองนาโกย่าผ่านอุโมงค์มากมายที่เจาะผ่านทะลุภูเขา แบบที่ต้องอุทานว่าโห ไม่คิดจะอ้อมบ้างเลยหรอ😅
ประมาณ 2 ชม. เราก็มาถึงแล้วหมู่บ้านชิราคาวาโกะ(Shirakawa-go) วันที่เราไปเที่ยว อากาศประมาน 3-4 องศา หิมะจ๋าพี่มาแล้ววว แต่..... เดี๋ยววทำไม๊
ก็หิมะหน่ะสิคุณ มันไม่มาตามนัด ปกติปลายเดือนธันวาแบบนี้หมู่บ้านชิราคาวาโกะของเราน่าจะมีหิมะมาแล้วถ้าไม่ท่วมก็ต้องมีให้ขาวๆแล้วนี่หน่า แต่คุณพระ !!! นี่มันหายไปไหน😭 แต่เอาเถอะ มันก็สวยคนละแบบหละนะ ถึงจะไม่ได้เจอหิมะ หมู่บ้านนี้มันก็ยังสวยอยู่ดีอากาศเย็นๆกับหมู่บ้านที่เงียบสงบไม่วุ่นวายเหมือนเมืองใหญ่ๆ เนื้อย่างร้อนๆสักไม้ถือว่ามันดีมากเลยหละคุณถ้าพวกคุณมีโอกาสไปเถอะลองไปดูรับประกันว่าดีมากจริงๆไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหน ก็ดูสวยไปหหมด

เราเดินถ่ายรูปอยู่ในหมู่บ้านนี้ไม่ต่ำกว่า 3 ชม. เดินจนขนเฟอที่คอหายไปเลยจ้า หล่นไปตอนไหนนานแค่ไหนไม่รู้ แต่หลังจากเปิดรูปดู เอ้ะ !!! อะไรหายไป ฮ่า ฮ่า ฮ่า เรานี่วิ่งเลยจ้าย้อนไปทางที่เดิน พวกคุณเชื่อไหม ความเป็นญี่ปุ่นอะนะหรือจะนักท่องเที่ยวคนไหนก็แล้วแต่นางเก็บให้จ้าเก็บมาพาดไว้กับราวไม้ทางเดิน คือนอกจากไม่หายแล้วยังไม่โดนเหยียบไม่สกปรกด้วย กราบสามทีไปเลยยยย🙏
หลังจากพลาดจากหิมะแต่เต็มอิ่มกับหมู่บ้านที่เหมือนหลุดมาจากนิยาย เราก็มุ่งหน้าไปทาคายาม่ากันเลยที่พักสำหรับคืนที่สาม ขับรถอีกแค่ประมาณ 1 ชม. ก็ถึงแล้วหละ ทาคายาม่าเป็นเมืองเล็กๆที่เงียบสงบมากแต่ก็มีของกินที่อร่อยมากเช่นกัน พอถึงทาคายาม่ามันดูเงียบสงบมากถ้าไปเดินคนเดียวคงเป็นคนเหงาเหมือนคนที่อกหักแล้วเดินไปเรื่อยๆฟังเสียงแม่น้ำแล้วก็ดูคนอื่นใช้ชีวิต แต่....เราไม่ได้อกหักไงเมืองนี้เลยดูไม่เศร้า แต่กลับน่ารักซะด้วยซ้ำใช้ชีวิตแบบง่ายๆไม่ต้องเร่งรีบ ให้เหนื่อยเหมือนชีวิตประจำวันของพวกเรา อยากอยู่สัก 2-3 วันจังแต่ก็ไม่ได้หลอกนะมีที่อื่นรออยู่อีกเพียบ ฮ่า ฮ่า หลังจากเดินเล่นเสร็จเราก็หาของกินตามลอย Youtuber ต่างๆ แบบที่เค้าพูดว่า ร้านเด็ดในเน็ตบอกมาเลยหละ แต่ร้านที่เรากินแล้วรู้สึกชอบมากเลยนะ ต้องไปกินเนื้อฮิดะที่ร้าน "Karakuri" หาจากกูเกิ้ลแมพเลยเดินไปชิวๆ เราไปตั้งแต่ช่วงเย็นๆเลยไม่ต้องจองคิวแต่พอเริ่มมืดลูกค้าเต็มร้านเลยหละ เนื้อฮิดะที่นี่สุดยอดมากๆเลยนะลองไปกินกันดู พออิ่มแปล้เราก็มาเดินย่อยอยู่ในเมืองเดินซอยนู้นทะลุซอยนี้ เดินซอยนี้ทะลุซอยนั้นเรียกว่าไม่อยากกลับเข้าห้องดีกว่า แต่สุดท้ายก็หมดแรงยอมแพ้ กลับโรงแรมอาบน้ำนอนดีกว่า (ลืมบอกเรานอน Country Hotel Takayama มีที่จอดรถให้ด้วยนะ 500 Yen เอง)
[CR] ์Nagoya&Osaka เที่ยวง่ายไปเที่ยวกัน つづく
✈ 6 Day 5 Night นาโกย๊าา-โอซ๊าาก้า📢
✈ Thai Lion Air
📸 Canon 650D+Len Fix 50 F1.8
📸 Canon QL17 + Film Fuji 100
📸 Note 9
🚘 เช่ารถที่ Toyota Rent A Car
🚅 รถไฟเราดูตารางจาก Hyperdia
Facebook : https://www.facebook.com/ลองเที่ยวเอง-112838357047611/
Covid หายสิ้นปีพอดี มาเตรียมแพลนเที่ยวกันเลย
ดีจ้าา~ "นาโกย่า"เมืองเล็กๆแต่น่ารัก ทริปนี้ไปเที่ยวกันที่ นาโกย่า-โอซาก้า ครั้งนี้เราได้ไปขับรถในต่างประเทศเป็นครั้งแรกในชีวิตกันด้วย ใครอยากลองก็ตามมากันได้นะ ง่ายมากกกกกแบบ ก.ไก่หลายตัว ใครคิดว่ามันยากต้องไปลอง แล้วชีวิตการเที่ยวมันจะดีสุดๆ ไม่ต้องรีบไปตามตารางรถประจำทาง ใช้เวลาตามใจเรามันจะมีอะไรดีกว่านี้อีกหละคู้นนนน เรามาเริ่มกันเลยปะ !!!! เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง
แพลนการเที่ยวครั้งนี้ของเราใช้เวลา 6 วัน 5 คืน เราไปช่วงปลายเดือนธันวา อุณภูมิบนพื้นประมาณ 0-8 องศา (ถ้าไม่มีลมคือสบายมาก) เราได้เที่ยวทั้งธรรมชาติและในเมืองแต่สิ่งที่ตื่นเต้นสุดๆนอกจากการขับรถคือเจอหิมะครั้งแรก ความฝันในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ(Shirakawa-go)ขาวโพลนนไปด้วยหิมะเหมือนหมู่บ้านในเทพนิยาย โอ๊ยยยแค่คิดก็รอวันไปไม่ไหวแล้ววหละคุณ เราใช้เวลาจัดแพลนล่วงหน้าลิสต์ที่เที่ยว ลิสต์รายชื่อร้านของกิน อันไหนไปทันก็ไป ไปไม่ทันก็ไว้กลับไปใหม่เพราะที่นี่ดีจริงๆ
เริ่มจากเตรียมตัว ก่อนไปขับรถที่ญี่ปุ่น ไปอ่านวิธีทำใบขับขี่สากลได้ตามลิ้งค์เลยนะ " https://ppantip.com/topic/39822056 "
วันแรก
การเดินทางครั้งนี้เราบินกับพี่สิงโต🦁 เวลาบินพอรับได้นะ DMK-NGO , NGO - DMK เราบินจากดอนเมืองช่วงเช้าไปถึงสนามบินนาโกย่า ชุบุเซนแทร์ช่วงบ่ายๆ(พูดให้เต็ม ชื่อเค้าเกร๋ดี🤣) เราลงเครื่องที่Terminal2 หลังจากที่ออกจากเทอมิน่อล ให้เดินเลี้ยวซ้ายขึ้นทางเชื่อมเพื่อไปต่อรถไฟเข้าเมืองนาโกย่าที่Terminal1 ด้วยรถไฟ "Meitetsu" ลงที่สถานี "Kanayama" แล้วต่อ รถไฟใต้ดิน ลงสถานี "Sakae"หลังจากเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟประมาน 1 ชม. ก็ถึงละ จังหวัด Aichi (ใช้เป็นทับศัพท์ไปเลยเนาะจาได้ตรงๆ) เราก็มุ่งมั่นเปิดกูเกิ้ลแมพหาโรงแรมกันก่อนเลย ในทริปนี้การนอนในเมืองเราเลือกนอนในเครือ APA Hotel ซึ่งเค้ามีอยู่ในเมืองใหญ่ๆหลายเมืองเลยหละคุณ หลังจากเข้าที่พักเก็บของเสร็จ ก็ได้เวลาเที่ยวนาโกย่ายามเย็นกันแล้ว เมืองนาโกย่าถ้าเทียบกับโตเกียวและโอซาก้าที่นี่เล็กกว่าแต่ก็เป็นอันดับสามรองจากแค่สองเมืองนั้นนั่นหละ แต่ที่นี่เงียบสงบนะไม่วุ่นวายคุณเชื่อไหมว่าเราแทบไม่เจอคนไทยในเมืองนี้เลย เรียกว่าคนไทยยังไม่ค่อยไปก็ได้นะ ถ้ามีโอกาส ก็ไปเถอะ มันเป็นเมืองที่น่ารักเมืองนึงเลย ป่ะเที่ยวกันดีกว่า
"Sakae" ที่นี่มีแหล่งช็อปปิ้งเยอะเลยนะ มีดองกี้ที่เปิด24ชม. น่าจะถูกใจสาวๆขาช็อป แบรนด์เนมก็มีเยอะส่วนใครชอบของมือสองต้องไปที่นี่เลย Book off ร้านขายของมือสองที่มีแต่ของน่าใช้ อยู่ที่ตึก Skyle Mesa ชั้น 8 มีอะไรจะบอกตึกนี้มีเสื้อผ้าให้ช็อปอีกหลายร้านเลยหละไปเลยอย่ารอช้า เราก็ได้เสื้อกับกางเกงฮีทเทคจากที่ตึกนี้แหละราคาเบากว่าไทย เรียกว่าที่ไทยไม่ต้องช็อปไปนู่นนแจ่มมกว่า
หลังจากช็อปปิ้งเตรียมหนาววันพรุ่งนี้เสร็จแล้วเราก็แวะไปกันที่แลนมาร์คของเมือง นั่นก็คือ Oasis 21 และ Nagoya TV Tower อาจจะไม่มีอะไรมากแวะไปถ่ายรูปสวยๆสัก2-3 รูป รับลมเย็นๆ แล้วหลังจากนั้นก็กลับไปพักผ่อนเตรียมตัว Road Trip ตามล่าหิมะ ในหมู่บ้านที่เหมือนหลุดมาจากเทพนิยายกันดีกว่า
วันที่สอง
เราจัดการเช็คเอ้าท์และฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่โรงแรม เพราะวันนี้เราจะไปนอนค้างที่ Takayama แล้วคืนที่สามเราจะกลับมานอนที่นาโกย่าอีกหนึ่งคืน หลังจากจัดการเรื่องที่โรงแรมเสร็จก็เกือบ 8 โมงแล้ว เรารีบเปิดกูเกิ้ลแมพลากกระเป๋าใบใหญ่อีกใบไปที่รับรถ ดีนะทำการบ้านมาก่อน นัดรับรถตอน8โมง เดินแปปเดียวก็ถึงกันแล้ว ชิววว~ (เราจองรถผ่านเว็ป Toyota Rent A Car ตั้งแต่ที่ไทย ในเว็ปมีภาษาไทยจองได้ง่ายมาก หลังจากจองเสร็จ เราก็ปริ้นเอกสารจากเมลที่เค้าส่งให้เผื่อไปก็ได้นะแต่ที่จริงเปิดเมลให้ดูก็พอ) พอยื่นเอกสารเสร็จเค้าก็ให้เราเช็ครถว่าไม่มีรอยนะ บลา บลา บลา แล้วเค้าก็มีแผนที่ให้ ในแผนที่มี Map Code ไว้ใส่ในจีพีเอสรถ เค้าบอกกันว่ามันแม่นยำมาก สรุปคือได้รถละไม่มีปัญหาอะไร ก็ไปลุยกันเลย Road Trip ครั้งแรก เย่ 😅
หลังจากพวกเราได้รถ ก็ขับไปยาวๆเลยในเมืองอาจจะต้องระวังคนข้ามถนนหน่อย(เลี้ยวซ้ายไม่ผ่านตลอดนะคุณ ต่อให้คุณไฟเขียวก็ต้องมองคนข้ามถนนนะ😅) แต่พอขึ้นทางด่วนโอ้โหวว พวกคุณเชื่อไหมมันดีมากเลย รถขับกันเป็นระเบียบแซงขวาเสร็จหลบเข้าซ้ายขับง่ายกว่าประเทศไทยเย๊ออออะ
****
- Mapcode คือเลขที่เอาไว้ใส่ใน GPS ของรถสามารถดู Mapcode ได้จาก Google Map
- มีอะไรจะบอกนิดหน่อย ค่าทางด่วนที่นั่นแพงมากเป็นไปได้ให้ถามหาพาสทางด่วนจากพนักงานแล้วเหมาไปเลยรับประกันว่าคุ้ม
- จุดพักรถทุกที่มีของกินอร่อย
วันนี้หลังจากได้ขับรถที่ต่างประเทศครั้งแรกแล้วอย่างที่บอกเราจะไป หมู่บ้านชิราคาวาโกะ(Shirakawa-go) หมู่บ้านที่เหมือนเราหลุดเข้าไปในเทพนิยาย พอขับรถจากเมืองนาโกย่าผ่านอุโมงค์มากมายที่เจาะผ่านทะลุภูเขา แบบที่ต้องอุทานว่าโห ไม่คิดจะอ้อมบ้างเลยหรอ😅
ประมาณ 2 ชม. เราก็มาถึงแล้วหมู่บ้านชิราคาวาโกะ(Shirakawa-go) วันที่เราไปเที่ยว อากาศประมาน 3-4 องศา หิมะจ๋าพี่มาแล้ววว แต่..... เดี๋ยววทำไม๊
ก็หิมะหน่ะสิคุณ มันไม่มาตามนัด ปกติปลายเดือนธันวาแบบนี้หมู่บ้านชิราคาวาโกะของเราน่าจะมีหิมะมาแล้วถ้าไม่ท่วมก็ต้องมีให้ขาวๆแล้วนี่หน่า แต่คุณพระ !!! นี่มันหายไปไหน😭 แต่เอาเถอะ มันก็สวยคนละแบบหละนะ ถึงจะไม่ได้เจอหิมะ หมู่บ้านนี้มันก็ยังสวยอยู่ดีอากาศเย็นๆกับหมู่บ้านที่เงียบสงบไม่วุ่นวายเหมือนเมืองใหญ่ๆ เนื้อย่างร้อนๆสักไม้ถือว่ามันดีมากเลยหละคุณถ้าพวกคุณมีโอกาสไปเถอะลองไปดูรับประกันว่าดีมากจริงๆไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหน ก็ดูสวยไปหหมด
เราเดินถ่ายรูปอยู่ในหมู่บ้านนี้ไม่ต่ำกว่า 3 ชม. เดินจนขนเฟอที่คอหายไปเลยจ้า หล่นไปตอนไหนนานแค่ไหนไม่รู้ แต่หลังจากเปิดรูปดู เอ้ะ !!! อะไรหายไป ฮ่า ฮ่า ฮ่า เรานี่วิ่งเลยจ้าย้อนไปทางที่เดิน พวกคุณเชื่อไหม ความเป็นญี่ปุ่นอะนะหรือจะนักท่องเที่ยวคนไหนก็แล้วแต่นางเก็บให้จ้าเก็บมาพาดไว้กับราวไม้ทางเดิน คือนอกจากไม่หายแล้วยังไม่โดนเหยียบไม่สกปรกด้วย กราบสามทีไปเลยยยย🙏
หลังจากพลาดจากหิมะแต่เต็มอิ่มกับหมู่บ้านที่เหมือนหลุดมาจากนิยาย เราก็มุ่งหน้าไปทาคายาม่ากันเลยที่พักสำหรับคืนที่สาม ขับรถอีกแค่ประมาณ 1 ชม. ก็ถึงแล้วหละ ทาคายาม่าเป็นเมืองเล็กๆที่เงียบสงบมากแต่ก็มีของกินที่อร่อยมากเช่นกัน พอถึงทาคายาม่ามันดูเงียบสงบมากถ้าไปเดินคนเดียวคงเป็นคนเหงาเหมือนคนที่อกหักแล้วเดินไปเรื่อยๆฟังเสียงแม่น้ำแล้วก็ดูคนอื่นใช้ชีวิต แต่....เราไม่ได้อกหักไงเมืองนี้เลยดูไม่เศร้า แต่กลับน่ารักซะด้วยซ้ำใช้ชีวิตแบบง่ายๆไม่ต้องเร่งรีบ ให้เหนื่อยเหมือนชีวิตประจำวันของพวกเรา อยากอยู่สัก 2-3 วันจังแต่ก็ไม่ได้หลอกนะมีที่อื่นรออยู่อีกเพียบ ฮ่า ฮ่า หลังจากเดินเล่นเสร็จเราก็หาของกินตามลอย Youtuber ต่างๆ แบบที่เค้าพูดว่า ร้านเด็ดในเน็ตบอกมาเลยหละ แต่ร้านที่เรากินแล้วรู้สึกชอบมากเลยนะ ต้องไปกินเนื้อฮิดะที่ร้าน "Karakuri" หาจากกูเกิ้ลแมพเลยเดินไปชิวๆ เราไปตั้งแต่ช่วงเย็นๆเลยไม่ต้องจองคิวแต่พอเริ่มมืดลูกค้าเต็มร้านเลยหละ เนื้อฮิดะที่นี่สุดยอดมากๆเลยนะลองไปกินกันดู พออิ่มแปล้เราก็มาเดินย่อยอยู่ในเมืองเดินซอยนู้นทะลุซอยนี้ เดินซอยนี้ทะลุซอยนั้นเรียกว่าไม่อยากกลับเข้าห้องดีกว่า แต่สุดท้ายก็หมดแรงยอมแพ้ กลับโรงแรมอาบน้ำนอนดีกว่า (ลืมบอกเรานอน Country Hotel Takayama มีที่จอดรถให้ด้วยนะ 500 Yen เอง)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้