มีคู่สามีภรรยาคนไหน(คุณสามีเป็นต่างชาติ) ทำงานทั้งคู่แล้วสามีดูแลค่าใช้จ่ายหลักบ้างคะ

เรื่องของเรามีอยู่ว่........ ยาวหน่อยนะคะ เนื่องจากอยากให้เห็นภาพ ในสถานการณ์นี้ไม่ได้อวดอะไรนะคะ เป็นสภาพชีวิตเพื่อประกอบให้เข้าใจชัดเจนคะ) 

เนื่องจากเราโดนแฟนเพื่อนคุณสามี (ผู้หญิงไทย) ถามว่าเราวางแผนอนาคตชีวิตคู่ยังไง ตอนนี้ทำงานมีเงินเองแล้ว ........
ต้องบอกก่อนนะคะว่าเราแต่งงานย้ายมาอยู่ ตปท. กับคุณสามี และสามีก็มีเพื่อนที่มีแฟนคนไทยเหมือนกัน  
ก็เลยมีโอกาสได้พบปะกันบ้าง ตลอดเวลา 7-8 เดือนที่ผ่านมา เราก็ทำตัวปกติเหมือนคนทั่วไป 
ไม่ได้สนใจว่า ใครทำงานอะไร พ่อแม่ครอบครัวเป็นยังไง ก็สังสรรค์เจอก็พูดคุยปกติ (รู้ประวัตินางคร่าวๆจากคุณสามี)
และบังเอิญเราได้งานทำหลังจากย้ายมาอยู่ที่นี่ประมาณ 7 เดือน เป็นพนักงานงานออฟฟิศคะ เพราะเรามี ปสก. แถมเงินก็ได้รายได้ที่ดีกว่าคุณสามีคะ
แต่เราจ่ายภาษีเยอะกว่า พอดีหางานได้เร็ว ยังไม่ทันเตรียมตัวขอเอกสาร หรืออะไรหลายอย่าง 

ด้วยเราเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวลูกยังอยู่ที่ไทย กับคุณแม่เรา เราก็เลยบอกไปว่า ก็เหมือนเดิม นี่เงินเรา เราก็ดูแลลูกเราเป็นหลัก
นางก็ต่อว่าประมาณเราเห็นแกตัว ไม่คิดถึงอนาคตกับสามีเลยเหรอ
ทำตัวจะมาขอเงินสามีใช้เหมือน ผู้หญิงทำงานกลางคืนที่ได้สามีฝรั่งงี้ 
.......งง สิคะ .... 
เราเลยบอก เอ้า ก็เราทำงาน หาเงิน เรามีลูกมีแม่ที่เราต้องดูแล แม่เราไม่ได้มีเงินแบบแม่คุณสามี
เพราะแม่คุณสามรเขามีฐานะ ขนาดเราได้งานใหม่แกยังจะซื้อรถให้เราใช้ไปทำงานเลย 
ส่วนคุณสามีเราเขาก็มีเงินส่วนเขา มีเงินเก็บ มีเงินเดือน
บ้านพวกเราก็มีไม่ได้จ่ายอะไรนอกจากค่าน้ำ ค่าไฟ ทั้งบ้าน ทั้งรถคุณสามีเราซื้อเงินสด
ส่วนถ้าต้องแยกกันไปทำงาน คุณสามีก็จะยกรถคันนี้ให้เรา คุณเขาจะซื้อใหม่ของคุณเขาเอง 
เพราะคันนี้คุณเขาตั้งใจซื้อให้เราแต่แรกตอนย้ายมาอยู่ที่นี่อยู่แล้ว ดีแล้วที่เราไม่ขอเงินเดือนจากคุณสามีต่างหากอีก 
(เราพูดไปก็ขำไป ออกแนวแซวๆ คุณสามี) 

นางก็ต่อว่าเรา เอ้า.... นี้ไม่คิดจะจ่ายอะไรเลย มีแต่เก็บอย่างเดียว เห็นแก่ตัวสุดๆ
เธอไม่ควรทำแบบนี้ เขารักเธอมาก แล้วเธอรักเขามั้ย หรือมาที่นี่เพื่ออะไร 
ส่วนคุณสามีนางก็จัดเราชุดใหญ่ไฟกระพริบ ต่อว่าเราทำไมมีความคิดแบบนี้
ว่าสามีเราอีก ......เอ้า ไปกันใหญ่ พอเราพูดเสียงดัง มีลุกมาต่อว่าเรามาตะคอกใส่เขาทำไม
เอ้า..... ก็ฉันอธิบาย แล้วพวกยูสองคนไม่ฟังคือฉันก็พยายามจะบอก พออๆ ไม่คุยแล้วพอ.... 

งงไก่ตาแตกสิคะ ...... เราก็โมโห คนนะ อยู่ๆ มาถามเอง เราก็ตอบตามที่สถานะการณ์ชีวิตคู่พวกเรามีชีวิตแบบนี้
ชีวิตคู่นางต้องใช้จ่ายเยอะ บิลเยอะมากที่ต้องจ่าย เราทำงานแล้วก็ต้องช่วยสามีสิ
เราก็ เอ้า..... ใครซื้อ คนนั้นต้องรับผิดชอบบิลสิ ไม่งั้นก็เอาเงินถือบัญชีคู่ ใช้อะไรก็ตัดสินใจร่วมกัน 
แบบนี้ เกิดคนนี้ไปซื้อแหวนเพชรมาให้เป็นของขวัญภรรยา แต่สิ้นเดือนมาเราต้องมาจ่ายบิลด้วย
อันนี้มันตลกแล้ว ..... ถ้าแบบนั้นจะซื้อมาให้เป็นของขวัญทำไม
เกิดวันหนึ่งเราอยากซื้อนาฬิกาให้คุณสามี แต่สิ้นเดือนคุณสามีต้องมาจ่ายบิลด้วย
แบบนี้ทะเลาะกันบ้านแตกพอดี ใช้เงินไม่คิด ไม่ถามว่ามันจำเป็นแค่ไหนคุณสามีมีได้ไล่เรากลับไทยกันพอดี

สามีนางที่เป็นเพื่อนคุณสามีเราก็มาช่วยต่อว่าเรา ว่าเราความคิดแย่
นางเลยบอก ภรรยานางความคิดฝรั่ง ไม่เห็นแก่ตัวแบบยู มาอยู่ที่นี่ มีแต่จะมาหาเงินเก็บไม่ช่วยจ่าย ะไร 

เราเลยตัดปัญหา บอก โอเคเราเป็นคนไทย คุณสามีคือคนขอเราแต่งงาน คุณสามีคือคนที่เป็นสามีเรา
ตอนขอให้เราทิ้งทุกอย่างในชีวิจากไทยมาที่นี่ คุณสามีสัญญาว่าจะรักเรา ดูแลเรา อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต
หน้าที่ของสามีคือดูแลรับผิดชอบหลัก เป็นหัวเรือหลัก ไม่ใช่เหรอ ในส่วนเงินของเรา
เรามีแต่ไม่ได้จำนวนมากเท่าสามี แล้วการที่เขาดูแลรับผิดชอบเรา ค่าใช้จ่ายต่างๆในบ้านเป็นหลัก นั้นก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่
ส่วนเงินเรา เราก็เก็บ ถึงเวลาใช้จ่ายเราก็ไม่ต้องขอสามีอีกแล้ว เหตุที่เราทำงานหาเงินเพราะเราทำงานมาตลอด 
อยู่ที่ไทยเรารับผิดชอบดูแลตัวเอง คุณสามีส่งให้เฉพาะเวลาเราอยากได้อะไรพิเศษ 
(เมื่อก่อนเรามาอยู่ใหม่ ๆไปเรียน คุณสามีเป็นคนให้เงินไว้ใช้จ่ายส่วนตัวตลอด)

เราอยากเก็บไว้เวลามีปัญหา ก็เอาเงินเราออกมาใช้ได้ ถึงคุณสามีเราจะทำหน้าที่ของเขาเต็มที่
แต่พอถึงวันฉุกเฉิน เราเองที่เป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด เว้นเสียแต่วันหนึ่งชีวิตคู่มันไม่ถึงฝัน 
ต้องแยก ต้องเลิกกัน ส่วนของเรา เราก็มีติดตัวไม่ลำบาก ส่วนของเขาเราก็ไม่ได้บอกว่าจะเอา

จากรายละเอียดที่ยึดยามาทั้งหมดกับเหตุการณ์ บ้านเกือบแตกนี้
เรา เลยสงสัยว่า ที่เรา และสามีเราปฏิบัติต่อกันในชีวิตพวกเรานี่มันผิดตรงไหน
คือพ่อเราก็ดูแลแม่ พ่อคุณสามีเขาก็ดูแลแม่เขามาตลอด เราเกิดมาในครอบครัวที่พ่อทำหน้าที่ของผู้นำครอบครัวเป็นหลักให้พวกเราเสมอ
ส่วนคุณสามีครอบครัวเขาก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน ลูกเราก็เห็นแบบนี้และเราสอนมาตลอด
ว่าเป็นหนูผู้ชาย ต้องเป็นผู้นำ ต้องดูแลคนที่รักอย่าให้เขาลำบาก ให้ดูอย่างที่คุณพ่อฝรั่งปฏิบัติต่แม่
คุณแม่อยู่สุขสบาย หนูอยากได้อะไรคุณพ่อฝรั่งกับคุณแม่ก็หาให้ 
แต่ต้องช่วยกัน อันไหนสำคัญ อันไหนไม่สำคัญ 

จากการสนทนาวันนั้น เรากลายเป็นคนเห็นแก่ตัวเฉยเลย ?????  กระจายยาวในกลุ่มเพื่อนสามีหมดเลย 55555
แถมตอนนี้สามี ได้ยินเราพูดไม่เท่าไหร่ อีเพื่อนมาบอกสามีว่า แกแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ทำไม เขาไม่รักแกเลย 
กลายเป็นมากังวลเองว่าเราไม่รัก..... จะบ้าตาย อยากจะไม่คบเป็นเพื่อน ก็สงสารสามี
เพราะเป็นเพื่อนเขา เราก็ได้แต่ยิ้ม แล้วบอกช่างเถอะพี่หนูคนไทย นิสัยไทยยังไงสามีหนูก็ต้องดูแลหนู 
ส่วนหนูก็ทำงาน ดูแลลูก ดูแลบ้าน ดูแลสามีในแบบฉบับพวกหนูนี่แหร่ะ 

ใครมีความคิดเห็นยังไงช่วนบอกทีคะ เราอยากรู้ว่าเราผิดมากขนาดนั้นเหรอ 
อยากรู้ความคิดคุณสามีด้วยคะ 

(รายได้ พนง. ออฟฟิศในต่างประเทศ ก็ได้เดือนหนึ่งพอดูอยู่คะ งานเดิมเราที่ไทยคือเลขาผู้บริหาร เราได้เงินที่นี่มากว่าที่ไทย 30% ฉะนั้นรายได้เราต่อเดือนถือว่าเยอะ เราเลยงงว่าเขามาคำนวนเงินเรา แถมมาวิจารณ์เราขนาดนี้ มันใช่เหรอ เอาจริงๆ ผู้หญิงไทย ที่ย้ายมาอยู่ ตปท. 8-9 ปี คิดแบบนี้จริงๆเหรอคะ) 


คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
มันทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะเรื่องราวมันไปไกลเกินที่จะแก้ไขแล้ว ทุกคนคิดลบ ทำได้แค่นิ่ง รอให้เวลามันผ่านไป เลิกติดต่อและพบเจอคนเหล่านี้อีก เวลาจะทำให้เขาเบื่อที่จะวิจารณ์คุณ และมันก็สงบเหมือนคลื่นในทะเล

เราเคยเจอประมาณนี้ แต่ไม่ใช่เรื่องเงินเราเงินเขา แต่เป็นคนทียุแยงว่าเราจะหลอกเอาเงินสามีเราแล้วทิ้งตอนหมดตัว เราก็เฉย นิ่ง รอจนคนพวกนี้เริ่มเหนื่อยและหยุด พอเขาหยุดสามีเราก็เริ่มมีสติ และเห็นว่าคำพูดคนเหล่านั้นแค่ลมปาก เราก็พิสูจน์ได้ว่าเราไม่ได้เอาอะไรเขามา บ้านเราก็ซื้อเอง ผ่อนเอง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เรื่องนี้ผิดที่คุณค่ะ

เค้าถามมาก็แทนที่จะบอกว่า ไม่สะดวกใจจะเล่าเรื่องสถานะการเงินนะคะ หรือแรงๆหน่อ็ก์บอกว่านี่เรื่องภายในครอบครัว เรื่องส่วนตัวมาก ไม่น่ามาถามกัน

แต่ดันไปเล่าให้เค้าฟังหมดจ้า คือพลาดมากเลย นี่ล่ะ อยู่ต่างประเทศใหม่ๆ ไม่มีใครเตือนใช่มั้ยคะ ว่าอย่าคบคนไทย 555 อันนี้เราย้ายอยู่ตปท เป็นสิ่งแรกที่พี่เราเตือนเลยนะคะ จนบัดนี้เราก็ยังไม่เคยคลุกคลีกับคนไทย นอกจากรู้จักผ่านๆจากที่พี่ ที่แม่เล่าให้ฟัง ก็เห็นด้วยกับคำเตือนนี้นะคะ

เถียงกับคนแบบนี้ เถียงยังไงก็ไม่ชนะค่ะ เรื่องจัดการเงิน ไม่มีแบบที่ถูกที่ผิด ไม่เกี่ยงเชื้อชาตินะ บ้านใครบ้านมัน เอาที่สะดวก

ตอนนี้นะ เอาความเชื่อใจจากสามีคืนมาก่อน ค่อยๆกล่อมไป ทำน้อยใจบ้าง ว่าเออ นี่ชั้นภรรยาคุณนะ จะไปฟังคำคนอื่นเค้าได้ยังไง ถ้าชั้นหวังสบายให้คุณเลี้ยง ชั้นไม่หางานทำให้เหนื่อยหรอก อยู่บ้านสบายๆ แล้วขอเงินคุณส่งกลับไทยไม่ดีกว่าเหรอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่