เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ1ปีที่ผ่านมา ความฝันที่จะมีแฟนสักคน มันเป็นความฝันที่ผมอยากทำให้เป็นจริงในขณะที่เป็นวัยรุ่น
แต่ด้วยความที่ผมหน้าตาไม่ดี ผมสูงนะ ประมาณ185 แต่อ้วน แล้วที่ผมไม่อยากจะเชื่อคือ ผมแค่อายุ23แต่ผมหัวล้าน เพราะกรรมพันธุ์ พ่อ+แม่
มันเลยเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ยากกว่าคนปกติทั่วไปที่จะมีแฟน
แต่แล้ววันหนึ่ง ในขณะที่ผมนั่งตัดพ้อลงโซเชียล ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งทักมา ประมาณว่า เห็นชอบผมโพสต์ดราม่า ลองคบกันไหม (แต่เขาอยู่ไกลมากๆ)
ผมก็ตกลงทันที แบบยังไม่ได้ถามชื่อด้วยซ้ำ ถึงเขาจะไม่ได้เป็นคนดีเท่าไหร่นัก เป็นคนที่ผ่านโลกมาเยอะ แล้วชอบทำอะไรตามใจ
ผมก็รับได้ เพราะแฟนคนแรก แล้วผมก็ไม่ได้หล่อพอจะเลือกใครมาเป็นแฟนได้ง่ายๆ ช่วงนั้นทั้งรักทั้งหลง ให้ทุกอย่าง ยอมทุกอย่าง
แล้ววันหนึ่งฝันก็ต้องตื่นเพราะ เรามีสิ่งที่ต้องการเหมือนกัน แต่ไม่สามารถให้กันได้(อันนี้ผมไม่ขอเล่านะ) เขาก็ไปหาจากคนใหม่
ผมเจ็บมาก ร้องไห้ กินยานอนหลับ ตื่นมาร้องไห้ เพื่อนผมที่ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ก็บอกให้ผมเล่นเกมสิ จะได้หายเครียด
ผมก็คิดได้ว่า สิ่งที่ผมเหลืออยู่คือคอม แล้วเกมที่ผมเติมไปเยอะ ผมนั่งเล่นทั้งน้ำตา เล่นไปก็นึกถึงความทรงทำของเขา ผมเล่นไปเรื่อยๆ
แม้แต่ตอนไปม. ผมก็เล่นในเวลาเรียน ถ้าอาจารย์บ่น ผมกลับบ้านเลย ผมมีโทรศัพย์2เครื่อง ผมก็หาเกมเล่น จนกลับบ้านไปเล่นคอมต่อ
ช่วงเวลาตอนนั้น เป็นช่วงเวลาที่ ผมใช้ชีวิตกับเกมไปเยอะมากๆ ทุกเวลา กิน นอน ทุกลมหายใจเข้าออกคือเกม แม้แต่ฝัน ถ้าไม่ฝันถึงเขา ก็ฝันถึงเกม
จนวันหนึ่งผมคิดว่า แค่นี้มันยังไม่พอ ผมเริ่มคิดไปว่า เล่นไปวันๆก็เท่านั้น ต้องเล่นให้คนรอบข้างเห็น แล้วยอมรับผม จะได้มีคนมารักผม ผมเชื่อแบบนั้น
ผมไล่ท้าเพื่อนในห้อง ในคณะ และไปจนถึงคณะอื่น เกมที่ท้าถ้าเป็นเกมที่ผมเคยเล่น ผมก็ท้าหมด MMORPG FPS MOBA ผมเอาหมดถ้าเล่นได้
ผมก็ไม่ได้เก่งทุกเกมหรอก คือถ้าท้า100คนก็แพ้ประมาณ10-20คน แล้วทุกวันหยุดผมก็จะไปร้านเกมในเมือง มีร้านเกมประมาณ5ร้าน
ผมไล่ท้าหมด เด็ก ผู้ใหญ่ ชายหญิง เจ้าของร้านผมก็ไม่เว้น แต่นานวันไป ผมก็รู้สึก"ว่างเปล่า" แพ้หรือชนะมันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
มีเจ้าของร้านคนหนึ่งมาถามผม ว่าทำไมถึงต้องท้าคนในร้านเกมทุกวี่ทุกวัน ร้อนรนอะไรขนาดนั้น ผมก็บอกไปว่าทำไปเพราะแฟนทิ้ง
แล้วสิ่งที่เขาบอกผมก็คือ "สิ่งที่เกิดไปแล้วมันไม่มีอะไรเปลี่ยนได้หรอก เล่นให้ตายเขาก็ไม่กลับมาหรอก" ผมรู้อยู่แก่ใจมาตลอด แต่ผมไม่ยอมรับ
แล้ว3เดือนหลังจากนั้น ผมก็ค่อยๆกลับสู่โลกความจริง แต่ก็ยังคิดถึงอยู่ แม้จะไม่ต้องการ
เมื่อเลิกกับแฟนคนแรก บางครั้งก็ทำอะไรโง่ๆลงไป
แต่ด้วยความที่ผมหน้าตาไม่ดี ผมสูงนะ ประมาณ185 แต่อ้วน แล้วที่ผมไม่อยากจะเชื่อคือ ผมแค่อายุ23แต่ผมหัวล้าน เพราะกรรมพันธุ์ พ่อ+แม่
มันเลยเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ยากกว่าคนปกติทั่วไปที่จะมีแฟน
แต่แล้ววันหนึ่ง ในขณะที่ผมนั่งตัดพ้อลงโซเชียล ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งทักมา ประมาณว่า เห็นชอบผมโพสต์ดราม่า ลองคบกันไหม (แต่เขาอยู่ไกลมากๆ)
ผมก็ตกลงทันที แบบยังไม่ได้ถามชื่อด้วยซ้ำ ถึงเขาจะไม่ได้เป็นคนดีเท่าไหร่นัก เป็นคนที่ผ่านโลกมาเยอะ แล้วชอบทำอะไรตามใจ
ผมก็รับได้ เพราะแฟนคนแรก แล้วผมก็ไม่ได้หล่อพอจะเลือกใครมาเป็นแฟนได้ง่ายๆ ช่วงนั้นทั้งรักทั้งหลง ให้ทุกอย่าง ยอมทุกอย่าง
แล้ววันหนึ่งฝันก็ต้องตื่นเพราะ เรามีสิ่งที่ต้องการเหมือนกัน แต่ไม่สามารถให้กันได้(อันนี้ผมไม่ขอเล่านะ) เขาก็ไปหาจากคนใหม่
ผมเจ็บมาก ร้องไห้ กินยานอนหลับ ตื่นมาร้องไห้ เพื่อนผมที่ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ก็บอกให้ผมเล่นเกมสิ จะได้หายเครียด
ผมก็คิดได้ว่า สิ่งที่ผมเหลืออยู่คือคอม แล้วเกมที่ผมเติมไปเยอะ ผมนั่งเล่นทั้งน้ำตา เล่นไปก็นึกถึงความทรงทำของเขา ผมเล่นไปเรื่อยๆ
แม้แต่ตอนไปม. ผมก็เล่นในเวลาเรียน ถ้าอาจารย์บ่น ผมกลับบ้านเลย ผมมีโทรศัพย์2เครื่อง ผมก็หาเกมเล่น จนกลับบ้านไปเล่นคอมต่อ
ช่วงเวลาตอนนั้น เป็นช่วงเวลาที่ ผมใช้ชีวิตกับเกมไปเยอะมากๆ ทุกเวลา กิน นอน ทุกลมหายใจเข้าออกคือเกม แม้แต่ฝัน ถ้าไม่ฝันถึงเขา ก็ฝันถึงเกม
จนวันหนึ่งผมคิดว่า แค่นี้มันยังไม่พอ ผมเริ่มคิดไปว่า เล่นไปวันๆก็เท่านั้น ต้องเล่นให้คนรอบข้างเห็น แล้วยอมรับผม จะได้มีคนมารักผม ผมเชื่อแบบนั้น
ผมไล่ท้าเพื่อนในห้อง ในคณะ และไปจนถึงคณะอื่น เกมที่ท้าถ้าเป็นเกมที่ผมเคยเล่น ผมก็ท้าหมด MMORPG FPS MOBA ผมเอาหมดถ้าเล่นได้
ผมก็ไม่ได้เก่งทุกเกมหรอก คือถ้าท้า100คนก็แพ้ประมาณ10-20คน แล้วทุกวันหยุดผมก็จะไปร้านเกมในเมือง มีร้านเกมประมาณ5ร้าน
ผมไล่ท้าหมด เด็ก ผู้ใหญ่ ชายหญิง เจ้าของร้านผมก็ไม่เว้น แต่นานวันไป ผมก็รู้สึก"ว่างเปล่า" แพ้หรือชนะมันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
มีเจ้าของร้านคนหนึ่งมาถามผม ว่าทำไมถึงต้องท้าคนในร้านเกมทุกวี่ทุกวัน ร้อนรนอะไรขนาดนั้น ผมก็บอกไปว่าทำไปเพราะแฟนทิ้ง
แล้วสิ่งที่เขาบอกผมก็คือ "สิ่งที่เกิดไปแล้วมันไม่มีอะไรเปลี่ยนได้หรอก เล่นให้ตายเขาก็ไม่กลับมาหรอก" ผมรู้อยู่แก่ใจมาตลอด แต่ผมไม่ยอมรับ
แล้ว3เดือนหลังจากนั้น ผมก็ค่อยๆกลับสู่โลกความจริง แต่ก็ยังคิดถึงอยู่ แม้จะไม่ต้องการ