การที่จะหลุดเข้าไปในร่างของใครซักคนในศูนย์วิจัยนั้น ใช้แค่การผิดพลาดเล็กน้อยเพียงครั้งเดียว ก็สามารถนำเชื้อโรคออกสู่ภายนอกได้แล้ว
(แบบในหนังเช่นถอดถุงมือโยนใส่ถังขยะและถุงมือหล่นออกจากถังและเผลอใช้มือหยิบ หรือแบบอุปกรณ์labหล่นและเผลอเอามือเปล่าคว้า etc)
และก็คงเกิดเหตุการณ์เหล่านี้นับไม่ถ้วนเพราะเชื้อหลายตัวที่เอามาวิจัยก็ไม่ได้รู้ถึงประสิทธิภาพและความร้ายแรง ที่จะเกิดขึ้น(ก็แน่นอนเพราะยังไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น(ที่เชื้อโรคหลุดจากlab)จึงเกิดความประมาท
และที่ครั้งนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะเชื้อตัวนี้มีคุณลักษณะเหมาะสมกับการเกิดโรคระบาดของมนุษย์
ไม่ได้ทำให้hostตายทันทีและไม่แสดงอาการทันที(แพร่ได้นานและไกล) แพร่เชื้อได้โดยง่ายผ่านการใกล้ชิดและสัมผัส(ติดง่าย)  และผู้อ่อนแอหรือmatchกับเชื้อโรคนี้ถึงตาย(รุนแรง)

ที่เหลือก็คือหลักฐานว่า เชื้อนี้หลุดมาจากที่อู่ฮั่นจริง เพียงเท่านั้น (แต่ใครจะเข้าไปได้)
เหลือเพียงว่า จะหาหลักฐานเจอมั้ย แต่ป่านนี้คงทำลายหลักฐานเรียบไปหมดแล้ว(แต่ถ้าได้เข้าไปจริงๆด้วยเครื่องมือของสหรัฐก็ไม่แน่)
และสิ่งที่น่าสนใจลำดับต่อไปคือประธานาธิบดีสหรัฐ จะพยายามแทรกแซงเข้าไปตรวจสอบจีนยังไง
และไม่ว่าจีนจะใช่ต้นเหตุหรือไม่ยังไงก็ต้องปฏิเสธอยู่แล้ว(เรื่องกันไม่ให้คนนอกแทรกแซงคือจีน)
และด้วยนิสัยของประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ต้องโมโห และด้วยการที่จีนไม่ให้ตรวจสอบก็เป็นการเปิดช่องให้ประธานาธิบดีสหรัฐ ใช้กำลัง
จนบานปลายกลายเป็นสงครามของยักษ์ใหญ่ทั้งสองของโลก
และด้วยเหตุผลทางเศรษกิจ ที่ทับซ้อน และผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ เป็นชนวนและเชื้อไฟอีกมากมายให้เกิดการปะทะกันของยักษ์ใหญ่ทั้งสอง
ที่อาจลุกลามกลายเป็นสงครามโลกครั้งใหม่ (จากแนวร่วมที่ไม่ชอบจีน,สหรัฐ)