สวัสดีค่ะ
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เกิดเหตุรถเมล์ชนท้าย Taxi ทำให้ตัวเราพุ่งจากเบาะหลังสุดตรงกลางมากระแทกกับตรงห้องเครื่องคนขับข้างหน้า ทำให้ข้อมือซ้ายแตก และหัก หมอเลยวินิฉัยว่าต้องผ่าตัดดามเหล็กเพราะกระดูกแตกเข้าข้อ ลองใส่เฟือก 1 อาทิตย์ก็ไม่ติด เสียค่าผ่าตัดไป 220,000 กว่าบาท(ประกันจ่าย) แต่หลังผ่าตัดยังต้องไปพบหมอเพื่อเอ็กเซย์ และกายภาพ แต่ต้องสำรองจ่ายเอง หลังผ่าตัดหมอก็ให้หยุดงาน 2 อาทิตย์ และวันที่เกิดเหตุมีทรัพย์สินเสียหาย คือโน๊ตบุ๊คหักครึ่ง ไม่สามารถเปิดเครื่องได้ แว่นตาแตก ซึ่งวันนั้นประกันก็ได้ถ่ายรูป ออกใบเครมมาให้ ส่วนในใบแจ้งความก็มีเขียนไว้ว่ามีทรัพทย์สินเสียหาย ราคาประมาณ 35,000 บาท โน๊คบุ๊คซื้อมา 9 เดือน ใบเสร็จยังอยู่ ซื้อมาราคา 27,000 แว่นตาอีก 8,000 บาท ไม่มีใบเสร็จ
วันรุ่งขึ้นหลังจากประสบอุบัติเหตุ ประกันโทรมาแจ้งว่า เรื่องทรัพย์สินไม่สามารถเครมประกันได้ ขอใบเครมคืน เนื่องจากทางรถเมล์ทำประกันชั้น 3 ไม่ครอบคลุมทรัพย์สินในรถของคนผิด ซึ่งตำรวจตัดสินว่ารถเมล์ผิดเพราะประมาณ ขับเร็ว ประกันเลยบอกให้เราไปเรียกจากเจ้าของอู่เอาเอง เราจึงโทรไปหาเจ้าของอู๋ เขาก็บ่ายเบียง อ้างว่าประกันต้องจ่ายให้เราสิ ไม่ใช่เขาต้องจ่าย แล้วก็โวยวาย หาว่าเราอยากได้เงิน รีบหรอ ซึ่งเราอธิบายให้เขาฟังว่าเราต้องใช้คอมทำงาน แล้วก็เดินทางไปบริษัทประกันมาด้วยตนเองแล้ว เขาก็พูดเหมือนคนที่ออกใบเครมให้ว่าประกันที่รถเมล์ทำไม่คุ้มครองทรัพย์สินเรา ซึ่งเจ้าของอู่ไม่ฟัง และไม่สนใจเราเลย
หลังจากวันนั้นจนปัจจุบัน เจ้าของอู่ไม่เคยติดต่อเรามาเลย ไม่เคยโทรหรือไลน์มาถามอาการ ไลน์ไปของนัดคุย อ่านแต่ไม่ตอบ โทรไปไม่รับ ซึ่งเราไม่รู้จะทำยังไงดี เพราะอาชีพที่เราทำต้องใช้โน๊ตบุ๊คเป็นหลัก ตอนนี้ก็ได้แต่ไปยืมเครื่องบริษัทมาใช้ สเปคต่ำมาก ทำงานก็ค้างแล้วก็หลุดตลอดเวลา ซึ่งทำให้เราทำงานช้าลง และโดนกดดัน
ส่วนมือก็ต้องกายภาพทุกวัน ทำอะไรไม่สะดวกเหมือนก่อน อยู่หนาวๆ มากมือก็แข็ง อุ้มลูกก็ไม่ได้เจ็บ
ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ว่าควรทำยังไง เริ่มจากอะไรก่อน และเรียกร้องอะไรได้บ้าง เราจะได้ค่าแว่นค่าโน๊ตบุ๊คคืนไหม ตอนนี้เราเครียดมาก แค่ข้อมือเราไม่เหมือนเดิมเราก็เครียดจะตาย กายภาพไปน้ำตาไหลไป เพราะมันปวดมาก จิตตกด้วย เจอเจ้าของอู่ทำแบบนี้อีก ยิ่งเครียดหนักไปอีก

ปล.เราทำอาชีพ SA+Programmer ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ