อันนี้เป็นอาจเป็นมุมมองของผมคนเดียว ท่านอื่นๆเห็นต่างอย่างไรก็เชิญตามสบายนะครับ
ระบบจัดเก็บภาษีมนุษย์เงินเดือนของไทยเรา เป็นแบบก้าวหน้า รายได้เยอะ โดนเปอร์เซนต์เพิ่ม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
ผมกลับไม่เห็นด้วย และคิดว่าการเก็บภาษีรายได้แบบก้าวหน้า มันช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้จริงหรือ หรือมันเป็นเพียงทฤษฎีในกระดาษ เพราะมนุษย์เงินเดือนที่รายได้เยอะ จำนวนเงินมันเทียบไม่ได้กับเจ้าของกิจการและธุรกิจใหญ่โตเลย ความเหลื่อมล้ำที่ทุกคนพยายามพูดถึง พยายามอยากลดอยากแก้ มันคือการถือครองสินทรัพย์ต่างหาก ไม่ใช่รายได้ที่เหลื่อมล้ำเป็นหลัก ที่ดินจำนวนเกินครึ่งในประเทศนี้ ตกอยู่ในมือคนกลุ่มเล็กๆแค่ไม่ถึงห้าเปอร์เซนต์ครับ และแนวโน้มนี้จะยังคงถ่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะประเทศเราไม่มีระบบการจัดการในการป้องกัน Wealth Accumulation เลย ใครอยากจะมีที่ดินแค่ไหนก็มีได้ ภาษีก็สุดแสนจะต่ำ แถมส่งต่อสู่รุ่นลูกรุ่นหลานได้ไปเรื่อย เป็นลักษณะ feudalism เพียวๆ
คนเงินเดือนแปดหมื่น กับคนเงินเดือนหมื่นเดียว มันต่างกันแปดเท่าก็จริง แต่มันเทียบกับเจ้าของโรงงานเล็กๆ ที่มีที่ดินใน port นับสิบๆล้านบาทไม่ได้
คนเงินเดือนแปดหมื่น ไม่มีทางมีปัญญาซื้อที่ดินราคายี่สิบล้านได้เลยครับ
ที่กำลังจะสื่อ คือ สิ่งที่ลดความเหลื่อมล้ำได้มากที่สุด จริงๆแล้วคือภาษีที่ดิน ภาษีมรดก และการเก็บภาษีสินทรัพย์ให้ก้าวหน้าหนักมากๆ
เพื่อลด Wealth accumulation ของบรรดาเศรษฐี ให้กระจายออกมา
ลดการสืบทอดสินทรัพย์ทางมรดกลงให้มากที่สุด
นั่นคือวิธีแก้ความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่อัตราภาษีก้าวหน้าของมนุษย์เงินเดือนครับ มนุษย์เงินเดือน ตั้งใจเรียนตั้งใจทำงาน เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินได้เพิ่มอีกเพียงเล็กน้อย เทียบอะไรไม่ได้กับเศรษฐีที่ดินเลยแม้สักเศษฝุ่น
หลายๆประเทศ ไม่มีการให้ซื้อที่ดินขาดนะครับ ทุกคนเหมือนได้เช่าจากรัฐ 99 ปี เป็นต้น เพื่อให้ป้องกัน wealth accumulation ลดความเหลื่อมล้ำได้มากมาย เพราะเมื่อซื้อไปแล้ววันหนึ่งต้องคืนรัฐ เก็บไว้ให้ลูกให้หลานไม่ได้ คนรุ่นถัดๆไปต้องสร้างตัวเอาเอง ก็จะทำให้ราคาที่ดินสะท้อนความเป็นจริงที่นำใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่มีใครบ้าไปซื้อที่ดินห่างไกลนับร้อยๆไร่ทิ้งไว้เปล่าๆรอให้ราคาขึ้นในรุ่นสอง gen ถัดไป แบบที่ไทยเราเป็นทุกวันนี้
ทุกวันนี้ port ที่ดินคนรวยๆ เค้าเก็บทิ้งๆไว้ กะว่ารุ่นหลานนู่น เอามาขายแพง กินสบายอีกต่างหาก
ผมออกตัวก่อนเลย ว่ามี Bias กับเรื่องนี้มากเพราะเป็นหนึ่งในมนุษย์เงินเดือน ที่ที่บ้านไม่ได้มีที่ดินอะไรทิ้งไว้ให้ สร้างมาเองล้วนๆ ต้องกู้หนี้ยืมสินมาเรียนเพิ่มเติมในวิชาชีพเป็นเงินจำนวนมาก ถีบตัวเองขึ้นมาจากการทำงานมายี่สิบปีแล้วจนมาถึงวันนี้มีครอบครัว ลูกสอง กำลังจ่ายภาษีอยู่ในเขต 30% กำลังพยายามผ่อนตึกแถวเป็นของตัวเองซึ่งมันแพงระยับ และยังไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนหมดง่ายๆ หันไปมองเพื่อนสนิทกัน เป็นคนดีครับ นิสัยดีมากๆ พ่อแม่มีที่ดินมีโรงงานมีทุกอย่างไว้พร้อม เรียนจบมายังไม่เคยต้องทำงานอะไร รวยระดับนึงเลย มี port ที่ดินมากมาย เรียกว่าสบายไปถึงรุ่นหลาน... อิจฉามั๊ย อิจฉาสิครับ เพื่อนผมมันนิสัยดี แต่ผมก็อิจฉาอยู่ดี
แล้วสุดท้ายมาถามว่า ภาษีอัตราก้าวหน้า มันช่วยลดความเหลื่อมล้ำในประเทศนี้ยังไง นอกจากกดดันให้มนุษย์เงินเดือนระดับกลางๆอย่างผมต้องสู้สุดชีวิต เพื่อให้ชีวิตดีขึ้น เสียภาษีต่อปีมโหฬาร wealth accumulation ไม่ต้องพูดถึง ที่ดินกับตึกแถวสมัยนี้ ราคาทะลุไปไกลจนแทบไม่ต้องมองแล้ว
ภาษีที่ดิน ที่ทางรัฐกำลังพยายามผลักดันกันมานานเป็นสิบปี มันจะไม่สำเร็จลุล่วงครับ เพราะคนที่จะออกกฎหมายพวกนี้ ก็มีที่ดินกระจายเหมือนกัน ภาษีที่ดิน อย่างน้อยควรเป็นอัตราก้าวหน้า ที่ก้าวหน้ามากๆด้วยโดยเฉพาะที่ดินเปล่า และที่ดินที่เป็นเจ้าของแห่งที่ 3 4 5 หรือเป็นสิบแห่งขึ้นไป ภาษีที่ดินที่กำลังจะเริ่มจัดเก็บ ยังถือว่าน้อยมากๆและมีรูโหว่ให้พลิกแพลงได้มากมายครับ
แบบนี้จึงจะลดความเหลื่อมล้ำได้ครับ ไม่ใช่ภาษีก้าวหน้าของมนุษย์เงินเดือน
สืบเนื่องจากกระทู้เรื่องในระบบนอกระบบ มาถึงเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำด้วยอัตราภาษีก้าวหน้า
ระบบจัดเก็บภาษีมนุษย์เงินเดือนของไทยเรา เป็นแบบก้าวหน้า รายได้เยอะ โดนเปอร์เซนต์เพิ่ม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
ผมกลับไม่เห็นด้วย และคิดว่าการเก็บภาษีรายได้แบบก้าวหน้า มันช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้จริงหรือ หรือมันเป็นเพียงทฤษฎีในกระดาษ เพราะมนุษย์เงินเดือนที่รายได้เยอะ จำนวนเงินมันเทียบไม่ได้กับเจ้าของกิจการและธุรกิจใหญ่โตเลย ความเหลื่อมล้ำที่ทุกคนพยายามพูดถึง พยายามอยากลดอยากแก้ มันคือการถือครองสินทรัพย์ต่างหาก ไม่ใช่รายได้ที่เหลื่อมล้ำเป็นหลัก ที่ดินจำนวนเกินครึ่งในประเทศนี้ ตกอยู่ในมือคนกลุ่มเล็กๆแค่ไม่ถึงห้าเปอร์เซนต์ครับ และแนวโน้มนี้จะยังคงถ่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะประเทศเราไม่มีระบบการจัดการในการป้องกัน Wealth Accumulation เลย ใครอยากจะมีที่ดินแค่ไหนก็มีได้ ภาษีก็สุดแสนจะต่ำ แถมส่งต่อสู่รุ่นลูกรุ่นหลานได้ไปเรื่อย เป็นลักษณะ feudalism เพียวๆ
คนเงินเดือนแปดหมื่น กับคนเงินเดือนหมื่นเดียว มันต่างกันแปดเท่าก็จริง แต่มันเทียบกับเจ้าของโรงงานเล็กๆ ที่มีที่ดินใน port นับสิบๆล้านบาทไม่ได้
คนเงินเดือนแปดหมื่น ไม่มีทางมีปัญญาซื้อที่ดินราคายี่สิบล้านได้เลยครับ
ที่กำลังจะสื่อ คือ สิ่งที่ลดความเหลื่อมล้ำได้มากที่สุด จริงๆแล้วคือภาษีที่ดิน ภาษีมรดก และการเก็บภาษีสินทรัพย์ให้ก้าวหน้าหนักมากๆ
เพื่อลด Wealth accumulation ของบรรดาเศรษฐี ให้กระจายออกมา
ลดการสืบทอดสินทรัพย์ทางมรดกลงให้มากที่สุด
นั่นคือวิธีแก้ความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่อัตราภาษีก้าวหน้าของมนุษย์เงินเดือนครับ มนุษย์เงินเดือน ตั้งใจเรียนตั้งใจทำงาน เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินได้เพิ่มอีกเพียงเล็กน้อย เทียบอะไรไม่ได้กับเศรษฐีที่ดินเลยแม้สักเศษฝุ่น
หลายๆประเทศ ไม่มีการให้ซื้อที่ดินขาดนะครับ ทุกคนเหมือนได้เช่าจากรัฐ 99 ปี เป็นต้น เพื่อให้ป้องกัน wealth accumulation ลดความเหลื่อมล้ำได้มากมาย เพราะเมื่อซื้อไปแล้ววันหนึ่งต้องคืนรัฐ เก็บไว้ให้ลูกให้หลานไม่ได้ คนรุ่นถัดๆไปต้องสร้างตัวเอาเอง ก็จะทำให้ราคาที่ดินสะท้อนความเป็นจริงที่นำใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่มีใครบ้าไปซื้อที่ดินห่างไกลนับร้อยๆไร่ทิ้งไว้เปล่าๆรอให้ราคาขึ้นในรุ่นสอง gen ถัดไป แบบที่ไทยเราเป็นทุกวันนี้
ทุกวันนี้ port ที่ดินคนรวยๆ เค้าเก็บทิ้งๆไว้ กะว่ารุ่นหลานนู่น เอามาขายแพง กินสบายอีกต่างหาก
ผมออกตัวก่อนเลย ว่ามี Bias กับเรื่องนี้มากเพราะเป็นหนึ่งในมนุษย์เงินเดือน ที่ที่บ้านไม่ได้มีที่ดินอะไรทิ้งไว้ให้ สร้างมาเองล้วนๆ ต้องกู้หนี้ยืมสินมาเรียนเพิ่มเติมในวิชาชีพเป็นเงินจำนวนมาก ถีบตัวเองขึ้นมาจากการทำงานมายี่สิบปีแล้วจนมาถึงวันนี้มีครอบครัว ลูกสอง กำลังจ่ายภาษีอยู่ในเขต 30% กำลังพยายามผ่อนตึกแถวเป็นของตัวเองซึ่งมันแพงระยับ และยังไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนหมดง่ายๆ หันไปมองเพื่อนสนิทกัน เป็นคนดีครับ นิสัยดีมากๆ พ่อแม่มีที่ดินมีโรงงานมีทุกอย่างไว้พร้อม เรียนจบมายังไม่เคยต้องทำงานอะไร รวยระดับนึงเลย มี port ที่ดินมากมาย เรียกว่าสบายไปถึงรุ่นหลาน... อิจฉามั๊ย อิจฉาสิครับ เพื่อนผมมันนิสัยดี แต่ผมก็อิจฉาอยู่ดี
แล้วสุดท้ายมาถามว่า ภาษีอัตราก้าวหน้า มันช่วยลดความเหลื่อมล้ำในประเทศนี้ยังไง นอกจากกดดันให้มนุษย์เงินเดือนระดับกลางๆอย่างผมต้องสู้สุดชีวิต เพื่อให้ชีวิตดีขึ้น เสียภาษีต่อปีมโหฬาร wealth accumulation ไม่ต้องพูดถึง ที่ดินกับตึกแถวสมัยนี้ ราคาทะลุไปไกลจนแทบไม่ต้องมองแล้ว
ภาษีที่ดิน ที่ทางรัฐกำลังพยายามผลักดันกันมานานเป็นสิบปี มันจะไม่สำเร็จลุล่วงครับ เพราะคนที่จะออกกฎหมายพวกนี้ ก็มีที่ดินกระจายเหมือนกัน ภาษีที่ดิน อย่างน้อยควรเป็นอัตราก้าวหน้า ที่ก้าวหน้ามากๆด้วยโดยเฉพาะที่ดินเปล่า และที่ดินที่เป็นเจ้าของแห่งที่ 3 4 5 หรือเป็นสิบแห่งขึ้นไป ภาษีที่ดินที่กำลังจะเริ่มจัดเก็บ ยังถือว่าน้อยมากๆและมีรูโหว่ให้พลิกแพลงได้มากมายครับ
แบบนี้จึงจะลดความเหลื่อมล้ำได้ครับ ไม่ใช่ภาษีก้าวหน้าของมนุษย์เงินเดือน