[CR] แต่งบ้านสไตล์ฉัน...ถ้ารักกันอย่าถามราคาต่อหน้าแม่

สวัสดีค่ะทุกๆคน นี่เป็นกระทู้แรกของเรา (และน่าจะเป็นกระทู้เดียวเพราะหลังโควิดคงติดงานยาวๆ 555) 

วันนี้เราจะมารีวิวบ้านหลังแรกของเราค่ะ ก่อนทำกระทู้เราตัดสินใจไม่อ่านรีวิวกระทู้ไหนเลย
เพื่อให้ได้สำนวนการพูดที่เป็นของเราจริงๆ จะพยายามเล่าไม่ให้งงกันนะคะ เราแบ่งเป็นตอนๆให้ด้วย (คิดเอาเองว่าน่าจะเข้าใจง่าย 555)
เริ่มเลยนะคะเกิดจากเมื่อปลายปีที่แล้วเราตัดสินใจซื้อบ้านใหม่และออกแบบตกแต่งด้วยตัวเองทั้งหมด ก็ได้มีคนรู้จักหลายคนมาขอข้อมูลเกี่ยวกับการแต่งบ้านของเรา ซึ่งบอกก่อนว่าเราก็ไม่ได้มีความรู้มากมาย ส่วนใหญ่จะอาศัยความชอบและการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนในครอบครัวมากกว่าและตอนนี้บ้านเราเสร็จ 100% แล้ว จึงเกิดความตั้งใจมากๆที่อยากจะทำเพื่อให้ข้อมูลสำหรับคนที่อยากจะได้เป็นแนวทางในการแต่งบ้านนะคะ
ย้ำอีกทีว่าเราไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านเลย ถ้าไม่ถูกต้องตามหลักทฤษฎีอะไรก็ขออภัยด้วยนะคะ เน้นความชอบเป็นหลักเลยค่ะ 555
และหากสนใจว่าเราทำส่วนไหนกับผู้รับเหมาเจ้าไหนบ้าง ทักส่วนตัวมาถามได้เลยนะคะ ยินดีให้แนะนำค่ะ
เราว่าแต่งบ้านเหมือนเล่นเกมเดอะซิมค่ะ แต่ต่างตรงที่ใช้เงินจริง (ร้องไห้ 5555) แต่ทุกๆขั้นตอนเราคิดแล้วแหละค่ะว่าคุ้มค่า มาเริ่มกันเลยนะคะ

ตอน เฟอร์นิเจอร์ที่รัก
พอเรากู้ซื้อบ้านผ่านเรียบร้อยก็วางแผนเลือกเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านกันทันที เราตัดสินใจจะใส่เฟอร์นิเจอร์และบิ้วอินในบางจุด 
ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์แฟนเราได้ทำการแอดไลน์ไปคุยกับพนักงานก่อน บริษัทนี้ดีตรงที่มีนักออกแบบตกแต่งภายในที่จะคุยกับเราและสามารถออกแบบห้องของเราจากพื้นที่จริงได้ การให้สีต่างๆ สไตล์บ้าน จึงทำให้มองภาพออกโดยที่ไม่ต้องไปเห็นเฟอร์นิเจอร์จริงๆ แต่ด้วยความเรื่องมากของเรา
ก็ไปเลือกกันอยู่ดีแหละ ไปหลายรอบด้วยมันอดไม่ได้จริงๆ แต่ข้อดีของการไปดูคือเราได้เห็นของจริงและของอื่นๆที่นำมาใช้ตกแต่งเพิ่มเติมได้ สรุปคือได้โต๊ะกินข้าวและชุดโซฟาค่ะ


ตอน ต่อเติมให้เป็นส่วนหนึ่งของบ้าน
ในส่วนที่เราต้องการต่อเติม คือ ส่วนห้องซักล้าง และด้วยขนาดที่จำกัดเพราะครอบครัวเราเห็นตรงกันว่าการต่อเติมที่ดีคือ ต้องต่อเติมให้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน ไม่ให้ดูแตกต่าง เราจึงได้ห้องซักล้างในขนาดที่จำกัด และหาเฟอร์นิเจอร์ลงยากมาก จึงจำเป็นต้องสั่งบิ้วอินห้องซักล้างด้วย
(เรื่องบิ้วอินจะขอพูดอย่างละเอียดในตอนถัดไปนะคะ) ขนาดของห้องซักล้างที่ได้คือ 9 ตารางเมตร 

ต่อด้วยส่วนหลังคาหลังบ้านเพื่อตากผ้าและระแนงบังตา ด้วยความเยอะของแฟนเราเองระแนงบังตาเราก็สั่งทำมาต่างหาก
เพื่อให้เข้ากับสไตล์บ้านและให้ช่างต่อเติมพ่นสีให้เหมือนตัวบ้านค่ะ



ตอน บิ้วอินดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ตอนนี้นำเสนอมากๆค่ะ ในส่วนของบิ้วอินเราและแฟนได้ลองหาข้อมูลตามเฟส กระทู้รีวิวและรูปใน pinterest โดยเฉพาะรูป
บอกเลยว่าเราดูกันเยอะมากๆดูกันทั้งวันทั้งคืน เพื่อหาสไตล์และแบบที่ถูกใจจนนำมาปรับให้เข้ากับบ้านของเรา
และบังเอิญมาเจอคนในหมู่บ้านที่ทำบิ้วอินสวยมาก แฟนก็เลยทักเฟสพี่เจ้าของบ้านไปทั้งๆที่ไม่รู้จักกัน 
พี่เจ้าของบ้านใจดีมากๆเลยแนะนำจนได้คุยกับพี่ที่ทำบิ้วอินและนัดกันมาคุยเรื่องแบบที่บ้านตื่นเต้นกันมากๆค่ะ 
เพราะกว่าจะคุยแบบกันลงตัวก็ช่วยกันดูแบบ ปรับจนถูกใจเรามากที่สุด

สรุปเราทำบิ้วอิน 7 จุด คือ ชั้นวางทีวี,ห้องรับแขก, ไอแลนด์หน้าห้องครัว, ตู้เก็บรองเท้า, ห้องครัว, ห้องซักล้าง และห้องพระ
(ขออวยนิดนึงค่ะ ทีมช่างบิ้วอินทำงานเป็นทีมดีมากๆค่ะทุกอย่างทำตามแบบและมีการทำงานที่เป็นระบบ ความสะอาดความเป็นระเบียบต่างๆ
ประทับใจมากๆค่ะ)

ชิ้นงานบิ้วอินเต็มโรงรถกันไปเลยจ้า 

ชั้นวางทีวีห้องรับแขก 
เราให้โจทย์แฟนไปว่าขอลิ้นชักและชั้นเยอะๆหน่อยเพราะเรามีลูกเล็กจะเอาไว้เก็บของเล่นและหนังสือของเรา
สิ่งที่ยากกว่าเลือกแบบตู้คือมือจับต่างๆ ด้วยความที่เราไม่มีประสบการณ์ก็อาศัยดูรูปบ้านคนอื่น จนสรุปมาได้ตามภาพ


ไอแลนด์ 
ด้วยพื้นที่ที่จำกัดไอแลนด์หน้าห้องครัวของเราจึงไม่ได้ใหญ่โตมาก จุดประสงค์คือไว้วางอุปกรณ์ชงกาแฟของแฟนและแก้วต่างๆ 
ส่วนที่ยากคือการให้สี และด้วยความตั้งใจแรกของเราที่จะแต่งบ้านให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน เราตัดสินใจดึงสีจากโซฟาและชั้นวางทีวีมา 
คือสีน้ำเงินและขาว เพิ่มความสวยงามโดยใช้ท็อปของไอแลนด์เป็นหินทำให้ไอแลนด์เด่นขึ้น


ตู้เก็บรองเท้า
เกิดจากเรามีที่โล่งใต้บันได และไม่รู้จะใช้ทำอะไร เลยตัดสินใจทำตู้ก็บรองเท้า ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีมากๆเพราะใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าที่สุด 
แต่ลุ้นสุดๆเช่นกัน เพราะบริเวณนี้เราสั่งทำทีหลังช่างบิ้วอินไม่ได้มาวัด แต่แฟนเราวัดและบอกขนาดเขาไป แล้วช่างบิ้วอินทำตู้มาเลย 
พอถึงหน้างานก็ลุ้นกันสุดๆว่าจะเข้าได้พอดีไหม สรุปคือได้แบบพอดีเป๊ะเลยจ้า โล่งอกสุดๆ


ห้องครัว 
ในส่วนของห้องครัวเรื่องสีเราก็ยังคงให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ น้ำเงิน ขาว  โจทย์คือต้องวางตู้เย็นที่เอามาจากบ้านเก่าได้ พร้อมติดตั้งเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน และเพื่อให้บ้านไม่ดูอึดอัดเราเลยตัดสินใจเปลี่ยนประตูห้องครัวให้หน้าบานเป็นลูกฟักด้วย ภายในห้องครัวเราได้เพิ่มความสวยงาม
ที่อ่างล้างมือและก๊อกน้ำ หน้าบานใต้อ่างล้างมือเราใช้ลายฉลุเดียวกับระแนงบังตาหลังบ้าน เพราะเราจะคำนึงตลอดว่า 
ทุกอย่างในบ้านต้องมีความเข้ากัน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน 







ห้องซักล้าง
ในห้องนี้ตอนแรกเราจะหาเฟอร์นิเจอร์มาใส่เองแต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าห้องเล็กมาก จะวางอะไรตรงไหนก็ลำบากไปหมด
ในห้องนี้ต้องมีทั้งเครื่องซักผ้า อ่างล้านจาน และอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ จึงตัดสินใจบิ้วอินดีกว่า ด้วยห้องที่แคบเราเลยอยากให้เป็นสีที่สว่าง
สีส่วนใหญ่ที่ใช้จะเป็นสีขาว เล่นสีน้ำเงินลงไปที่ลายของกระเบื้องแทน เพิ่มความละมุนโดยให้ท็อปต่างๆเป็นท็อปไม้
พอเสร็จโดยรวมออกมาแล้วเราชอบมาก อากาศถ่ายเทได้สะดวก สีโทนสบายตาทำให้ล้างจานเพลินมากค่ะ 5555




ห้องพระ
ห้องพระเราอยากให้เป็นห้องที่เข้าไปแล้วสงบ เลยใช้โทนสีขาวเพิ่มความเรียบหรู
โดยใช้แผ่นข้างหลังพระประธานเป็นหินตัดขอบด้วยสีทองและมีไฟส่องลงพระประธานเพิ่มความสบายตา

ตอน มีลูกสาวต้องมีสวนไว้เก็บดอกไม้
ชื่อตอนเหมือนทำเพื่อลูกไหมคะ แต่เปล่าเลยจ้ะ สนองกิเลสตัวเองล้วนๆ 555 แฟนเราออกแบบให้มีทั้งไม้ต้นและไม้ดอก
โดยโจทย์คือต้องมีโต๊ะไว้ให้ลูกนั่งเล่น สวนนี้เทียบกับราคาแล้วถูกมากๆ ใครสนใจหลังไมค์สอบถามได้นะคะ




ตอน หมดไปเท่าไหร่...กว่าจะได้โคมไฟที่ถูกใจ
แต่งบ้านทั้งที ก็ต้องเอาที่ชอบที่สุด คำนี้ใช้บ่อยมากเวลาแต่งบ้านค่ะ เดิมทีทางหมู่บ้านจะให้โคมไฟตรงโถงบันไดมาอยู่แล้ว
แต่ละบ้านจะได้ไม่เหมือนกันแล้วแต่ทางโครงการจะจัดให้ แต่มันไม่ค่อยถูกใจเราค่ะ แฟนเราอยากให้หวานกว่านี้อีก
เราถือว่าเรื่องโคมไฟเป็นเรื่องยากที่สุด เพราะไปดูกันหลายรอบก็ไม่ถูกใจ สรุปสุดท้ายที่เราสั่งทำค่ะ รูปแบบก็เหมือนเดิมค่ะ
หาในเน็ต pinterest เป็นให้ได้ทุกอย่างจริงๆค่ะ เราใช้วิธีหาแบบบ้าน สี และมุมหลายๆรูปจนได้แบบที่ถูกใจและสั่งทำ
ข้อดีคือขนาดได้ตามที่เราต้องการจริงๆ เราสั่งทำไปสองอันค่ะคือติดตรงโถงบันไดและโต๊ะกินข้าว
โดยทั้งสองอันต้องตอบโจทย์ที่ว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่โคมไฟถ้าเหมือนกันก็ไม่สวยอีก เครียดมากจนปรึกษาพี่ที่เป็นสถาปนิก
คุยเยอะมากจนพี่บอกมาคำหนึ่งว่า  “แต่งบ้านคือความสุข อย่าคิดมาก มันไม่มีสิ้นสุดหรอก” 
ประโยคนี้ถือว่าปลดล็อคทุกอย่าง เพราะแต่งบ้านคือ(งบ)บานจริงๆค่ะ 55555
 
สีดำเป็นโคมไฟที่หมู่บ้านให้ค่ะ ช่วยเอ็นดูกระดาษลังที่เอาไปแขวนจำลองแบบโคมอันใหม่ด้วยค่ะ 55555


ตอน ม่านและวอลเปเปอร์ส่วนเติมเต็มที่สำคัญ
การให้สีม่านและวอลเปเปอร์เราคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะช่วยให้ภาพรวมทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบที่สุด 
โชคดีที่เราได้เจอกับช่างทำม่านที่ลูกเรียนจบออกแบบภายในมาหมาดๆทุกอย่างเลยดูราบรื่นไปหมด น้องให้คำแนะนำดีมากๆ 
ใส่ใจทุกรายละเอียด ทำให้บ้านสมบูรณ์แบบมากขึ้นจริงๆค่ะ ใครสนใจทักมาถามได้เลยนะคะ

จบแล้วนะคะสำหรับรีวิวแรกของเรา
สุดท้ายอยากบอกว่าการแต่งบ้านมันเป็นความสุขจริงๆค่ะ ยิ่งได้เห็นทุกขั้นตอนในการเปลี่ยนแปลงมันทำให้เราภูมิใจมากๆค่ะ
จะรู้สึกเหนื่อยหน่อยค่ะตอนจ่ายเงิน 5555 แต่ก็นั่นแหละค่ะ "อยู่ที่ไหนไม่สุขใจเหมือนบ้านเรา" เราก็ควรทำให้บ้านเป็นที่ที่มีความสุขที่สุด
เราโชคดีมากๆค่ะที่บ้านเสร็จก่อนโควิดมา ไม่งั้นเศร้าแน่ๆ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ 

ขอให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีความสุขในบ้านทุกๆวันนะคะ  
ซารางเฮ
**แก้ไขเพิ่มรูป คห 34และ84 ค่ะ
ชื่อสินค้า:   บ้าน 2 ชั้น
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่