‘คุณหญิงหน่อย’ จี้รบ.ปรับคัดกรองจ่าย 5 พันบ.ให้ทั่วถึง ชงเยียวยาเกษตรกร ครัวเรือนละ 3.5 หมื่นบ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2141209
‘คุณหญิงหน่อย’ จี้รัฐบาล ปรับเกณฑ์คัดกรองจ่าย 5 พันบ.ให้ทั่วถึง ชงเยียวยาเกษตรกร ครัวเรือนละ 3.5 หมื่นบ.
เมื่อวันที่ 15 เมษายน คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) ลงพื้นที่เขตดอนเมือง โดยมีนาย
การุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคพท. และทีมงาน พร้อมอาสาสมัคร เปิดจุดบริการ อาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นสำหรับการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ ให้กับพี่น้องประชาชน จำนวน 2 จุด วันละไม่ต่ำกว่า 1,500 ชุด โดยทำมาแล้วกว่า 20 วัน
คุณหญิง
สุดารัตน์ ได้สอบถาม ถึงความทุกข์ของประชาชนที่มารับอาหาร และสิ่งของ โดยประชาชนส่วนใหญ่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ และส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา เพราะระบบเอไอระบุว่า คุณสมบัติไม่ตรงตามที่กระทรวงการคลังกำหนด เช่น ผู้ที่ประกอบอาชีพนวดแผนไทยแต่ถูกระบบเอไอระบุว่าเป็นเกษตรกร ผู้ที่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่ระบระบุว่าเป็นเกษตรกร ทั้งที่ไม่เคยมีไร่นาหรือที่ดินมาตลอดชีวิต หรือผู้ประกอบการ หรือแม่ค้าที่ขายของอยู่ในตลาดนัดสวนจตุจักร ที่ร้านถูกปิดมาแล้วกว่า 2 เดือน แต่กลับถูกชี้แจงว่ายังสามารถค้าขายได้อยู่ เป็นต้น
คุณหญิง
สุดารัตน์ กล่าวว่า การตรวจสอบผู้ที่ลงทะเบียนควรได้รับการเยียวยาจริงหรือไม่ อาจใช้กลไกของสำนักงานเขต ซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ หรือกลไกของกำนันผู้ใหญ่บ้านซึ่งอยู่ในต่างจังหวัด เข้ามาช่วยได้ และหากต้องการให้ประเทศ รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งมีผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด รัฐบาลจะต้องเร่งจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท ให้กับประชาชนที่เดือดร้อนจริง อย่างครบถ้วนโดยเร็ว จากนั้นพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร ครัวเรือนละ 35,000 บาท โดยจ่ายให้ 1 ครั้ง เพราะเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้งและไวรัสระบาดมาอย่างยาวนาน และรัฐต้องเร่งเปิดกิจการเพื่อให้ประชาชนผู้ประกอบการ สามารถกลับมาทำมาหากินได้ตามปกติอย่างปลอดภัย และขอให้นายการุณรับเรื่อง ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และบุคคลที่ยังไม่ได้รับการเยียวยา โดยให้ขอสำเนาบัตรประชาชน และข้อมูลการประกอบอาชีพจริง เพื่อให้คณะทำงานได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ให้ต่อไป
พท.บี้รบ. ทบทวนวิธีคัดกรองเยียวยา 5,000 บาท แนะใช้หัวใจแทนเอไอ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3953557
พท.บี้รัฐบาล ทบทวนวิธีคัดกรองเยียวยา 5,000 บาทใหม่ เผย www.เราไม่ทิ้งกัน.com ได้ทิ้งประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แนะใช้หัวใจแทนเอไอ
เมื่อวันที่ 15 เม.ย. นาย
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงปัญหาความลักลั่นของระบบการคัดกรองคุณสมบัติผู้ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล ทำให้ประชาชนจำนวนมากเสียสิทธิว่า
ขณะนี้ www.คนไทยไม่ทิ้งกัน ได้ทิ้งประชาชนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภาพที่ประชาชนบุกกระทรวงการคลัง จนต้องปิดประตูหนีประชาชนนั้น อธิบายสถานการณ์ความรับผิดชอบของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี การจัดระเบียบความปลอดภัย ปิดประตูเข้าได้ทางเดียวไม่ให้ประชาชนบุกเข้าไปอีก สะท้อนการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพ ไม่ต่างจากการบอกว่าถ้าลงทะเบียนไม่ผ่านให้อุทธรณ์ออนไลน์ได้ ถ้าไม่ผ่านอีกจะต้องถึงขั้นฎีกาออนไลน์กันอีกหรือไม่ ทั้งที่ถ้าการเยียวยาไม่มีปัญหาคงไม่มีประชาชนบุกไป
“นี่คือหลักฐานที่รัฐบาลสารภาพเองว่าการเยียวยาของรัฐบาลเป็นปัญหา ประชาชนได้รับผลกระทบจากการบริหาร และการออกมาตรการที่ผิดพลาดของรัฐบาล จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ระบบเอไอที่นำมาใช้คัดกรอง ถ้าไร้ประสิทธิภาพ ไม่สอดรับกับสภานการณ์ปัจจุบัน ต้องทบทวน ปรับปรุง เปลี่ยนจากการใช้เอไอมาใช้หัวใจช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่แก้ปัญหาแบบลูบหน้าปะจมูก ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ เพราะความทุกข์ร้อนของประชาชนรอไม่ได้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนวิธีการคัดกรองใหม่ และเร่งเยียวยาประชาชนทุกกลุ่มอย่างเสมอภาค ไม่สร้างความเหลื่อมล้ำ”
“พล.อ.ประยุทธ์อย่ามัวแต่ไปแนะนำประชาชนตากแดดฆ่าเชื้อโรค เงินมีแล้ว ยิงศรให้ตรงเป้า จ่ายเงินเยียวยาให้ถูกคน ไหนบอกว่าเราไม่ทิ้งกันแต่ไร้ประสิทธิภาพแบบนี้ มีคนถูกทิ้งไว้ข้างหลังจำนวนมาก” นาย
อนุสรณ์กล่าว
JJNY : 4in1 คุณหญิงหน่อยจี้จ่าย5พันบ.ให้ทั่วถึง/พท.บี้ทบทวนวิธีคัดกรอง/17อ.มธ.แนะรัฐบาล2ข้อ/เว็บล่ม-ระบบอืด!กู้ฉุกเฉิน
https://www.matichon.co.th/politics/news_2141209
‘คุณหญิงหน่อย’ จี้รัฐบาล ปรับเกณฑ์คัดกรองจ่าย 5 พันบ.ให้ทั่วถึง ชงเยียวยาเกษตรกร ครัวเรือนละ 3.5 หมื่นบ.
เมื่อวันที่ 15 เมษายน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) ลงพื้นที่เขตดอนเมือง โดยมีนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคพท. และทีมงาน พร้อมอาสาสมัคร เปิดจุดบริการ อาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นสำหรับการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ ให้กับพี่น้องประชาชน จำนวน 2 จุด วันละไม่ต่ำกว่า 1,500 ชุด โดยทำมาแล้วกว่า 20 วัน
คุณหญิงสุดารัตน์ ได้สอบถาม ถึงความทุกข์ของประชาชนที่มารับอาหาร และสิ่งของ โดยประชาชนส่วนใหญ่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ และส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา เพราะระบบเอไอระบุว่า คุณสมบัติไม่ตรงตามที่กระทรวงการคลังกำหนด เช่น ผู้ที่ประกอบอาชีพนวดแผนไทยแต่ถูกระบบเอไอระบุว่าเป็นเกษตรกร ผู้ที่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่ระบระบุว่าเป็นเกษตรกร ทั้งที่ไม่เคยมีไร่นาหรือที่ดินมาตลอดชีวิต หรือผู้ประกอบการ หรือแม่ค้าที่ขายของอยู่ในตลาดนัดสวนจตุจักร ที่ร้านถูกปิดมาแล้วกว่า 2 เดือน แต่กลับถูกชี้แจงว่ายังสามารถค้าขายได้อยู่ เป็นต้น
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การตรวจสอบผู้ที่ลงทะเบียนควรได้รับการเยียวยาจริงหรือไม่ อาจใช้กลไกของสำนักงานเขต ซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ หรือกลไกของกำนันผู้ใหญ่บ้านซึ่งอยู่ในต่างจังหวัด เข้ามาช่วยได้ และหากต้องการให้ประเทศ รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งมีผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด รัฐบาลจะต้องเร่งจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท ให้กับประชาชนที่เดือดร้อนจริง อย่างครบถ้วนโดยเร็ว จากนั้นพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร ครัวเรือนละ 35,000 บาท โดยจ่ายให้ 1 ครั้ง เพราะเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้งและไวรัสระบาดมาอย่างยาวนาน และรัฐต้องเร่งเปิดกิจการเพื่อให้ประชาชนผู้ประกอบการ สามารถกลับมาทำมาหากินได้ตามปกติอย่างปลอดภัย และขอให้นายการุณรับเรื่อง ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และบุคคลที่ยังไม่ได้รับการเยียวยา โดยให้ขอสำเนาบัตรประชาชน และข้อมูลการประกอบอาชีพจริง เพื่อให้คณะทำงานได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ให้ต่อไป
พท.บี้รบ. ทบทวนวิธีคัดกรองเยียวยา 5,000 บาท แนะใช้หัวใจแทนเอไอ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3953557
พท.บี้รัฐบาล ทบทวนวิธีคัดกรองเยียวยา 5,000 บาทใหม่ เผย www.เราไม่ทิ้งกัน.com ได้ทิ้งประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แนะใช้หัวใจแทนเอไอ
เมื่อวันที่ 15 เม.ย. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงปัญหาความลักลั่นของระบบการคัดกรองคุณสมบัติผู้ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล ทำให้ประชาชนจำนวนมากเสียสิทธิว่า
ขณะนี้ www.คนไทยไม่ทิ้งกัน ได้ทิ้งประชาชนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภาพที่ประชาชนบุกกระทรวงการคลัง จนต้องปิดประตูหนีประชาชนนั้น อธิบายสถานการณ์ความรับผิดชอบของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี การจัดระเบียบความปลอดภัย ปิดประตูเข้าได้ทางเดียวไม่ให้ประชาชนบุกเข้าไปอีก สะท้อนการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพ ไม่ต่างจากการบอกว่าถ้าลงทะเบียนไม่ผ่านให้อุทธรณ์ออนไลน์ได้ ถ้าไม่ผ่านอีกจะต้องถึงขั้นฎีกาออนไลน์กันอีกหรือไม่ ทั้งที่ถ้าการเยียวยาไม่มีปัญหาคงไม่มีประชาชนบุกไป
“นี่คือหลักฐานที่รัฐบาลสารภาพเองว่าการเยียวยาของรัฐบาลเป็นปัญหา ประชาชนได้รับผลกระทบจากการบริหาร และการออกมาตรการที่ผิดพลาดของรัฐบาล จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ระบบเอไอที่นำมาใช้คัดกรอง ถ้าไร้ประสิทธิภาพ ไม่สอดรับกับสภานการณ์ปัจจุบัน ต้องทบทวน ปรับปรุง เปลี่ยนจากการใช้เอไอมาใช้หัวใจช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่แก้ปัญหาแบบลูบหน้าปะจมูก ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ เพราะความทุกข์ร้อนของประชาชนรอไม่ได้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนวิธีการคัดกรองใหม่ และเร่งเยียวยาประชาชนทุกกลุ่มอย่างเสมอภาค ไม่สร้างความเหลื่อมล้ำ”
“พล.อ.ประยุทธ์อย่ามัวแต่ไปแนะนำประชาชนตากแดดฆ่าเชื้อโรค เงินมีแล้ว ยิงศรให้ตรงเป้า จ่ายเงินเยียวยาให้ถูกคน ไหนบอกว่าเราไม่ทิ้งกันแต่ไร้ประสิทธิภาพแบบนี้ มีคนถูกทิ้งไว้ข้างหลังจำนวนมาก” นายอนุสรณ์กล่าว