สวัสดีค่า หลังจากที่กระแสกระทู้ How to "พาพ่อแม่ไปญี่ปุ่น" ทั้ง 2 อันได้รับเสียงตอบรับที่ดี
>
https://ppantip.com/topic/36069962
>
https://ppantip.com/topic/37211402
มีคนขอแพลนเที่ยวมาทั้งในพันทิพย์และ Inbox เพจเลย
https://www.facebook.com/goeatanything/
ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้เขียนแพลนให้นะคะ คราวนี้ขอมาแก้ตัว
How to พาพ่อแม่ไปญี่ปุ่นรอบ 3 นี้ เราวางแผนไว้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2019 เดินทาง ธันวาคม 2019
ตั๋วโปรก็เรื่องนึงแต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือได้ใช้เวลากับพ่อแม่ ได้พาไปพักผ่อน (หรือจะเหนื่อยกว่าเดิมอันนี้รออ่านจากรีวิวกันเนอะ)
เอาล่ะ เริ่มต้นทริปนี้ด้วยความหนาว อีกแล้ววววว
ออกเดินทางจากดอนเมือง 10โมง ถึงนาริตะราว ๆ ทุ่มนึง
บังเอิญเห็นว่าบนเครื่องแอร์เอเชียมีขายตั๋วรถไฟ Skyliner ราคาประหยัด ลดราคาลงรวม3คนก็ 8xxบาท
แต่ใช้ได้ภายในวันที่ซื้อเท่านั้น!
ไม่รอช้าเรียกพนักงานมาถามรายละเอียด
ซื้อวันไหนต้องใช้วันนั้นเลย จ่ายเงินไทยหรือเงินเยนก็ได้ เรทก็ดี๊ดี
ได้ตั๋วมาเรียบร้อย ยังอยู่ในซองพลาสติกอยู่เลย
ถึงสนามบินปุ๊ปก็เดินไปแลกตั๋วที่จุดจำหน่ายตั๋ว
พนักงานทำหน้างงๆ เอ๋(เอียงคอ)...ตั๋วแบบนี้ซื้อจากไหนมาหรอคะ?
เราก็บอกว่าของ airasia เพิ่งซื้อบนเครื่องเลย
พนง : ปกติต้องมีตราปั๊มวันที่มาด้วยนะ
เรา : อ่าวหรอ แต่พนักงานบนเครื่องเค้าให้มาแบบนี้นะ เพิ่งเคยซื้อครั้งแรกด้วย
พนง : งั้นเดี๋ยวไปถามหัวหน้าก่อน
เดินตามไปงง ๆ
พนง : ใช้ไม่ได้นอกจากจะมีตราปั๊มวันที่มานะคะ
เรา : จะต้องไปแจ้งที่ไหนได้ เพราะลงเครื่องมาซักพักแล้ว
พนง : ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ แต่ลองไปที่เคาท์เตอร์เช็คอินของแอร์เอเชียดูก่อน
เราก็เดินไปถาม Information เค้าบอกว่าเคาท์เตอร์ปิดไปแล้วนะ
แต่ถ้าจะลองขึ้นไปดูก็ให้ไปชั้นนี้ บลาๆ
วิ่งสิจ๊ะ!
ถึงปุ๊ป ปิดแล้วจริงๆแต่ด้วยความโชคดี มีเจ้าหน้าที่เดินออกมาพอดี
เลยถามเค้าว่าเนี่ยๆตั๋วซื้อบนเครื่องมาไม่มีตราปั๊มแล้วมันใช้ไม่ได้นะ ต้องทำไง?
จนท : เอ๋(เอียงคอ)...ไม่เคยเห็นตั๋วหน้าตาแบบนี้มาก่อนเลย แต่เดี๋ยวถามให้นะคะ
รอซักพักเจ้าหน้าที่ก็วิ่งกลับมาพร้อมคำตอบว่า ตราปั๊มมีอันเดียว! และอยู่บนเครื่อง!
OMG!!!
เพราะงั้นเค้าจะรีบวิ่งเข้าไปปั๊มให้นะ แต่ต้องรอ 30นาที
เจ้าหน้าที่ก็น่ารักนะ วิ่งกลับมาหลังจากผ่านไปประมาณ15นาที ยื่นตั๋วให้แล้วขอโทษใหญ่เลย
แล้วใครจะโกรธลงถูกมะ
วิ่งกลับไปแลกตั๋ว แล้วก็วิ่งไปขึ้นรถรอบถัดไปในอีก7นาที
มือนึงก็ลากกระเป๋า ตาดูป้าย ปากเรียกพ่อแม่ให้เดินตามมา
เร็วๆไปทางนี้ๆ
หอบสิคะคุ๊ณณณณณ แฮ้ก ๆ
ไงล่ะ นี่แค่เดินทางถึงก็เจอเรื่องหรรษาเลย
โรงแรมสองคืนแรกของเราอยู่สถานี UENO เลยเลือกที่จะนั่ง Skyliner เพราะต่อเดียวจากสนามบินเลย
คราวนี้เราเลือกใช้ Pass หลักเป็น
JR EAST PASS (Tohoku area) เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางไปบริเวณภูมิภาคโทโฮคุ เช่น Aomori, Sendai รวมทั้ง Nikko
ขอบเขตการใช้งาน : เลือกใช้งานวันใดก็ได้ 5วัน ภายใน 14 วันนับตั้งแต่วันออกตั๋ว (Flexible 5 days) สามารถขึ้นรถไฟประเภทด่วนพิเศษ(Limited Express) รวม Shinkansen, รถด่วน(Express), รถไฟขบวนธรรมดา (Odinary Train) แบบจองที่นั่ง(Reserved seat) ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งภายในพื้นที่ที่กำหนด
ราคา 19,350เยน
ข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.jtbthailand.com/th/japan-rail-pass/jr-east-pass-tohoku/
คืนแรกประเดิมด้วยราเมงร้อนๆร้าน Ichiran หรือราเมงข้อสอบ
Ichiran นี่กินกี่ทีก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ อร่อยเหมือนเดิม
จากนั้นก็ไปเดินเล่นถ่าย Purikura กัน (ตู้ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์)
ป๊าบอกไม่เอาๆ ไม่ถ่าย
ตัดภาพมาอีกที คือ...ป๊า!!! แบ๊วสุดจ้ะ 5555555555555
Day1
ขอนับวันนี้เป็นวันแรกของการเที่ยวละกัน
โปรแกรมที่คิดไว้
TeamLab (งานอาร์ต)
Toyosu fish market (ตลาดปลาใหม่)
Akihabara (ย่านเครื่องใช้ไฟฟ้า)
Shibuya
Shimokitazawa (ย่านของมือสอง)
โปรแกรมนี้เอาไปเสนอแม่แล้ว
นางบอกว่า โอ๊ยTeamLab ต้องมีแต่เด็กวัยรุ่นแน่ๆ แม่ป๊าจะแก่เกินไปไม๊?
ด้วยความกังวลใจของแม่
เราก็หารูปเรฟให้ดู บอกให้ใส่เสื้อสีเรียบๆนะ บลาๆ แวะไปแป๊ปนึงล่ะกัน ถ่ายรูปสนุกๆ
ความจริงที่เจอ
มีเมมกล้องเท่าไหร่ก็กดรัวๆไปเลยจ้า ป๊าแม่จอยสุดไรสุด เรียกหาตากล้องตลอดทุกมุม
พอจะให้ช่วยถ่ายกลับบ้างนี่ยากเลย 555
ใครเคยไปจะเข้าใจ
เพราะมันมืดแล้วไฟก็จะวิ่งๆตลอดต้องจับจังหวะดีๆถึงจะได้รูปชิคๆ
แต่เอาเถอะ ถือซะว่าพาป๊าแม่มาเปิดหูเปิดตา
ไป TeamLab เดินทางโดยรถไฟสาย Yurikamome จากสถานี Shimbashi
ถ้าไปหลายที่ซื้อ Day pass ไปโลด!
กว่าจะต่อนยอนๆถ่ายรูปเล่นใน TeamLab ก็หมดไปหลายชั่วโมงแล้วนั้น
ก็แวะไปกินข้าวที่ตลาดปลาตอนเค้าจะปิดแล้ว
มื้อนี้ค่าเสียหาย : 10,xxxเยน (ประมาณ 2,800บาท)
ตลาดปลาใหม่ส่วนตัวคิดว่าไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจเลย ร้านยังน้อยอยู่ เดินจากสถานีไกลหน่อย
ชอบบรรยากาศตลาดปลาTsukiji มากกว่า
ด้วยความต่อนยอน ทำให้ไม่มีเวลาไปที่อื่นได้อีกจนต้องข้ามไปโปรแกรมสุดท้ายเลย
คือย่านมือสอง Shimokitazawa
จังหวะนี้แม่เริ่มงอแง ปวดขา อยากกลับโรงแรม
แต่เราก็บิ้ว บิ้ว แล้วก็บิ้ว
"แม่ร้านมือสองญี่ปุ่นเชียวนะ ไปเถอะเผื่อเจอของดี"
จนแม่ยอมไปในที่สุด
พอถึงเท่านั้นแหละ
แค่ร้านแรกที่ไม่ได้ตั้งใจเข้าก็ปาไป30นาที
แบบเดินโฉบๆแต่ได้ของติดไม้ติดมือมาจ่ะ
ป๊าก็นั่งรอที่คาเฟ่ ดื่มเบียร์เย็นๆเล่นโทรศัพท์รอสาวๆชอปปิ้ง หายห่วง
แม่เดินไวมากจังหวะนี้ เอาจริง! ความงอแงและความเมื่อยนั้นหายไปในพริบตา 555
เราอยู่ย่านนี้กันจนร้านเริ่มปิด
ได้เวลานั่งรถไฟกลับ
แวะเปลี่ยนสถานีกันที่ Shinjuku เลยหาชาบูร้อนๆกิน หลังจากเพิ่งรู้ตัวว่าหิวโหยกันแค่ไหน
Day2
วันนี้เราเดินทางไปจังหวัด Yamagata เพื่อไปเที่ยวภูเขา Zao
ออกแต่เช้าไปถึง Yamagata station เที่ยงๆ เก็บของที่โรงแรมใกล้ ๆสถานี
แล้วเปลี่ยนชุด ใส่ฮีทเทคด้านในเพิ่ม เปลี่ยนรองเท้าบูทลุยหิมะ เสื้อ-กางเกงกันลม เพราะอากาศน่าจะติดลบ
แปลงโฉมเรียบร้อยก็รีบเดินไปซื้อตั๋วรถบัสแบบ Combo
บัสไป-กลับ+กระเช้า ราคา4,500เยน(1,3xxบาท)
ภูเขา Zao เค้าบอกว่ามี Ice monster ให้ดู ถือเป็น1ใน3ที่ ของญี่ปุ่นที่มีปรากฏการนี้
แต่ช่วงเดือนที่เรามายังถือว่าเร็วเกินไป(มาก)
อธิบายปรากฏการ Ice monster สักเล็กน้อย
ปีศาจหิมะนี่ถือเป็นปรากฏการทางธรรมชาติที่เกิดจากการทับถมของเกร็ดน้ำแข็งทับถมลงบนต้นสน
จนรูปร่างเหมือนปีศาจนั่นเองแหละค่าคุณผู้ช๊ม
อ่ะ หมดสาระที่มีน้อยนิดแล้วไปเที่ยวต่อกันดีกว่า
อย่างที่บอกไปว่าเรามาเร็วเกิน แถมเวลาที่ไปก็เย็นมากแล้ว คนเลยน้อยสุดๆ
นั่งบัสจากหน้าสถานี JR Yamagata ช่องหมายเลข1
เดินทางไปประมาณชม.กว่าๆก็ลงสถานีปลายทาง Zao Bus Terminal
จากตรงนี้สามารถเดินต่อ 15นาที แต่ก็หนาวมากนะ เลยตัดสินใจไม่ยากเลยที่จะขึ้นTaxi
เดินออกจากสถานีเลี้ยวซ้ายจะเจอออฟฟิศเล็กๆ คนขับTaxi นั่งอยู่ในนั้น สามารถเรียกได้เลย
3นาทีก็ถึง Ropeway เลยจ้า 700เยน
อากาศรอบ ๆค่อนข้างหนาว มองไปบนยอดเขาคือขาวโพลนไม่เห็นอะไรใด ๆ
แต่ไหนๆมาแล้วก็ขึ้นไปซักหน่อย
กระเช้าลอยตัวสูงขึ้นสูงชึ้น เริ่มเห็นหิมะขาวโพลนปกคลุมต้นสนแต่ยังไม่ถึงกับคลุมทั้งหมด
อากาศที่หนาวแล้วก็ลดต่ำลงไปอีก
ก่อนจะถึงยอดเขาวัดได้ -6 องศา บรื๊ออออออ
กระเช้าจอดชั้นแรก ชั้นนี้จะเห็นคนมาเล่นสกีและสโนว์บอร์ดกันอยู่ประปราย
ขึ้นต่อไม่รอช้า
ด้านบนสุด แข็งเลยจ้า อุณหภูมิเท่าไหร่ไม่รู้แล้ว รู้แต่ว่ามือแข็ง หน้าชาไปหมดเล๊ย
ถึงกับต้องวิ่งเข้ามาจัดเสื้อผ้าใหม่ งัดถุงร้อน ผ้าพันคอพันๆไปถึงปาก
พร้อม
ลุย!
ไฮไลท์ของจุดชมวิวนี้คือองค์พระพุทธรูป ถ้ามาช่วงพีคจริงจะเห็นแค่เศียรเท่านั้น
ซึ่ง แปลว่าเรามาเร็วไปเย๊อะเลยจริง ๆ 555
ขากลับ ไม่มีแท็กซี่แล้วจ้ะแม่ เดินกันไปหนาวๆ ประมาณ15 นาที
อแงนิดหน่อยที่ต้องเดิน ก็เลยชวนคุยชี้นู้นนี่ให้ดู เบี่ยงเบนความสนใจไป 555
ปิดท้ายวันหนาว ๆด้วยเนื้อย่างร้อน ๆและเบียร์เย็น ๆ ป๊านี่ยิ้มกว้างงงงงงงงงงงงงเลย
ร้านนี้แนะนำเลย ชื่อร้าน くろげ อร่อย บรรยากาศดี สะอาด ได้คะแนนจากเว็บTabelog 3.32
เดินจากสถานีมาแค่ 5นาทีเท่านั้น
ข้อมูลร้าน :
https://tabelog.com/yamagata/A0601/A060101/6000719/
[CR] How To "พาพ่อแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่น" พาเที่ยวภูมิภาคTohoku #เที่ยวแหลก-เรียบ
สวัสดีค่า หลังจากที่กระแสกระทู้ How to "พาพ่อแม่ไปญี่ปุ่น" ทั้ง 2 อันได้รับเสียงตอบรับที่ดี
> https://ppantip.com/topic/36069962
> https://ppantip.com/topic/37211402
มีคนขอแพลนเที่ยวมาทั้งในพันทิพย์และ Inbox เพจเลย https://www.facebook.com/goeatanything/
ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้เขียนแพลนให้นะคะ คราวนี้ขอมาแก้ตัว
How to พาพ่อแม่ไปญี่ปุ่นรอบ 3 นี้ เราวางแผนไว้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2019 เดินทาง ธันวาคม 2019
ตั๋วโปรก็เรื่องนึงแต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือได้ใช้เวลากับพ่อแม่ ได้พาไปพักผ่อน (หรือจะเหนื่อยกว่าเดิมอันนี้รออ่านจากรีวิวกันเนอะ)
เอาล่ะ เริ่มต้นทริปนี้ด้วยความหนาว อีกแล้ววววว
ออกเดินทางจากดอนเมือง 10โมง ถึงนาริตะราว ๆ ทุ่มนึง
บังเอิญเห็นว่าบนเครื่องแอร์เอเชียมีขายตั๋วรถไฟ Skyliner ราคาประหยัด ลดราคาลงรวม3คนก็ 8xxบาท
แต่ใช้ได้ภายในวันที่ซื้อเท่านั้น!
ไม่รอช้าเรียกพนักงานมาถามรายละเอียด
ซื้อวันไหนต้องใช้วันนั้นเลย จ่ายเงินไทยหรือเงินเยนก็ได้ เรทก็ดี๊ดี
ได้ตั๋วมาเรียบร้อย ยังอยู่ในซองพลาสติกอยู่เลย
ถึงสนามบินปุ๊ปก็เดินไปแลกตั๋วที่จุดจำหน่ายตั๋ว
พนักงานทำหน้างงๆ เอ๋(เอียงคอ)...ตั๋วแบบนี้ซื้อจากไหนมาหรอคะ?
เราก็บอกว่าของ airasia เพิ่งซื้อบนเครื่องเลย
พนง : ปกติต้องมีตราปั๊มวันที่มาด้วยนะ
เรา : อ่าวหรอ แต่พนักงานบนเครื่องเค้าให้มาแบบนี้นะ เพิ่งเคยซื้อครั้งแรกด้วย
พนง : งั้นเดี๋ยวไปถามหัวหน้าก่อน
เดินตามไปงง ๆ
พนง : ใช้ไม่ได้นอกจากจะมีตราปั๊มวันที่มานะคะ
เรา : จะต้องไปแจ้งที่ไหนได้ เพราะลงเครื่องมาซักพักแล้ว
พนง : ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ แต่ลองไปที่เคาท์เตอร์เช็คอินของแอร์เอเชียดูก่อน
เราก็เดินไปถาม Information เค้าบอกว่าเคาท์เตอร์ปิดไปแล้วนะ
แต่ถ้าจะลองขึ้นไปดูก็ให้ไปชั้นนี้ บลาๆ
วิ่งสิจ๊ะ!
ถึงปุ๊ป ปิดแล้วจริงๆแต่ด้วยความโชคดี มีเจ้าหน้าที่เดินออกมาพอดี
เลยถามเค้าว่าเนี่ยๆตั๋วซื้อบนเครื่องมาไม่มีตราปั๊มแล้วมันใช้ไม่ได้นะ ต้องทำไง?
จนท : เอ๋(เอียงคอ)...ไม่เคยเห็นตั๋วหน้าตาแบบนี้มาก่อนเลย แต่เดี๋ยวถามให้นะคะ
รอซักพักเจ้าหน้าที่ก็วิ่งกลับมาพร้อมคำตอบว่า ตราปั๊มมีอันเดียว! และอยู่บนเครื่อง!
OMG!!!
เพราะงั้นเค้าจะรีบวิ่งเข้าไปปั๊มให้นะ แต่ต้องรอ 30นาที
เจ้าหน้าที่ก็น่ารักนะ วิ่งกลับมาหลังจากผ่านไปประมาณ15นาที ยื่นตั๋วให้แล้วขอโทษใหญ่เลย
แล้วใครจะโกรธลงถูกมะ
วิ่งกลับไปแลกตั๋ว แล้วก็วิ่งไปขึ้นรถรอบถัดไปในอีก7นาที
มือนึงก็ลากกระเป๋า ตาดูป้าย ปากเรียกพ่อแม่ให้เดินตามมา
เร็วๆไปทางนี้ๆ
หอบสิคะคุ๊ณณณณณ แฮ้ก ๆ
ไงล่ะ นี่แค่เดินทางถึงก็เจอเรื่องหรรษาเลย
โรงแรมสองคืนแรกของเราอยู่สถานี UENO เลยเลือกที่จะนั่ง Skyliner เพราะต่อเดียวจากสนามบินเลย
คราวนี้เราเลือกใช้ Pass หลักเป็น
JR EAST PASS (Tohoku area) เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางไปบริเวณภูมิภาคโทโฮคุ เช่น Aomori, Sendai รวมทั้ง Nikko
ขอบเขตการใช้งาน : เลือกใช้งานวันใดก็ได้ 5วัน ภายใน 14 วันนับตั้งแต่วันออกตั๋ว (Flexible 5 days) สามารถขึ้นรถไฟประเภทด่วนพิเศษ(Limited Express) รวม Shinkansen, รถด่วน(Express), รถไฟขบวนธรรมดา (Odinary Train) แบบจองที่นั่ง(Reserved seat) ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งภายในพื้นที่ที่กำหนด
ราคา 19,350เยน
ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.jtbthailand.com/th/japan-rail-pass/jr-east-pass-tohoku/
คืนแรกประเดิมด้วยราเมงร้อนๆร้าน Ichiran หรือราเมงข้อสอบ
Ichiran นี่กินกี่ทีก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ อร่อยเหมือนเดิม
จากนั้นก็ไปเดินเล่นถ่าย Purikura กัน (ตู้ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์)
ป๊าบอกไม่เอาๆ ไม่ถ่าย
ตัดภาพมาอีกที คือ...ป๊า!!! แบ๊วสุดจ้ะ 5555555555555
Day1
ขอนับวันนี้เป็นวันแรกของการเที่ยวละกัน
โปรแกรมที่คิดไว้
TeamLab (งานอาร์ต)
Toyosu fish market (ตลาดปลาใหม่)
Akihabara (ย่านเครื่องใช้ไฟฟ้า)
Shibuya
Shimokitazawa (ย่านของมือสอง)
โปรแกรมนี้เอาไปเสนอแม่แล้ว
นางบอกว่า โอ๊ยTeamLab ต้องมีแต่เด็กวัยรุ่นแน่ๆ แม่ป๊าจะแก่เกินไปไม๊?
ด้วยความกังวลใจของแม่
เราก็หารูปเรฟให้ดู บอกให้ใส่เสื้อสีเรียบๆนะ บลาๆ แวะไปแป๊ปนึงล่ะกัน ถ่ายรูปสนุกๆ
ความจริงที่เจอ
มีเมมกล้องเท่าไหร่ก็กดรัวๆไปเลยจ้า ป๊าแม่จอยสุดไรสุด เรียกหาตากล้องตลอดทุกมุม
พอจะให้ช่วยถ่ายกลับบ้างนี่ยากเลย 555
ใครเคยไปจะเข้าใจ
เพราะมันมืดแล้วไฟก็จะวิ่งๆตลอดต้องจับจังหวะดีๆถึงจะได้รูปชิคๆ
แต่เอาเถอะ ถือซะว่าพาป๊าแม่มาเปิดหูเปิดตา
ไป TeamLab เดินทางโดยรถไฟสาย Yurikamome จากสถานี Shimbashi
ถ้าไปหลายที่ซื้อ Day pass ไปโลด!
กว่าจะต่อนยอนๆถ่ายรูปเล่นใน TeamLab ก็หมดไปหลายชั่วโมงแล้วนั้น
ก็แวะไปกินข้าวที่ตลาดปลาตอนเค้าจะปิดแล้ว
มื้อนี้ค่าเสียหาย : 10,xxxเยน (ประมาณ 2,800บาท)
ตลาดปลาใหม่ส่วนตัวคิดว่าไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจเลย ร้านยังน้อยอยู่ เดินจากสถานีไกลหน่อย
ชอบบรรยากาศตลาดปลาTsukiji มากกว่า
ด้วยความต่อนยอน ทำให้ไม่มีเวลาไปที่อื่นได้อีกจนต้องข้ามไปโปรแกรมสุดท้ายเลย
คือย่านมือสอง Shimokitazawa
จังหวะนี้แม่เริ่มงอแง ปวดขา อยากกลับโรงแรม
แต่เราก็บิ้ว บิ้ว แล้วก็บิ้ว
"แม่ร้านมือสองญี่ปุ่นเชียวนะ ไปเถอะเผื่อเจอของดี"
จนแม่ยอมไปในที่สุด
พอถึงเท่านั้นแหละ
แค่ร้านแรกที่ไม่ได้ตั้งใจเข้าก็ปาไป30นาที
แบบเดินโฉบๆแต่ได้ของติดไม้ติดมือมาจ่ะ
ป๊าก็นั่งรอที่คาเฟ่ ดื่มเบียร์เย็นๆเล่นโทรศัพท์รอสาวๆชอปปิ้ง หายห่วง
แม่เดินไวมากจังหวะนี้ เอาจริง! ความงอแงและความเมื่อยนั้นหายไปในพริบตา 555
เราอยู่ย่านนี้กันจนร้านเริ่มปิด
ได้เวลานั่งรถไฟกลับ
แวะเปลี่ยนสถานีกันที่ Shinjuku เลยหาชาบูร้อนๆกิน หลังจากเพิ่งรู้ตัวว่าหิวโหยกันแค่ไหน
Day2
วันนี้เราเดินทางไปจังหวัด Yamagata เพื่อไปเที่ยวภูเขา Zao
ออกแต่เช้าไปถึง Yamagata station เที่ยงๆ เก็บของที่โรงแรมใกล้ ๆสถานี
แล้วเปลี่ยนชุด ใส่ฮีทเทคด้านในเพิ่ม เปลี่ยนรองเท้าบูทลุยหิมะ เสื้อ-กางเกงกันลม เพราะอากาศน่าจะติดลบ
แปลงโฉมเรียบร้อยก็รีบเดินไปซื้อตั๋วรถบัสแบบ Combo
บัสไป-กลับ+กระเช้า ราคา4,500เยน(1,3xxบาท)
ภูเขา Zao เค้าบอกว่ามี Ice monster ให้ดู ถือเป็น1ใน3ที่ ของญี่ปุ่นที่มีปรากฏการนี้
แต่ช่วงเดือนที่เรามายังถือว่าเร็วเกินไป(มาก)
อธิบายปรากฏการ Ice monster สักเล็กน้อย
ปีศาจหิมะนี่ถือเป็นปรากฏการทางธรรมชาติที่เกิดจากการทับถมของเกร็ดน้ำแข็งทับถมลงบนต้นสน
จนรูปร่างเหมือนปีศาจนั่นเองแหละค่าคุณผู้ช๊ม
อ่ะ หมดสาระที่มีน้อยนิดแล้วไปเที่ยวต่อกันดีกว่า
อย่างที่บอกไปว่าเรามาเร็วเกิน แถมเวลาที่ไปก็เย็นมากแล้ว คนเลยน้อยสุดๆ
นั่งบัสจากหน้าสถานี JR Yamagata ช่องหมายเลข1
เดินทางไปประมาณชม.กว่าๆก็ลงสถานีปลายทาง Zao Bus Terminal
จากตรงนี้สามารถเดินต่อ 15นาที แต่ก็หนาวมากนะ เลยตัดสินใจไม่ยากเลยที่จะขึ้นTaxi
เดินออกจากสถานีเลี้ยวซ้ายจะเจอออฟฟิศเล็กๆ คนขับTaxi นั่งอยู่ในนั้น สามารถเรียกได้เลย
3นาทีก็ถึง Ropeway เลยจ้า 700เยน
อากาศรอบ ๆค่อนข้างหนาว มองไปบนยอดเขาคือขาวโพลนไม่เห็นอะไรใด ๆ
แต่ไหนๆมาแล้วก็ขึ้นไปซักหน่อย
กระเช้าลอยตัวสูงขึ้นสูงชึ้น เริ่มเห็นหิมะขาวโพลนปกคลุมต้นสนแต่ยังไม่ถึงกับคลุมทั้งหมด
อากาศที่หนาวแล้วก็ลดต่ำลงไปอีก
ก่อนจะถึงยอดเขาวัดได้ -6 องศา บรื๊ออออออ
กระเช้าจอดชั้นแรก ชั้นนี้จะเห็นคนมาเล่นสกีและสโนว์บอร์ดกันอยู่ประปราย
ขึ้นต่อไม่รอช้า
ด้านบนสุด แข็งเลยจ้า อุณหภูมิเท่าไหร่ไม่รู้แล้ว รู้แต่ว่ามือแข็ง หน้าชาไปหมดเล๊ย
ถึงกับต้องวิ่งเข้ามาจัดเสื้อผ้าใหม่ งัดถุงร้อน ผ้าพันคอพันๆไปถึงปาก
พร้อม
ลุย!
ไฮไลท์ของจุดชมวิวนี้คือองค์พระพุทธรูป ถ้ามาช่วงพีคจริงจะเห็นแค่เศียรเท่านั้น
ซึ่ง แปลว่าเรามาเร็วไปเย๊อะเลยจริง ๆ 555
ขากลับ ไม่มีแท็กซี่แล้วจ้ะแม่ เดินกันไปหนาวๆ ประมาณ15 นาที
อแงนิดหน่อยที่ต้องเดิน ก็เลยชวนคุยชี้นู้นนี่ให้ดู เบี่ยงเบนความสนใจไป 555
ปิดท้ายวันหนาว ๆด้วยเนื้อย่างร้อน ๆและเบียร์เย็น ๆ ป๊านี่ยิ้มกว้างงงงงงงงงงงงงเลย
ร้านนี้แนะนำเลย ชื่อร้าน くろげ อร่อย บรรยากาศดี สะอาด ได้คะแนนจากเว็บTabelog 3.32
เดินจากสถานีมาแค่ 5นาทีเท่านั้น
ข้อมูลร้าน : https://tabelog.com/yamagata/A0601/A060101/6000719/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้