ทริป 14 วัน 13+1 คืน 7 จว : ตะลุย Tohoku area ตอน : หิมะปังๆที่ ยามากะตะ (Yamagata)

กระทู้สนทนา

บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ ประเทศญี่ปุ่น ภาพถ่าย เที่ยวภูเขา

สำหรับทริปนี้ เป็นครั้งที่ 4 แล้วที่จิวได้มาญี่ปุ่น ไม่รู้ว่าติดอกติดใจอะไรหนักหนา555 เมืองหลักๆที่เราต้องไปก็ไปมาแล้ว ครั้งนี้ก็เลยขอไปหาที่ที่แปลกใหม่สักหน่อย เลยอยากไปตะลุยโซน โตโฮคุ เพราะได้ยินได้เห็นมาว่า ที่นี่ธรรมชาติดี๊ดี หิมะถล่มถลายตอนฤดูหนาว ออนเซนก็ขึ้นชื่อ ผลหมากรากไม้ก็น่ากิน สุดท้ายเลยตัดสินใจปักหมุดไว้ตอนใต้ของโซนนี้ ก่อนที่จะกลับมาพักผ่อนที่โตเกียวสัก 2-3 คืนแล้วค่อยบินกลับบ้านเฮา สำหรับคนที่สนใจโซนนี้มันก็ไปไม่ยากอย่างที่คิดครับแต่ต้องทำการบ้านให้ดีพอสมควร เพราะการเดินทางค่อนข้างซับซ้อนนิสนุงสำหรับคนที่จะนั่งรถไฟ แต่ถ้าขับรถไปก็ชิวๆเลยครับ แต่ระวังถนนลื่นหน่อย เพราะหิมะมันหนักมากกกกก

อะเรามาเริ่มเตรียมตัวกันเลยดีกว่า
1.จองตั๋ว(ช่วงโปร นกสกูท 13,xxx บาท ไปกลับ/คน(สกูทบิส)(ตอนเราไปไม่เจอปัญหาเลย))
เดินทางช่วง (3-16 กพ 2017)
2.ซื้อหนังสือมาทำการบ้าน + เปิดดูเวปเปิดดูเพจนิดหน่อย แล้วไปเสี่ยงๆเอา บางทีแพลนก็เปลี่ยนไปตามสถานะการณ์หรือหลังไปขอข้อมูลจาก Tourist information center แนะนำให้ปริ้นตารางปฏิทิน แล้วใส่แต่ละที่ๆจะไป มันช่วยได้เยอะ
สถานที่ที่ไปมีดังต่อไปนี้
-YAMAGATA 4 คืน
-SENDAI 3 คืน
-FUKUSHIMA 3 คืน
-ASAKUSA 3 คืน(ขอกลับเข้าเมืองบ้าง555) + NARITA 1 คืน(เพราะจองตั๋วกลับผิดเดือน อิอิ)
3.ซื้อพาส : JR east pass สำหรับ Tohoku area : ตอนนั้นทาง TOHOKU Buffet มีโปรดีๆ ถ้าซื้อพาสกับตัวแทนจะได้ 1 ทริปในราคาถูก/1พาส พาสนี้ สามารถยืดหยุ่นได้ภายใน 2 อาทิตย์ แต่ใช้ได้ แค่ 5 วัน : จิวเลยต้องวางแพลนดีๆ ว่าจำเป็นต้องใช้ไปไหนบ้าง เอาให้คุ้มที่สุด(ส่วนมากใช้ตอนที่ต้องนั่ง shinkansen : ไปเมืองต่อเมืองจำเป็นพอสมควร) : ตัวแทนจะออกใบให้เพื่อไปแลกที่ Office สำหรับการจองตั๋วที่นั่ง เขาให้จองเมืองต่อเมือง ตอนแรกจะจองที่นั่งทั้งหมดทีเดียว แต่เขาไม่ให้จอง
สำหรับตารางรถก็ HYPERDIA เจ้าเก่านะจะ
4.รีบจอง รร ยิ่งใกล้วันยิ่งแพงนาจา
5.เสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวสำคัญมาก ที่ต้องมีคือ
- ฮีทเทค+เลคกิ้ง : ผมเอาไปหลายตัวเหมือนกัน ใส่แบบ 2 ตัวทับกันเลย เพราะหนาวจริงๆ (ไปนานๆก็สักที่รรได้เดี๋ยวมันจะเหม็น55)
- โคท : แนะนำให้เอาแบบกันน้ำหน่อย แล้วบุหนาๆ เพราะถ้าเจอหิมะเยอะๆมันจะชื่นมาก เอาแบบมีฮูทด้วยนะครับ ช่วยกันลมได้เยอะ
- รองเท้านี่ก็ตัวดี : เอาแบบกันน้ำนะ กันลื่นจะดีมาก นี่เอารองเท้าธรรมดาไป ทั้งเปียก ทั้งลื่น เวียนหัว 5555
- สเวทเตอร์และเสื้อขนเป็ด : เอาแบบหนาๆบางๆไม่ดีต่อสุขภาพปอดนะจะ เดี๋ยวมันจะบวมเอา ใส่ทับด้วยขนเป็ดอุ่นดี
- ถุงมือและผ้าพันคอและหมวกหรือที่ป้องกันหู : ถุงมือเอาแบบฮีทเทค (บางทีก็กันไม่อยู่55) หรือแบบหนัง เอาตามสไตล์เลย แต่ผ้าพันคอ เอาหนาๆไป ไว้ปิดหูปิดหน้าช่วยได้เยอะจิงๆครับ จะได้ไม่เจ็บคอด้วย และที่สำคัญคือหมวกเอาไปเถอะ เราใส้แล้วหัวหลิมก็ใส่ ไม่งั้นหนาวจนปวดหูแย่
6.ประกันการเดินทาง : นี่ไม่เคยได้ใช้แต่มันคือสิ่งที่จำเป็นมาก และอีกอยากมันไม่แพง ถ้าเกิดอะไรขึ้นมันคุ้มกว่ากันเยอะ เราทำกับ AXA แต่ใครจะสะดวกกับที่ไหนก็ตามสบาย

วันแรก
จังหวัดแรกที่เราจะไปเยือนนั้นก็คือ จังหวัด Yamagata ที่นี่จะขึ้นชื่อเรื่องของ ออนเซน ธรรมชาติ และผลิตผลทางการเกษตร
แล้วที่ที่เราจะไปบุกนั้นก็มีตามนี้นะครับ
- วัด Yamadera
- Zao Onsen : นั่งกระเช้าไปตามล่าเจ้าปีศาจหิมะ
- เมืองท่า Sakata : บ้านเกิดคุณแม่โอชิน
- แล้วปิดท้ายด้วย Ginzan Onsen สวยนะแต่ไม่ได้แช่ ฮือออออออออ

พอมาถึง Yamagata เราก็ไม่รอช้ารีบไปฝากกระเป๋าแล้วออกลุยเที่ยวกันเลย ด้วยเวลาการเดินทางไม่มากเราจึงเลือกไปที่วัด Yamadera เป็นที่แรก

การเดินทางมาวัดนี้ เริ่มที่ Yamagata Station นั่ง JR Senzan Line for Sendai เวลาประมาณ 16 นาที หลังจากนั่นก็ตามพ่อเณรน้อยอย่างในรูปไปเลยจ้าแล้วก็จะถึงทางเข้าวัดเองครับ

เสียเวลาไปกับการถ่ายรูปตรงสะพานนี้พอสมควร ของจริงสวยพีคกว่าในรูปมากมาย

ในที่สุดก็ถึงประตูวัดแล้ววววว ถ้ารองเท้าใครไม่ค่อยเกาะพื้น ค่อยๆเดินขึ้นไปนะครับเดี๋ยวจะลื่น

ประวัติเล็กๆน้อยๆ วัดนี้เป็นวัดที่ก่อตั้งขึ้นในปี คศ 860 ในยุคสมัยของจักรพรรดิเซวะ อายุมากกว่า 1000ปี เป็นวัดในนิกายเทนได

ในส่วนของการเข้าชมวัดด้านล่างไม่เสียเงินนะครับ

สำหรับค่าเข้าชมด้านบน
ถ้าจำไม่ผิด จะราคา 400 เยน
เวลา ประมาณ 09:00-16:00(น่าจะปิดไวตอนหน้าหนาว)
ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการขึ้น เส้นทางเป็นบันไดหินกว่า 1000 ขั้น
ส่วนตัวผมไม่ได้ขึ้นนะครับ เพราะไปไม่ทัน แล้ว รองเท้าก็ลื่นมาก ลื่นล้มไปรอบนึงแล้ว 555
เสียดายมากต้องตามไปเก็บอีกแน่นอน เพราะเห็นในรูปวิวด้านบนคือที่สุด ไปหน้าใบไม้เปลี่ยนสีก็คงจะพีคไม่ต่างกัน

หลังจากเหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวัน ก็ได้เวลาเติมพลังก่อนกลับ รร ไปนอนกันแล้วนะจะ
พิกัด ผ่านด่านตรวจตั๋วของJRมา เลี้ยวขวาก็จะเจอร้านนี้เลย กรอบอร่อย เห็นแล้วก็น้ำลายไหล 555

สำหรับเค้ก ร้านอยู่ที่ชั้นล่างของห้างตรงสถานีเลยครับ อร่อย เนื้อนุ่มไม่หวาน ถูกจ๊ายยยยย ถูกใจ
สำหรับใครที่อยากเห็นบรรยากาศของ Yamagata ในฉบับ อะนิเมะก็ไปหาเรื่อง Only yesterday มาดูกันได้นะจะ ไม่ผิดหวังแน่นอน

วันที่ 2 : Mount Zao : ตามล่าหา จุนเฮียว(ปีศาจหิมะ) ที่ Zao Ropeway

วันนี้เราจะเริ่มต้นเดินทางกันจาก สถานี Yamagata เพื่อจะไปขึ้นรถบัสไปยัง Zao Onsen
สำหรับตั๋ว พร้อม เคเบิ้ลคาร์ ไปกลับ
ราคา : 4,100 เยน
เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
หาซื้อได้ที่ Bus Information ด้านขวามือของสถานี(หันหน้าเข้าสถานี) ตรงป้ายรถเมล์

สำหรับหน้าหนาวที่นี่จะมีคนมาเล่นสกีและสโนว์บอร์ดกันอย่างมากมาย หรือใครไม่ถนัด ก็นั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปชมความสวยงามของหิมะและธรรมชาติก็ได้ หรือจะมานอนแช่ออนเซนกันให้สบายใจก็ถือว่าดี เพราะมีห้องอาบน้ำสาธารณะให้บริการทั่วเมืองเลยจะ

พอนั่งรถมาถึงสถานี ก็ให้ออกมาแล้วเดินมาทางขวาเรื่อยๆ ก็จะเจอตึกแบบในรูปนี้ เข้าไปแลกบัตรขึ้น เคเบิ้ลคาร์ได้เลย

ที่นี่มันจtแบ่งเป็นสองสถานี จะลงเดินเล่นที่สถานีแรกก่อนก็ได้หรือจะต่อขึ้นเคเบิ้ลอีกคันต่อไปข้างบนเลยก็ดี สถานีปลายทางนี้แหละที่เขาว่ากันว่ามีเจ้าปีศาจหิมะ 5555555555555555

พอถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็ตรงไปเข้าร้านอาหารตรงสถานีบนสุดเลย พวกเราต้องการความอบอุ่นมาก เพราะไม่สามารถต้านลมต้านหิมะที่กำลังตกได้ตกดีอยู่ด้านนอก เราก็ต้องอบอุ่นร่างกายด้วยราเมงร้อนๆ เติมพลังด้วยข้าวหน้าหมูกันสักหน่อย อิอิอิ

พอกินเสร็จปุ๊บ เราก็ออกไปด้านนอกกันเลย วันนั้นเป็นวันที่ฟ้าปิดและหิมะตกตลอด บรรยากาศข้างนอกคือขาวโพลนมาก ขาวจนไม่รู้อะไรเป็นอะไรเลย โอ๊ยยยไม่เหมือนภาพที่จินตนาการไว้เล๊ย(ท้องฟ้าใสๆ ต้นไม้ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง หมดกัน5555) ลมวันนั้นแรงโคตรรรร แรงสุดๆ เดินกันแบบทุลักทุเลแต่ก็สนุกดี 555

แท่น แทน แท๊นนนนนน ในที่สุดเราก็ได้พบกับ เจ้าปีศาจหิมะ หรือที่เขาเรียกกันว่าจุนเฮียว ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเฉพาะที่นี่เท่านั้น เพราะตัวน้ำแข็งที่มาเกาะบนเจ้าต้นไม้พวกนี้นอกจากหิมะแล้วมันก็คือไอน้ำทะเลของมหาสมุทรที่พัดจับตัวกันมาเป็นแผ่นน้ำแข็งแล้วมาติดบนเจ้าต้นไม้พวกนี้ เลยทำให้พวกมันมีลักษณะที่ต่างงงออกไปจากที่อื่น

ด้วยความที่เราก็เป็นสายชอบกิน พอลงมาปุ๊บด้วยความที่ใช้พลังงานเยอะก็เกิดหิว เลยไปจัดกันสักหน่อยที่ร้านอาหารตรง ZAO CHUO Ropeway

เอาให้เต็มที่เลยจ้าาา 555 หลังจากนั้นก็ได้เวลาแช่ออนเซนแล้ว มาที่นี่ทั้งทีไม่แช่ไม่ได้ แต่คือไม่ได้ถ่ายรูปไว้ลืมอะ ลองตามลิ้งค์ข้างล่างไปนะ หรือเสิช 湯の花茶屋新左衛門の湯 ในกูเกิลแมพเลย
https://www.google.com/maps/place/湯の花茶屋+新左衛門の湯/@38.1648874,140.3952456,19.4z/data=!4m5!3m4!1s0x0:0xe25f68e32680c2fc!8m2!3d38.1645671!4d140.3949731
ที่เป็นที่แช่แบบเอ้าท์ดอร์ และอินดอร์นะครับ อย่าลืมเตรียมผ้าขนหนูไปนะครับ ถ้าไม่งั้นก็ต้องซื้อเอา นอกจากจะเป็นออนเซนที่ดูดีแล้วที่นี่ยังมีร้านขายของและร้านอาหารด้วย
ได้เวลากลับไปพักผ่อนแล้ว แนะนำให้ไปก่อนเวลารถออกสัก 20 นาทีนะครับ ก่อนขึ้นรถประมาณ 5-10 นาที ก็รีบไปต่อแถวรอเลย คนเยอะมาก
ก่อนกลับไปโรงแรมก็มิวาย ต้องกินไรกันสักหน่อย เดี๋ยวจะนอนไม่หลับ 55555555 คืนนี้ขอลาไปพร้อมกับงานปิ้งงานย่าง เห็นรูปแล้วก็คิดถึ๊งงงงงงงคิดถึง