สวัสดีครับ
ผมเปิดกระทู้นี้เนื่องจาก อยากแสดงความคิดเห็นในมุมมองของผมก่อน และก็อยากฟังความคิดเห็นของเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มีความรู้ วิสัยทัศน์ เบื้องหลังชีวิต และฐานะที่แตกต่างกันออกไป มาพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นเดียวกันนี้ ผมตื่นเต้นนะที่จะได้เห็นหลายๆ มุมมอง การมองโลกจากคนอื่นๆ ที่คิดต่างจากตัวเอง
กระทู้นี้ไม่มีเจตนาในการมุ่งร้าย หรือ สร้างความขัดแย้งใดๆ เพียงต้องการความเห็นที่แท้จริงของแต่ละบุคคล ไม่มีผิด ไม่มีถูก ทุกคอมเม้นท์ ทุกความเห็น อาจจะเป็นกระแสหนึ่งที่ช่วยจุดประกายความคิดของใครบางคนที่เห็นต่าง ได้ยอมรับและปรับนำไปใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจในการดำเนินชีวิตต่อจากนี้ไป หรือ จะเป็นความเห็นเชิงให้กำลังใจก็ได้ เพราะว่าตอนนี้ไม่ว่าที่ไหนในโลก ผู้คนก็ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า (เอ๊ะ คล้ายๆ สโลแกนนโยบายบางอย่าง) ไม่ว่าจะเป็น ผลกระทบทางด้านจิตใจ ด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจ ทำให้เกิดความท้อแท้ สิ้นหวัง อันนี้นี่เห็นใจครับ โดยเฉพาะด้านการเงินเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะกลืนไม่ได้คายไม่ออกจริงๆ
ส่วนต้วผมแล้วขอกล่าวสั้นๆ ว่า "ท้ายที่สุด เหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ทำให้โลก (ทุกชีวิตในโลก) ได้รู้ว่า การพึ่งตัวเองเป็นสิ่งที่แน่นอนที่สุด ท้ายที่สุดมันจะมีแค่เรา เรา และเรา การมีเงินทองทรัพย์สิน จะจน จะรวย สุดท้ายถ้าเราทำอะไรๆ ด้วยตัวเองไม่เป็น มันก็จะลำบาก ในทุกวันนี้ผู้คนเริ่มหันมาตระหนักถึง สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวกันมากขึ้น มีความสุขกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ กันมากขึ้น ทำให้นึกย้อนกลับไปในสมัยก่อนที่โลกยังไม่พัฒนาเหมือนปัจจุบันนี้ ที่สะดวกสบายกันจนทำอะไรไม่เป็น มีเงินคุณก็ไม่ลำบาก มีแต่ซื้อ จ้าง แค่กระดิกนิ้วสิ่งที่หวังก็เป็นจริงได้ แต่ในสถานการณ์ในปัจจุบันมันไม่ใช่"
"ข้อดีของเหตุการณ์ในครั้งนี้อาจจะมากกว่าข้อเสียด้วยซ้ำ (ในความคิดของผม) ถ้าคิดในเชิงธรรมชาติ ประชากรลดลง การผลิตลดลง โลกหมุนช้าลง การทำลายช้าลง (ก็แค่ชะลอ) ทำให้เราตระหนักเกี่ยวกับชีวิต ตระหนักเกี่ยวกับธรรมชาติ ทรัพยากร กันมากขึ้น ผู้คนใช้เวลากันอย่างคุ้มค่ากันมากขึ้น หันมามองคนรอบตัวกันมากขึ้น เช่น ครอบครัว คนที่เรารัก เคารพ ตระหนักในความไม่แน่นอนของชีวิต ความตาย การดำรงอยู่ และปัจจุบันของเรา มีเวลาคิดย้อนทบทวนกลับไปในอดีตที่เราเคยประสบ หรือ สัมผัสมา คิดพิจารณาใหม่ว่าสิ่งที่ทำมามันเป็นสะพานเชื่อมปัจจุบัน และจะส่งผ่านเราไปในอนาคตเช่นไร จากที่ไม่เคยคิดเพราะอาจจะด้วย ภาระกิจที่อยู่แค่ตรงหน้าที่วิ่งไล่ตามเราในทุกๆ วินาที เป็นสิ่งที่ผิวเผิน จนเราลืมความจริงของชีวิตไป ความจริงที่ซ่อนอยู่ในใจเรา ความจริงของชีวิต (ของตัวเอง) ที่เราควรทำ คนที่ยังแข็งแรง (ไม่ว่าในด้านไหน) คนที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องเป็นกำลังใจ และคอยยื่นมือช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอ และกำลังลำบาก ช่วงเวลานี้แหละที่จะทำให้เรารู้ว่า ใครจริงใจไม่จริงใจ ใครคือตัวจริง และจะทำให้ตัวเรารู้ว่าตัวเราแข็งแกร่งขนาดไหนที่จะข้ามพ้นวิกฤติครั้งนี้ไป เป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะครับ ธรรมชาติกำลังคัดสรร ธานอตกำลังดีดนิ้ว "จงเป็นผู้รอด" ในทุกๆ ด้านด้วยนะครับ"
รอความคิดเห็นของทุกคนอยู่นะครับ ขอบคุณครับ
อยากให้เพื่อนมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ "ทิศทางของโลก" หลังจากวิกฤติไวรัสโคโรนานี่ผ่านไปแล้ว !
ผมเปิดกระทู้นี้เนื่องจาก อยากแสดงความคิดเห็นในมุมมองของผมก่อน และก็อยากฟังความคิดเห็นของเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มีความรู้ วิสัยทัศน์ เบื้องหลังชีวิต และฐานะที่แตกต่างกันออกไป มาพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นเดียวกันนี้ ผมตื่นเต้นนะที่จะได้เห็นหลายๆ มุมมอง การมองโลกจากคนอื่นๆ ที่คิดต่างจากตัวเอง
กระทู้นี้ไม่มีเจตนาในการมุ่งร้าย หรือ สร้างความขัดแย้งใดๆ เพียงต้องการความเห็นที่แท้จริงของแต่ละบุคคล ไม่มีผิด ไม่มีถูก ทุกคอมเม้นท์ ทุกความเห็น อาจจะเป็นกระแสหนึ่งที่ช่วยจุดประกายความคิดของใครบางคนที่เห็นต่าง ได้ยอมรับและปรับนำไปใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจในการดำเนินชีวิตต่อจากนี้ไป หรือ จะเป็นความเห็นเชิงให้กำลังใจก็ได้ เพราะว่าตอนนี้ไม่ว่าที่ไหนในโลก ผู้คนก็ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า (เอ๊ะ คล้ายๆ สโลแกนนโยบายบางอย่าง) ไม่ว่าจะเป็น ผลกระทบทางด้านจิตใจ ด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจ ทำให้เกิดความท้อแท้ สิ้นหวัง อันนี้นี่เห็นใจครับ โดยเฉพาะด้านการเงินเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะกลืนไม่ได้คายไม่ออกจริงๆ
ส่วนต้วผมแล้วขอกล่าวสั้นๆ ว่า "ท้ายที่สุด เหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ทำให้โลก (ทุกชีวิตในโลก) ได้รู้ว่า การพึ่งตัวเองเป็นสิ่งที่แน่นอนที่สุด ท้ายที่สุดมันจะมีแค่เรา เรา และเรา การมีเงินทองทรัพย์สิน จะจน จะรวย สุดท้ายถ้าเราทำอะไรๆ ด้วยตัวเองไม่เป็น มันก็จะลำบาก ในทุกวันนี้ผู้คนเริ่มหันมาตระหนักถึง สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวกันมากขึ้น มีความสุขกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ กันมากขึ้น ทำให้นึกย้อนกลับไปในสมัยก่อนที่โลกยังไม่พัฒนาเหมือนปัจจุบันนี้ ที่สะดวกสบายกันจนทำอะไรไม่เป็น มีเงินคุณก็ไม่ลำบาก มีแต่ซื้อ จ้าง แค่กระดิกนิ้วสิ่งที่หวังก็เป็นจริงได้ แต่ในสถานการณ์ในปัจจุบันมันไม่ใช่"
"ข้อดีของเหตุการณ์ในครั้งนี้อาจจะมากกว่าข้อเสียด้วยซ้ำ (ในความคิดของผม) ถ้าคิดในเชิงธรรมชาติ ประชากรลดลง การผลิตลดลง โลกหมุนช้าลง การทำลายช้าลง (ก็แค่ชะลอ) ทำให้เราตระหนักเกี่ยวกับชีวิต ตระหนักเกี่ยวกับธรรมชาติ ทรัพยากร กันมากขึ้น ผู้คนใช้เวลากันอย่างคุ้มค่ากันมากขึ้น หันมามองคนรอบตัวกันมากขึ้น เช่น ครอบครัว คนที่เรารัก เคารพ ตระหนักในความไม่แน่นอนของชีวิต ความตาย การดำรงอยู่ และปัจจุบันของเรา มีเวลาคิดย้อนทบทวนกลับไปในอดีตที่เราเคยประสบ หรือ สัมผัสมา คิดพิจารณาใหม่ว่าสิ่งที่ทำมามันเป็นสะพานเชื่อมปัจจุบัน และจะส่งผ่านเราไปในอนาคตเช่นไร จากที่ไม่เคยคิดเพราะอาจจะด้วย ภาระกิจที่อยู่แค่ตรงหน้าที่วิ่งไล่ตามเราในทุกๆ วินาที เป็นสิ่งที่ผิวเผิน จนเราลืมความจริงของชีวิตไป ความจริงที่ซ่อนอยู่ในใจเรา ความจริงของชีวิต (ของตัวเอง) ที่เราควรทำ คนที่ยังแข็งแรง (ไม่ว่าในด้านไหน) คนที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องเป็นกำลังใจ และคอยยื่นมือช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอ และกำลังลำบาก ช่วงเวลานี้แหละที่จะทำให้เรารู้ว่า ใครจริงใจไม่จริงใจ ใครคือตัวจริง และจะทำให้ตัวเรารู้ว่าตัวเราแข็งแกร่งขนาดไหนที่จะข้ามพ้นวิกฤติครั้งนี้ไป เป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะครับ ธรรมชาติกำลังคัดสรร ธานอตกำลังดีดนิ้ว "จงเป็นผู้รอด" ในทุกๆ ด้านด้วยนะครับ"
รอความคิดเห็นของทุกคนอยู่นะครับ ขอบคุณครับ