สวัสดีครับ
มีเรื่องชวนปรึกษาขอคำแนะนำในการแก้ปัญหา ดังนี้ครับ
ผมอยู่คอนโดแห่งหนึ่งครับ ต่อมา มีชาวญี่ปุ่น 3 คนมาเช่าห้องอยู่ติดกับผม
ชาวญี่ปุ่นทั้งสามคนสูบบุหรี่จัดมาก ทุกที่ที่พวกเขาเดินผ่านไปจะมีกลิ่นบุหรี่อวลอยู่ตลอด เช่น ทางเดิน ลิฟต์ โซฟาล็อบบี้
รวมทั้ง กลิ่นลอยเข้ามาในห้องผม น่าจะผ่านพัดลมระบายอากาศในห้องน้ำ
ผมแจ้งทางผู้จัดการนิติคอนโดคนก่อนไป เขามาช่วยประสานให้ ผมเลยมีโอกาสได้เจอเพื่อนบ้านชาวญี่ปุ่นกลุ่มนี้ และได้เข้าไปในห้องเขา
โอ้โห...กลิ่นบุหรี่เต็มห้องไปหมด ผมย่างเท้าเข้าไปได้ไม่เกิน 3 วินาที ต้องเดินออกมา
แสดงว่าพวกเขาสูบบุหรี่ในห้องแน่นอน และคงสูบในห้องน้ำด้วย เพราะท่อของพัดลมระบายอากาศของสองห้องน่าจะเชื่อมกัน
ผมพาเขาเข้ามาดมกลิ่นในห้องผม เขาบอกว่าไม่ได้กลิ่นอะไร เข้าใจว่าจมูกเขาคงชินกับกลิ่นบุหรี่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ชาวญี่ปุ่นกล่าวขอโทษและสัญญาว่าจะไม่สูบในห้องอีก
เรื่องน่าจะจบด้วยดี
แต่ไม่ครับ หลังจากนั้นราวสองสามสัปดาห์ กลิ่นบุหรี่ก็ลอยเข้ามาเหมือนเดิม
ช่วงนั้น ทางนิติฯมีการเปลี่ยนตัวผู้จัดการนิติคนใหม่มา ผมจึงไปแจ้งให้ทราบ โดยเท้าความให้ฟังตั้งแต่ต้น
ผู้จัดการคนใหม่รับปากว่าจะช่วยจัดการให้ รวมทั้ง ประสานงานกับเจ้าของห้องผู้ให้เช่า
สิ่งที่ได้รับแจ้งกลับมา คือ "พวกเขาบอกว่าไม่ได้สูบบุหรี่ในห้อง"
"แล้วกลิ่นบุหรี่นี้มาจากไหนล่ะ ใครสูบ"
ผมชวนผู้จัดการคนนี้ ไปพิสูจน์กลิ่นด้วยกัน ทั้งในลิฟต์ ทางเดิน ล็อบบี้ ผู้จัดการก็ยอมรับว่ามีกลิ่นจริง
แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ในเมื่อชาวญี่ปุ่นยืนยันว่าไม่ได้สูบในห้อง
"ใช่ครับ เขาอาจจะไม่ได้สูบในห้อง เขาคงสูบข้างนอกห้อง แต่สูบจัดมากจนกลิ่นมันติดตัวเขา และติดอยู่ตามที่ต่างๆ แม้แต่ในห้อง"
ผมติดต่อไปยังเจ้าของห้องผู้ให้เช่า เล่าให้เธอฟังถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เล่าให้ฟังว่าในห้องที่เธอเป็นเจ้าของมีกลิ่นบุหรี่อบอวลไปหมด ซึ่งหากหมดสัญญาเช่าและชาวญี่ปุ่นย้ายออกไปแล้ว การซ่อมแซมปรับปรุงทำความสะอาดเพื่อให้กลิ่นบุหรี่หายไปอาจเป็นเรื่องยุ่งยากลำบากไม่น้อย
รวมถึง ผลกระทบทางสุขภาพ ระบบทางเดินหายใจ ปอด ที่ผมและภรรยากำลังได้รับผลอยู่ ณ เวลานี้
เธอรับปากว่าจะจัดการให้ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น กลิ่นบุหรี่ยังคงมีอยู่ดี
เจ้าของห้องไม่รู้จะทำอย่างไรดี
นิติบุคคลก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
แล้วผมจะทำอย่างไรดี ระหว่าง......
1. แจ้งไปยังบริษัทแม่ของนิติบุคคล
2. ดำเนินคดี แจ้งความ หรือ ฟ้องศาล (มันควรถึงขั้นนี้เลยหรือไม่)
3. ฯลฯ
ผมขอรบกวนเพื่อนสมาชิกให้คำแนะนำผมทีครับ
ขอบพระคุณมากครับ
ผู้เช่าคอนโดห้องข้างๆ สูบบุหรี่ กลิ่นบุหรี่เข้ามาในห้องผม
มีเรื่องชวนปรึกษาขอคำแนะนำในการแก้ปัญหา ดังนี้ครับ
ผมอยู่คอนโดแห่งหนึ่งครับ ต่อมา มีชาวญี่ปุ่น 3 คนมาเช่าห้องอยู่ติดกับผม
ชาวญี่ปุ่นทั้งสามคนสูบบุหรี่จัดมาก ทุกที่ที่พวกเขาเดินผ่านไปจะมีกลิ่นบุหรี่อวลอยู่ตลอด เช่น ทางเดิน ลิฟต์ โซฟาล็อบบี้
รวมทั้ง กลิ่นลอยเข้ามาในห้องผม น่าจะผ่านพัดลมระบายอากาศในห้องน้ำ
ผมแจ้งทางผู้จัดการนิติคอนโดคนก่อนไป เขามาช่วยประสานให้ ผมเลยมีโอกาสได้เจอเพื่อนบ้านชาวญี่ปุ่นกลุ่มนี้ และได้เข้าไปในห้องเขา
โอ้โห...กลิ่นบุหรี่เต็มห้องไปหมด ผมย่างเท้าเข้าไปได้ไม่เกิน 3 วินาที ต้องเดินออกมา
แสดงว่าพวกเขาสูบบุหรี่ในห้องแน่นอน และคงสูบในห้องน้ำด้วย เพราะท่อของพัดลมระบายอากาศของสองห้องน่าจะเชื่อมกัน
ผมพาเขาเข้ามาดมกลิ่นในห้องผม เขาบอกว่าไม่ได้กลิ่นอะไร เข้าใจว่าจมูกเขาคงชินกับกลิ่นบุหรี่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ชาวญี่ปุ่นกล่าวขอโทษและสัญญาว่าจะไม่สูบในห้องอีก
เรื่องน่าจะจบด้วยดี
แต่ไม่ครับ หลังจากนั้นราวสองสามสัปดาห์ กลิ่นบุหรี่ก็ลอยเข้ามาเหมือนเดิม
ช่วงนั้น ทางนิติฯมีการเปลี่ยนตัวผู้จัดการนิติคนใหม่มา ผมจึงไปแจ้งให้ทราบ โดยเท้าความให้ฟังตั้งแต่ต้น
ผู้จัดการคนใหม่รับปากว่าจะช่วยจัดการให้ รวมทั้ง ประสานงานกับเจ้าของห้องผู้ให้เช่า
สิ่งที่ได้รับแจ้งกลับมา คือ "พวกเขาบอกว่าไม่ได้สูบบุหรี่ในห้อง"
"แล้วกลิ่นบุหรี่นี้มาจากไหนล่ะ ใครสูบ"
ผมชวนผู้จัดการคนนี้ ไปพิสูจน์กลิ่นด้วยกัน ทั้งในลิฟต์ ทางเดิน ล็อบบี้ ผู้จัดการก็ยอมรับว่ามีกลิ่นจริง
แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ในเมื่อชาวญี่ปุ่นยืนยันว่าไม่ได้สูบในห้อง
"ใช่ครับ เขาอาจจะไม่ได้สูบในห้อง เขาคงสูบข้างนอกห้อง แต่สูบจัดมากจนกลิ่นมันติดตัวเขา และติดอยู่ตามที่ต่างๆ แม้แต่ในห้อง"
ผมติดต่อไปยังเจ้าของห้องผู้ให้เช่า เล่าให้เธอฟังถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เล่าให้ฟังว่าในห้องที่เธอเป็นเจ้าของมีกลิ่นบุหรี่อบอวลไปหมด ซึ่งหากหมดสัญญาเช่าและชาวญี่ปุ่นย้ายออกไปแล้ว การซ่อมแซมปรับปรุงทำความสะอาดเพื่อให้กลิ่นบุหรี่หายไปอาจเป็นเรื่องยุ่งยากลำบากไม่น้อย
รวมถึง ผลกระทบทางสุขภาพ ระบบทางเดินหายใจ ปอด ที่ผมและภรรยากำลังได้รับผลอยู่ ณ เวลานี้
เธอรับปากว่าจะจัดการให้ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น กลิ่นบุหรี่ยังคงมีอยู่ดี
เจ้าของห้องไม่รู้จะทำอย่างไรดี
นิติบุคคลก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
แล้วผมจะทำอย่างไรดี ระหว่าง......
1. แจ้งไปยังบริษัทแม่ของนิติบุคคล
2. ดำเนินคดี แจ้งความ หรือ ฟ้องศาล (มันควรถึงขั้นนี้เลยหรือไม่)
3. ฯลฯ
ผมขอรบกวนเพื่อนสมาชิกให้คำแนะนำผมทีครับ
ขอบพระคุณมากครับ