“สุทิน”อัดรัฐมั่วเงิน5,000บ.คนเดือดร้อนจริงไม่ได้
https://www.innnews.co.th/politics/news_647415/

 
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยกับสำนักข่าวINN ถึงมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 จำนวน 5,000 บาท ว่า ส่วนตัวมองว่ามาตรการการจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาทของรัฐบาลนั้นเป็นการเยียวยาที่ไม่เป็นประโยชน์เท่าที่ควร เนื่องจากการเยียวยานั้นไม่ตรงจุดผู้ที่ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนจริงไม่ได้รับการเยียวยาเพราะระบบการคัดกรองที่มีความหละหลวม ทั้งมาตรการเยียวยายังไม่ส่งผลต่อ GDP และไม่สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้นได้
 
พร้อมกันนี้ นายสุทิน กล่าวต่อว่า หากการแจกจ่ายเงินของรัฐบาลนั้นช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจริง ควรจะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วยถึงจะเกิดประโยชน์ ซึ่งส่วนตัวนั้นอยากฝากถึงรัฐบาลใช้เวลาที่เหลือสำรวจเก็บรวบรวมข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชนมากที่สุด

---

 
ปธน.ไต้หวันอวยพรสงกรานต์ - สถานทูตจีนกังวลความเห็นออนไลน์ในไทย
https://voicetv.co.th/read/qLhXumemN
  
ประธานาธิบดีไต้หวันทวีตอวยพรวันสงกรานต์ถึงชาวไทย ด้านสถานทูตจีนออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อความเห็นบนโลกออนไลน์ของคนไทยต่อนโยบายจีนเดียว โดยระบุว่า ความเห็นบนโลกออนไลน์ของบางคนเป็นความพยายามยุยงให้จีนและไทยแตกแยกกัน
  
ไช่อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันทวีตข้อความอวยพรสงกรานต์ถึงชาวไทยในไต้หวัน โดยระบุว่า “ขออวยพรให้มิตรสหายชาวไทยในไต้หวันทุกท่าน มีความสุขในวันสงกรานต์ค่ะ ถึงแม้ว่าในปีนี้พี่น้องชาวไทยบางท่านจะไม่สามารถกลับไทยไปร่วมเฉลิมฉลองได้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 อย่างไรก็ตามดิฉันขออวยพรให้ทุกท่านมีชีวิตที่เปี่ยมด้วยความหวังและความสุขตลอดปีค่ะ”
  
แม้จะเป็นการอวยพรถึงคนไทยในไต้หวัน แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า ไช่อิงเหวินพยายามสื่อสารทางการเมืองถึงชาวไทย หลังจากกรณีที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวไทยและจีนถกเถียงกันใน #nnevvy เกี่ยวกับนโยบายจีนเดียวและสถานะของไต้หวันและฮ่องกง โดยก่อนหน้านี้ นักการเมืองในพรรครัฐบาลไต้หวันก็ออกมาทวีตขอบคุณผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวไทยที่ถกเถียงว่าไต้หวันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของจีน
  
ด้านสถานทูตจีนประจำประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลเกี่ยวกับความคิดเห็นเกี่ยวกับจีนบนโลกออนไลน์ของไทย โดยโฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยย้ำว่า “หลักการจีนเดียวเป็นหลักการที่ไม่ต้องสงสัย” และจีนจะยืนหยัดคัดค้านคนที่แสดงความเห็นผิดพลาดต่อหลักการจีนเดียว
 
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า “รัฐบาลไทยและและประชาชนชาวไทย” ยึดมั่นจุดยืนต่อหลักการจีนเดียวมายาวนาน และความเห็นส่วนบุคคลของบางคนบนโลกออนไลน์ไม่ได้สะท้อนจุดยืนของรัฐบาลไทยและความคิดเห็นกระแสหลักของชาวไทย เป็นเพียงการ “ทำให้เรื่องขยายใหญ่โตลุกลามออกไป พยายามวางแผนมุ่งร้าย ยุแยงเพื่อทำให้ผู้คนผิดใจกัน ซึ่งความคิดนี้จะไม่มีทางประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน” 
 
ทั้งนี้ แถลงการณ์ของสถานทูตจีนได้ใช้คำว่า 杂音 (จ๋าอิน) และ noise ที่แปลว่า เสียงรบกวน ในแถลงการณ์ภาษาจีนและภาษาอังกฤษ แต่ได้แปลข้อความเดียวกันนี้ในแถลงการณ์ภาษาไทยว่า “ความคิดเห็น(ส่วนบุคคล)” เท่านั้น
 
นอกจากนี้ สถานทูตจีนได้กล่าวถึงมิตรภาพที่ดีระหว่างไทยและจีนว่าเป็นดั่ง “พี่น้องกัน” ที่มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันเมื่อทั้งสองประเทศประสบวิกฤต ในช่วงที่ต้องต่อสู้กับโควิด-19 ระบาด “พระบรมวงศานุวงศ์ รัฐบาลและทุกแวดวงสังคมของไทยได้ให้การสนับสนุนอันมีค่าแก่จีน” และเมื่อสถานการณ์ในจีนเริ่มดีขึ้น “รัฐบาล ผู้ประกอบการ ตลอดจนแวดวงสังคมของจีนต่างก็ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือฝ่ายไทยอย่างสุดความสามารถ” และจีนยังย้ำว่า ไวรัสไม่มีพรมแดนไม่มี “บาปดั้งเดิม” และจีนเชื่อว่า ไทยและจีนจะจับมือกันผ่านวิกฤตโรคระบาดนี้ไปด้วยกัน
 
หลังจากออกแถลงการณ์ได้ไม่นาน ชาวไทยได้ไปร่วมแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ดังกล่าว โดยส่วนใหญ่ระบุว่า สถานทูตจีนพยายามเข้ามาแทรกแซงและจุกจิกกับการแสดงความคิดเห็นของประชาชนในไทยและยัดเยียดแนวคิดนโยบายจีนเดียว และบางส่วนตำหนิว่า จีนไม่ได้มองไทยเป็นพี่น้อง เพราะไม่ยอมปล่อยน้ำจากเขื่อนมาให้ประเทศกลางน้ำอย่างประเทศไทย
 
นอกจากนี้ ยังมีความเห็นหนึ่งที่กล่าวว่า “One China, one Taiwan, one Hong Kong” ที่แปลว่า จีนเดียว ไต้หวันเดียว ฮ่องกงเดียว จากนั้น แอดมินเพจของสถานทูตได้มาตอบว่า “ฉันรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ได้อ่านคอมเมนต์ของคุณ ซึ่งไม่ได้แสดงให้เห็นถึงอะไรเลย นอกจากอคติและความไม่รู้เรื่องรู้ราวของคุณ นั่นเป็นการไม่เคารพประเทศที่มีอธิปไตยและทรยศประวัติศาสตร์”
 
อย่างไรก็ตาม ชาวไทยบางส่วนก็มาคอมเมนต์เห็นด้วยว่า สงครามบนทวิตเตอร์เป็นความพยายามทำให้ไทยและจีนแตกแยกกัน และขอให้คนไทยและจีนหนักแน่นในความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกัน