ทางออก ยุคแต่งงานยาก เลิกกันง่าย มีลูกน้อย

สภาพสังคมปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงจากสังคมในอดีตเป็นอย่างมาก 
1  ที่ว่า แต่งงงานกันยาก คือ ปัจจุบันเศรษฐกิจฝืดเคืองมานาน  และ มาเจอวิกฤตโควิด19 ทำเศรษฐกิจแย่ลงไปอีก ทำให้คนไม่มีเงิน  บางคนไม่มีเงินออมก็เดือนร้อนมาก (ช๊อตเงิน)   แต่วัฒนธรรม  การเรียกสินสอด  การจัดงานแต่งงาน  หนี้สินส่วนตัว ไม่ว่าค่าบ้าน  รถยนต์  ฯลฯ  เป็นสิ่งที่มีแนวโน้มแพงขึ้น   ในขณะที่ค่าแรงคนไทยส่วนมาก  ก็ไม่มาก  ถ้าบ้านของฝ่ายชายไม่ได้รวยอยู่ก่อนแล้ว ก็ยากนักที่จะได้แต่งงาน  และ ดำรงชีวิตคู่อย่างราบรื่น  นอกจากนี้  หนุ่มสาวอายุราวๆ 23-25 ปี  เป็นวัยกำลังหางานสร้างตัว   แต่ร่างกายก็เหมาะสมที่จะมีลูกแล้ว  (สรีระ) ในขณะที่ ตำแหน่งงานประจำในปัจจุบันก็มีน้อย  หรือ จะเปิดร้าน SME โอกาสประสบความสำเร็จก็มีน้อย  (แข่งกับ 7/11  ลาซาด้า ฯลฯ) ดังจะเห็นจากข่าว  ป ตรี ตกงาน 4 แสนคน (ข่าวตามเว็บ) ไม่พ้นที่จะต้องกลับบ้านที่ภูมิลำเนาแล้วอยู่เฉยๆ  
2 ที่ว่าเลิกกันง่าย  คือ สมัยนี้ อัตรา จดทะเบียนหย่าร้าง อาจจะสูง30-50เปอเซนต์ของทะเบียนสมรส  (ข่าวตามเว็บ) สาเหตุมาจากสภาพสังคม หน้าที่การงานเร่งรีบ  การเสียโอกาสทำงาน การที่ชายหญิงทำงานไม่ต้องง้อกัน   ฯลฯ  จึงทำให้หนุ่มสาวต้องคิดหนัก ว่าจะจดทะเบียนสมรสหรือไม่  แล้วจะดำรงความรักต่อไปอย่างไร
3 ที่ว่ามีลูกน้อย  เพราะ  ต้นทุนที่จะเลี้ยงเด็กสักคนให้มีคุณภาพ ทั้งค่าเรียนปกติ เรียนเสริม ค่า รพ.  ฯลฯ ก็สูงขึ้นอย่างมาก  ถ้าการศึกษาไม่ดีแล้ว  การเลื่อนชั้นทางสังคมก็ยากมาก  จะให้ไปสร้างนวัตกรรมเปลี่ยนโลกแล้วรวย แบบไม่จบ ป ตรี นั้น ก็ยากมาก   บางคนถึงขนาดเอ่ยว่า โลกอนาคตจะมีแต่มลพิษ น้ำท่วมฉับพลัน  ฝุ่น PM 2.5 โรคระบาดฉับพลัน  การเมืองที่แย่มาก  ฯลฯ  เลยไม่อยากมีลูกกัน  ไม่อยากให้เกิดมาทนลำบาก  

ทางออก  ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาในเชิงสภาพสังคม ที่วิวัฒนาการมาเรื่อยๆ  ได้แค่เข้าอกเข้าใจ  ไม่รู้เหมือนกัน   ในอนาคตจะเป็นอย่างไร
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
สินสอด  การจัดงานแต่งงาน  
-ที่เกาหลีเขาแก้ปัญญาหา  โดยให้ ฝ่ายชายหญิง ออกคนละครึ่ง

มีลูกน้อย
- ที่ญี่ปุ่น แก้ที่รัฐช่วยจ่ายค่าเรียน ค่าเลี้ยงดู

เลิกกันง่าย
-ยังไม่เห็นประเทศไหนแก้ได้นะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่