พท.แนะพักหนี้ 6 เดือน ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เยียวยาเหยื่อโควิด 
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3946704
 

 
เพื่อไทยจี้รัฐบาลเร่งออกมาตรการเยียวยาเหยื่อโควิด ชี้ต้องพักหนี้ 6 เดือน ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย ไม่เช่นนั้นไม่มีทางที่เศรษฐกิจจะฟื้นคืนได้แน่นอน
 
วันที่ 14 เม.ย. นายปิยวัฒน์ พันธ์สายเชื้อ ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การเยียวยาประชาชนจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน ที่รัฐบาลตั้งขึ้นมาเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ไม่ทราบว่ารัฐบาลเอาตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบมาจากฐานข้อมูลไหน เพราะในความเป็นจริงมีหลายครอบครัวประสบปัญหารายได้ แต่ไม่ผ่านการประเมินจากโครงการนี้หรือไม่ได้รับสิทธิในการได้รับเงินเยียวยา ในการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 รัฐบาลให้ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น คนที่เข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ตก็จะได้ประโยชน์ แต่ชาวบ้านหรือประชาชนตามชนบทไม่ได้ประโยชน์ ทั้งๆที่คนเหล่านี้ตกงานจากกรุงเทพฯ จากการปิดกิจการ ไม่ได้ขายของเพราะตลาดปิด ไม่มีรายได้ แต่เขากลับไม่ได้รับการเยียวยาจากมาตรการรัฐ
 
จากมาตรการของรัฐที่ออกมาส่งผลให้ทุกภาคธุรกิจได้รับผลกระทบกันหนักมาก หลายบริษัทเลือกปิดกิจการ ปิดร้าน เพราะยิ่งเปิดนานต้นทุนเพิ่มขึ้นทุกวัน บรรดาเจ้าของกิจการเลือกหยุดดีกว่าที่จะเดินหน้าต่อ และจะส่งผลกระทบกับภาคแรงงานที่ต้องตกงานเป็นจำนวนมาก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าตัวเลขคนตกงานในเดือน มิ.ย.จะมีคนตกงานทุกกลุ่มไม่น้อยกว่า 7 ล้านคน ถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
 
“มาตรการที่ธนาคารต่างๆ ออกมา ถือว่าไม่ได้ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต การให้ส่งแต่ดอกเบี้ยแต่เงินต้นไม่ลด ดังนั้นหากรัฐบาลต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบควรที่จะพักหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 6 เดือน เพื่อต่อลมหายใจให้ผู้ประกอบการ หากไม่ทำอย่างนี้ผู้ประกอบธุรกิจไม่สามารถฟื้นได้อย่างแน่นอน และกระทบเศรษฐกิจไทยในภาพรวม หากไม่จัดหนักในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อว่าปี 63 ทั้งปีเศรษฐกิจประเทศไทยไม่มีทางฟื้น ”นายปิยะวัฒน์ กล่าว
 

---

 
“การุณ” ตกใจ "สุภรณ์" สารภาพเอง รัฐมีทุจริตหน้ากากอนามัย
https://www.thairath.co.th/news/politic/1820348
  
“การุณ” ตกใจ “แรมโบ้ อีสาน” สารภาพหมดเปลือก มีทุจริตหน้ากากอนามัย สวนกลับ คนไหนเล่นการเมืองบนความทุกข์ ปชช.คราวหน้าสอบตกเอง เหน็บ เป็นห่วงเกลอเก่า เพราะตั้งแต่ย้ายค่าย ก็สอบตกมาตลอด
 
วันที่ 14 เม.ย. นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมายอมรับว่า การตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเกี่ยวกับการบริหารจัดการพัสดุสำหรับการป้องกัน ควบคุม หรือรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นั้น เกิดจากการที่นายกรัฐมนตรีพบว่า อุปกรณ์ทางการแพทย์ขาดแคลน และมีการกักตุนเป็นจำนวนมาก จึงได้ตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งหลังจาก นายสุภรณ์ ออกมาสารภาพผ่านสื่อมวลชน ตนเองรู้สึกตกใจ เพราะก่อนหน้านี้คนในรัฐบาลยืนยันตลอดว่า อุปกรณ์การแพทย์โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย มีเพียงพอ แต่เมื่อนายสุภรณ์ออกมายอมรับแบบหมดเปลือกว่าอุปกรณ์ขาดแคลนและมีการกักตุนเกิดขึ้นจริง ตนเองในฐานะ ส.ส.ฝ่ายค้าน จะได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะแก้ปัญหานี้อย่างไร และจะมีน้ำยาตามล่าหาคนผิดมาดำเนินการลงโทษ ตามที่นายสุภรณ์เปิดเผยได้หรือไม่ หรือจะเป็นแค่ “มวยล้มต้มคนดู” อย่างที่คนส่วนใหญ่คาดเดาเท่านั้น
 
“ผมตกใจที่อยู่ดีๆ คุณสุภรณ์ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า มีการกักตุนอุปกรณ์ทางการแพทย์จนเกิดความขาดแคลน นายกรัฐมนตรีจึงต้องตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องดังกล่าวเป็นพิเศษ ซึ่งเท่ากับออกมายอมรับว่า ในช่วง 2-3 เดือนมานี้ รัฐบาลบริหารเรื่องนี้ผิดพลาดล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และยังปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตกักตุนหน้ากากและอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ จากนี้ไปคงต้องติดตามใกล้ชิดว่านายกรัฐมนตรีจะแก้ปัญหาอย่างไร และจะนำคนผิดมาลงโทษได้มากน้อยแค่ไหน”
 
นายการุณ ยังกล่าวต่อไปว่า ตนเองยังได้รับการร้องเรียนเรื่องหน้ากากอนามัยหายากและมีราคาแพงอยู่ตลอดเวลา จึงหวังว่าหลังจากคณะกรรมการชุดนี้ทำงาน เรื่องหน้ากากหายากและราคาแพงต้องหมดไป ส่วนเรื่องที่นายสุภรณ์ออกมาโจมตีใส่ร้ายตนเองนั้น ตนเองไม่ถือสา เพราะการเป็นนักการเมืองที่ดีเมื่อตรวจสอบคนอื่นได้ ก็ต้องพร้อมให้คนอื่นวิพากษ์วิจารณ์ตนเองเช่นกัน ส่วนนักการเมืองคนไหนเล่นการเมืองบนความทุกข์ของประชาชน ครั้งหน้าก็สอบตกเองเพราะประชาชนเขารู้ทัน ซึ่งเรื่องนี้ตนเองก็ห่วงนายสุภรณ์ในฐานะเกลอเก่า เพราะตั้งแต่ย้ายค่ายก็สอบตกมาตลอด
 
“หน้ากากอนามัย ยังเป็นของหายากและราคาแพงอยู่ ขนาดพวกผมอยู่ กทม.แท้ๆ ยังหาไม่ค่อยได้ หวังว่า คณะกรรมการชุดนี้จะทำให้หน้ากากหาซื้อง่ายและราคาถูก ส่วนที่คุณสุภรณ์ออกมาสัมภาษณ์โจมตีผมนั้น ผมไม่ถือสา เพราะรู้นิสัยคนคนนี้ดี แต่เรื่องออกมาพูดเพื่อเบรกการทำงานของฝ่ายค้านถือเป็นเรื่องผิดมารยาททางการเมือง การกระทำแบบนี้ประชาชนรู้ทันและเบื่อหน่ายมาก แทนที่จะนำข้อบกพร่องไปปรับปรุงแก้ไขกลับใช้ปากตอบโต้ไปมา ทำงานแบบนี้นี่เอง เรื่องง่ายๆ แค่หน้ากากก็ยังทุจริตและล้มเหลว” นายการุณกล่าว.