[CR] Stockholm ราชินีแห่งทะเลบอลติก!!

เนื่องจากช่วงนี้เราต้องพบเจอกับCovid 19 ซึ่งทำให้เราต้องกักตัว ไม่ไหนไม่ได้ เชื่อว่าทุกๆคนคงคิดถึงการเดินทางอยู่เรื่อยๆ จนมีประโยคที่ว่า จบโควิด เราเจอกัน ซึ่งหวังว่าจะจบให้เร็วไว ถึงวันนี้ที่เขียน 13/04/2020 ก็ผ่านมา 3 เดือนแล้วที่โรคนี้เริ่มระบาด 3 เดือนแล้วที่ไม่ได้ออกเดินทาง และวันนี้ก็เป็นวันสงกานต์พอดี ที่เป็นวันทำงานและไม่ได้มีเทศกาลสาดน้ำกันเหมือนทุกๆปี ก็เลยถือโอกาสเขียนทริปที่ยังค้างคาต่อให้เสร็จ โดยครั้งนี้เราจะพาไปที่ สแกนดิเนเวียกันน.....

ว่ากันด้วยเรื่องของคำว่า สแกนดิเนเวียนั้น ทุกคนคงนึกถึง ค่าครองชีพที่สูง ประเทศที่อยู่ทางเหนือสุดของทวีปยุโรป นั่นก็คือ เดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์ ฟินแลนด์ และ ไอซ์แลนด์  ประเทศพวกนี้นั้นถือว่าเป็นกลุ่มประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดติดอันดับโลกเลย แลกมาด้วยกับความที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก เริ่มกันที่ประเทศสวีเดนก่อนดีกว่าา

โดยทริปนี้นั้นเราได้เดินทางต่อมาจากโซนบอลติก โดยปกติแล้ว เราแพลนที่จะนั่งเรือข้ามมา ได้สัมผัสประสบการณ์นอนบนเรือ แต่ด้วยเนื่องจากวันที่เราไปนั้นคือวันที่ 31 DEC พอดี เรือก็ปิดทำการพอดี ทำให้ไม่มีทางเลือกเลยต้องนั่งเครื่องข้ามฟากมาจากทาลิน, เอสโตเนีย แต่เนื่องด้วยเรามาช่วงหน้าหนาวซึ่งก็เป็นช่วง Low season ของโซนนี้ ทำให้ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรมต่างๆก็ถูกลงเกือบครึ่งเลยทีเดียว สำหรับหน้าหนาวนั้นต้องทำใจอย่างนึงคือพระอาทิตย์จะขึ้นประมาณ 9 โมง และ ตกดินประมาณ 16.00 น. เวลาเที่ยวจะน้อยหน่อย

สำหรับเรื่องวีซ่านั้นเน้นย้ำว่า ถ้าผ่านตม. ที่เราบินมาจากนอกยูโรโซนหรือบินมาจากไทยแล้ว บินภายในจากบอลติกมาสวีเดนนั้น ไม่มีตม. ตรวจอะไรทั้งนั้น เพราะฉะนั้นใครวางแผนยังไง ดูเรื่องวีซ่าดีๆ เพื่อให้ไม่ต้องมีปัญหาตอนประเทศแรกที่เข้ามานะ 

หลังจากที่มาถึงสต๊อกโฮม เมืองหลวงของสวีเดน เราสามารถนั่งรถเข้าเมืองได้หลายแบบ แต่เราเลือกวิธีที่ถูกที่สุดก็คือ รถบัสตรงไปถึงสถานีรถไฟกลางเมืองสต๊อกโฮม ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีจากสนามบิน สะดวกรวดเร็ว สามารถซื้อตั๋วได้ที่ตู้ตรงป้ายรอรถบัสด้านนอกสนามบินได้เลย โดยจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตได้เลย 

อีกเรื่องที่จะแนะนำคือ โซนสแกนดิเนเวียนี้ ไม่ค่อยใช้เงินสดกัน ส่วนใหญ่จะรับบัตรเครดิตกันมากกว่า สำหรับเราทริปนี้เราใช้บัตร You Trip ในการใช้จ่ายทุกอย่าง เงินหมดก็โอนเติมเข้าบัตรได้สะดวกสบาย เรตดีกว่าบัตรเครดิต แต่จะไม่ได้แต้มเท่านั้นเอง ใครชอบแบบไหนเลือกได้เลย

หลังจากถึงที่พักเรียบร้อย แม้จะเป็นวันส่งท้ายปี แต่ว่าที่เมืองนี้กลับไม่ได้จัดงานใหญ่โตเหมือนอย่างปารีส โคเปน มิวนิก หรือเมืองใหญ่ๆในยุโรป
เรามาฉลองกันที่บริเวณ City Hall ซึ่งสามารถเดินมาจากสถานีรถไฟกลางได้เลย แต่คนไม่ค่อยเยอะมาก

การเดินทางภายในเมืองนี้เราจะใช้ Metro ตลอดเพราะสะดวกและเดินทางถึงหมด 

Metro ที่นี่สังเกตป้ายด้วยตัวอักษร T โดยเราสามารถซื้อ บัตร 24 hour travel card อันนี้ราคา 115 SEK หาซื้อได้ทั่วไปใน 7eleven หรือสามารถซื้อที่สถานีรถไฟใหญ่ๆได้เเลย เราซื้อที่สถานีรถไฟ T-Centralen ซึ่งก็คือสถานีรถไฟกลาง
ข้อดีคือมันนับ 24 hours เป๊ะ  ใช้ห้าโมงเย็นก็อยู่ได้ถึงห้าโมงเย็นพรุ่งนี้ไม่ได้นับแบบวันๆครับ ขึ้นได้หมดครับ บัส รถใต้ดิน เรือไปเกาะ djurgaden
บัตร Metro ของเมืองนี้
หลังจากฉลองเค้าดาวน์เสร็จแล้วเรามีเวลาประมาณ 1 วันครึ่ง ในการเก็บสถานที่เที่ยวหลักๆของเมืองนี้ 
1. City Hall 
City Hall ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใจกลางเมืองแห่งนึง ถ้ามาช่วงhighนั้น จะสามารถขึ้นด้านบนชมวิวทิวทัศน์ของเมืองนี้ได้เลย แต่มาหน้าหนาวก็จะเงียบๆหน่อย 
การเดินทาง : สำหรับเรานั้นนั่ง Metro มาลงสถานี T-Centralen จากนั้นเดินอีกประมาณ 5-10 นาที
ค่าเข้าชม :
ช่วง High Season (Apr-Oct) : 120 SEK
Low Season (Nov-Mar) : 90 SEK
ส่วนค่าขึ้นหอคอย : 60 SEK (เฉพาะช่วง High Season)
บรรยากาศริมน้ำบริเวณ City Hall
2. Gamla Stan หรือ ย่าน Old Town 
Gamla Stan คือภาษาสวีดิช ที่แปลว่าย่าน Old town  มีความสวยงาม ร้านขายของเต็มไปหมด รวมถึงยังมีพระราชวังต่างๆอยู่ในย่านนี้ด้วย แต่ด้วยความที่เรามาถึงวันขึ้นปีใหม่พอดี ร้านส่วนใหญ่จึงปิด แนะนำใครมาต้องมาเดินย่านนี้ตึกราบ้านช่อง สวยงาม และยังมีของกินขึ้นชื่อของประเทศนี้อย่าง Swedish Meetball ที่ห้ามพลาดเลย

การเดินทาง : นั่ง Metro มาลงที่สถานี Gamla Stan นั่งจากสถานี T-Centralen มา 1 สถานี
ค่าเข้าชม : ฟรี (ยกเว้นพระราชวังและMuseum)
บรรยากาศย่าน Old town ตามตรอกซอกซอย สวยงามมาก
3. Royal Palace, Stockholm
เดินจากบริเวณย่าน Old town ไม่ไกล ก็มาถึง Royal Palace ด้านในนี้มีค่าตั๋วเข้าชมด้วย พระราชวังนี้ใหญ่เอาการ มีหลายห้องให้เลือกชม สำหรับคนที่สนใจเกี่ยวกับเรือและวิถีชีวิตของคนสวีเดนสมัยก่อน 

การเดินทาง : นั่ง Metro มาลงที่สถานี Gamla Stan เดินต่อประมาณ 5-10 นาที
ค่าเข้าชม : 160 SEK (Low Season)

4. Skeppsholmen Bridge หรือ มงกุฏทองบนสะพาน 
เป็นสะพานข้ามแม่น้ำตั้งอยู่ใจกลางเมืองสต๊อกโฮม ซึ่งจุดเด่นนั้นคือจะมีมงกุฏทองตั้งอยู่บนสะพาน เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก โดยมีเมืองเก่านั้นเป็นฉากหลังอีกด้วย

การเดินทาง : นั่ง Metro มาลงที่สถานี Kungstradgarden นั่งจากสถานี T-Centralen มา 1 สถานี
ค่าเข้าชม : ฟรี
บรรยากาศฉากหลังที่เป็นย่าน Old town
5. จุดชมวิวเมืองสต๊อกโฮม Mariaberget
เรียกว่าถ้าจะชมเมืองสต๊อกโฮมนั้น ต้องมาที่นี่เลย เพราะเห็นแบบ Panorama เลยจริงๆ ยิ่งถ้ามาช่วงพระอาทิตย์ตกดินนี่ก็ยิ่งสวยมาก ขอไม่บรรยายเยอะ ให้ภาพเล่าเอง
การเดินทาง : นั่ง Metro มาลงที่สถานี Mariatorget นั่งจากสถานี T-Centralen มา 3 สถานี จากนั้นเดินตามทางลงมาอีกประมาณ 5 นาที สามารถเสิจชื่อใน google map ได้
ค่าเข้าชม : ฟรี 
วิวเมืองสต๊อกโฮม สวยงาม เป็นระเบียบมาก
6. จุดชมวิวเมืองสต๊อกโฮม Skinnarviksberget
อีกหนึ่งจุดชมวิวซึ่งสามารถเดินมาจากจุดชมวิว Mariaberget ได้ ไม่ไกลกันมาก วิวก็จะคล้ายๆกันหน่อย 

การเดินทาง : นั่ง Metro มาลงที่สถานี Zinkensdamm นั่งจากสถานี T-Centralen มา 4 สถานี จากนั้นเดินตามทางลงมาอีกประมาณ 10 นาที สามารถเสิจชื่อใน google map ได้
ค่าเข้าชม : ฟรี 
บรรยากาศเมืองสต๊อกโฮม เงียบสงบจริงๆ
7. สถานีรถไฟใต้ดินเมืองสต๊อกโฮม
หลายคนคงงง ว่าสถานีรถไฟใต้ดินทำไมเป็นจุดท่องเที่ยวได้ ก็เพราะเมืองนี้นั้นเล่นแต่งสถานีรถไฟใต้ดินหลายสถานีอย่างสวยและแปลกตามาก และด้วยความArt นี้เองทำให้หลายสถานีเป็นจุด check point ที่ต้องแวะมาถ่ายรูปให้ได้ เริ่มกันที่

7.1 สถานี T-Centralen สถานีกลางของเมืองนี้ ที่ใหญ่และเต็มไปด้วยความอาร์ต เหมือนถ้ำน้ำแจ็งตกแต่งด้วยสีน้ำเงินขาว
7.2 สถานี Kungstradgarden สายสีฟ้า
7.3 สถานี Stadion สายสีแดง
7.4 สถานี Radhuset สายสีฟ้า
7.5 สถานี Mörby Centrum สุดสายสีแดงเลยย
7.6 สถานี Hötorget สายสีเขียว
7.7 สถานี Thoridsplan สายสีเขียว
7.8 สถานี Solna Centrum สายสีฟ้า
สถานีรถไฟใต้ดินที่นี่เกือบทุกสถานี ล้วนตกแต่งสวยงามหลากหลายสไตล์
8. พิพิธภัณฑ์วาซา (Vasa Museum)
Vasa Museum เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวเรือรบโบราณของราชอาณาจักรสวีเดน ตั้งอยู่บนเกาะ Djurgarden ในเขต Ostermalm ของสตอกโฮล์ม โดยภายในจะมีเรือวาซาซึ่งทำจากไม้โอ๊กทั้งลำ ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำสงคราม แต่พอออกจากฝั่งได้เพียง 30 นาทีเท่านั้น เรือกลับจมลงสู่ใต้ทะเลบอลติกนานถึง 333 ปีเลยทีเดียว ก่อนที่จะได้รับการกู้ขึ้นมาในภายหลัง

การเดินทาง : จากสถานี Metro T-Centralen สามารถนั่งรถTram หรือรถราง สาย 7 ลงมาลงสถานี Djurgårdsbron หรือ Nordiska museet/Vasamusee
ราคาค่าเข้าชม : 150 SEK
ใหญ่โตมากจริงๆที่นี่ 
จริงๆแล้วสต๊อกโฮมยังมีสถานที่เที่ยวอีกมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชอบพวกศิลปะ พิพิธภัณฑ์ ยิ้ม
ติดตามต่อ Part 2 เมือง Malmö & Jakriborg เมืองเล็กๆน่ารัก แสนโรแมนติก
ชื่อสินค้า:   Stockholm ราชินีแห่งทะเลบอลติก!!
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่