CPF ได้ดีเพราะหมู...แต่ถ้าไม่อยาก"ขายหมู"ต้องรู้อะไร?


ราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้น CPF ดีดขึ้นมาทันที หลังจากที่บรรดากูรูได้เข้าไปเยี่ยมชมกิจการ ซึ่งต่างก็มองว่ากำไรไตรมาส 1/63 มีโอกาสสูงมากที่จะทำนิวไฮ ประเด็นสำคัญๆ ก็คือราคาหมูที่สูงทิ้งห่างต้นทุนไปไกล ทั้งในเวียดนามและไทย และคาดว่าราคาจะสูงแบบนี้ได้ตลอดปี แต่มีอะไรอีกที่นักลงทุนต้องรู้ "จะได้ไม่ขายหมู"?
*** ราคากลับมาฟื้น หลังดิ่งต่อเนื่อง 3 วันทำการติดต่อกัน
วันนี้ราคาหุ้น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ปรับตัวขึ้นมาแรงหลังจากที่ติดลบต่อเนื่องกันถึง 3 วันทำการ โดยเช้านี้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 26 บาท ก่อนมาปิดตลาดรอบเช้าที่ 25.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 2.41% 

สาเหตุก็คือความชัดเจนของสถานการณ์หุ้น CPF หลังบรรดานักวิเคราะห์ได้เข้าไปประชุม(Analyst Meeting) ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าราคาหมูที่กำลังปรับเพิ่มขึ้นมาสูงมากนั้น จะเป็นตัวแปรสำคัญที่หนุนให้ผลประกอบการปีนี้โดดเด่นมาก

*** งบไตรมาส 1/63 นิวไฮทุกมิติ
บล.หยวนต้า ระบุ ผลประกอบการ CPF ในไตรมาส 1/63 จะทำนิวไฮในทุกบรรทัด ซึ่งไตรมาสแรกราคาหมูในประเทศเฉลี่ยอยู่ที่ 71.3 บาท/ก.ก. (+18%QoQ, -3%YoY) ราคาไก่ในประเทศทรงตัว QoQ แต่เพิ่มขึ้น 3% YoY ส่วนราคาหมูในเวียดนามทำนิวไฮเกือบ 90,000 ดอง/ก.ก. ก่อนที่จะชะลอลงจากการขอความร่วมมือจากรัฐบาลมาเฉลี่ยอยู่ที่ราว 76,000 ดอง/ก.ก. (+21%QoQ, +63%YoY) ขณะที่ โควิด-19 กลับหนุนยอดขายในจีนเพิ่มขึ้นจากซัพพลายอาหารสัตว์ลดลงและลูกค้าส่วนใหญ่เป็นรายใหญ่ยังมีความต้องการอยู่ ผนวกกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงราว 10% QoQ (ณ ราคาปิดสิ้นไตรมาส)

ดังนั้นคาดรายได้ไตรมาส 1/63 จะทำนิวไฮที่ 1.53 แสนล้านบาท (+9%QoQ, +22%YoY) ตามราคาขายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนลดลงทำให้ GPM เร่งตัวขึ้น คาดที่ 16.0% จาก 14 - 15% ทำให้กำไรขั้นต้นทำนิวไฮที่ 24,442 ล้านบาท แต่อาจมีขาดทุนจากราคาสินทรัพย์ชีวภาพราว 700 ล้านบาท เพราะราคา ณ สิ้นไตรมาสของหมูเวียดนามลดลงจากไตรมาส 4/62 ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมคาดทำนิวไฮที่ 2,713 ล้านบาท (+12%QoQ, +16%YoY) บนสมมติฐาน CPALL ไม่เติบโต(แต่จริงแล้วควรเติบโตจากการตุนอาหาร) แต่เป็นไตรมาสแรกที่มีการรวมงบการเงินของ Hylife ดังนั้นคาดกำไรปกติทำนิวไฮที่ 5,404 ล้านบาท (+25%QoQ, +64%YoY) และคาดกำไรสุทธิที่ 5,054 ล้านบาท

*** ไตรมาส 2/63 ราคาหมูอาจอ่อนตัว ทำกำไรลด QoQ
ด้วยราคาหมูที่อ่อนตัวลงในช่วงต้นเดือน เม.ย. เนื่องจากการประกาศเคอร์ฟิว และการเข้มงวดเรื่องการเดินทางทั่วประเทศทำให้ผู้เลี้ยงเกิดความกังวลทั้งในด้านอุปสงค์ และกังวลว่าราคาอาจตกลงไปจนขาดทุนจึงเร่งขายในช่วงราคาดี

แต่ด้วยสถานการณ์ที่ซัพพลายหมูตึงตัวอยู่เดิมแล้วที่ราคาปัจจุบันที่ 62 - 65 บาท/ก.ก. ทำให้ความเสี่ยงขาลงเริ่มจำกัด ส่วนราคาไก่เริ่มกลับมายืนที่ 33 - 34 บาท/ก.ก. จากที่อ่อนไป 32 บาทช่วงปลายมี.ค.63 ส่วนราคาหมูเวีดยนามคาดยืนที่ 70,000 ดอง/ก.ก. อ่อนลงบ้างจากการขอความร่วมมือจากรัฐบาลและอุปสงค์ลดลงชั่วคราวจากความกังวลโควิด-19 ระบาดแต่ยังเป็นระดับที่สูงกว่าประมาณการของเราและบริษัทที่ 50,000 ดอง/ก.ก. และ 60,000 ดอง/ก.ก. ตามลำดับ และสูงกว่าต้นทุนที่ 36,000 ดอง/ก.ก. อยู่มาก

ด้วยเหตุนี้เราจึงคาดว่ากำไร 2/63 อาจลดลงบ้าง QoQ เป็นราว 4,500 - 5,000 ล้านบาท โตราว 15 - 20% YoY เพราะมีการชะลอการใช้งบลงทุนและการตลาดออกไปทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงเช่นกัน ขณะที่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายแต่ ซัพพลายหมูยังขาดแคลนราคาจะกลับมาเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/63 กอปรกับเป็นฤดูกาลของการส่งออกทำให้กำไรไตรมาส 3/63 มีโอกาสทำนิวไฮได้เช่นกัน

*** ปริมาณการขายให้ร้านอาหารลดลง แต่ร้านค้าปลีกช่วยชดเชย
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุ แม้ยอดขายอาหารให้กลุ่ม Food Service จะลดลงจากการระบาดของโควิด-19 แต่ถูกชดเชยด้วยยอดขายให้ร้านค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นจากการตุนสินค้าของผู้บริโภค และราคาเนื้อสัตว์ยังอยู่ในระดับสูง

โดยราคาหมูในเวียดนามปัจจุบันอยู่ที่ 72,000 ดอง/กก. และคาดว่าจะยืนในระดับสูงตลอดปี เนื่องจากซัพพลายลดลงไปราว 30% จากโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู(ASF) ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงยังต่ำโดยอยู่ที่ 36,000 ดอง/กก. ส่วนราคาหมูในไทยลดลงเล็กน้อยมาที่ 68 บาท/กก. แต่ยังสูงกว่าต้นทุนที่ 58-60 บาท/กก. เนื่องจากภาวะภัยแล้งอาจกระทบต่อการเลี้ยงหมูของเกษตรกรรายย่อย อีกทั้งในต่างประเทศยังคงประสบปัญหาขาดแคลนหมูจากการระบาดของโรค ASF

*** จีนเพิ่งรับรองโรงเชือดไก่ในไทยเพิ่ม หนุนราคาไก่ในไทย
ล่าสุดจีนเพิ่งประกาศขึ้นทะเบียนโรงเชือดสัตว์ปีกใหม่ไทยเพิ่มเติมอีก7 แห่ง และรับรองการส่งออกสินค้าชิ้นส่วนไก่แช่แข็งเพิ่มเติมอีก 1 แห่ง ส่งผลให้ปัจจุบันโรงเชือดส่งออกไปยังจีนได้แล้วมีทั้งหมด 22 แห่ง มีผลตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 63 เป็นต้นไป จะหนุนปริมาณส่งออกไก่ไปจีนที่เพิ่มขึ้นถือว่าเป็นปัจจัยบวกทางอ้อมต่อราคาไก่มีชีวิตในประเทศไทยภายในช่วงไตรมาส 2/63

*** นักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้เฉลี่ยที่ 33.92 บาท
หากมองจากราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์แล้วพบว่าราคาเหมาะสมเฉลียถึง 33.92 บาทคิดเป็น P/E เฉลี่ยราว 15 เท่า มีอัพไซด์สูงถึง 30.46% จากราคาสูงสุดของเช้าวันนี้ที่ 26 บาท

CPF เรียกว่ากำลังอู่ฟู่เลยในตอนนี้ เพราะราคาหมูสูง ขณะที่ความต้องการก็เพิ่มสูงขึ้นในทิศทางเดียวกัน แต่หากโควิด-19 ยังยืดเยื้อจนกระทบกับกำลังซื้อ ราคาหมูที่พุ่งไปสูงจนสวนทางกับกำลังซื้อชัดเจนเช่นนี้ ก็มีโอกาสที่จะปรับลดลง หรือถูกขอให้ปรับลดลงจากทางรัฐบาลได้เช่นกัน ดังนั้นอย่าเพิ่งวางใจว่างบทั้งปีจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับไตรมาสแรก!
.
**อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่==>> http://www.efinancethai.com/HotStocks/HotStockMain.aspx?release=y&id=Yk1UQWJ2SXZJRzA9

--------------------------
สำนักข่าว efinanceThai ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นได้ที่นี่ 
Website : https://www.efinancethai.com 
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThaiTV/ 
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThai/ 
lTwitter : @eFinanceThai 
IG : @efinancethai_official 
line : @efin

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่