มาต่อกันใน Step ที่ 2 ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายนะครับ
นี่คือกฏกติกาแบบเต็ม ๆ ใน Step ที่ 2
รอบนี้มี Weekly Loss Limit 1,000 เพิ่มขึ้นมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันมีคำว่า any point in a calendar week ผมจะตีความ (เอาเอง) ว่า ต่อให้สุดท้ายแล้วเมื่อจบสัปดาห์ เราจะเทรดได้กำไรก็ตาม แต่ถ้ามีช่วงเวลาหรือจังหวะใดก็ตาม เราเทรดแล้วติดลบสะสมในสัปดาห์นั้นเกิน 1,000 เราก็จะสอบตกทันที เช่น
- วันจันทร์ เทรด -300
- วันอังคาร เทรด -300
- วันพุธ เวลา 21.00 เทรด -410 (เท่ากับเวลา 3 ทุ่ม ติดลบรวมมาจากวันจันทร์ = -1,010) ถึงเวลา 23.00 น. เทรดได้ +2,000
- เราจะสอบตกนะครับ เพราะตอน 3 ทุ่ม เราเทรดเสียรวมแล้วเกิน Weekly Loss Limit 1,000 ถึงแม้สุดท้ายแล้วจบวัน เราจะเทรดแล้วได้กำไรรวม +990 ก็ตาม
สิ่งสำคัญรอบนี้มี Scaling Plan เพิ่มขึ้นมาด้วย
Scaling Plan คืออะไร มาดูกันนะครับ
เนื่องจากผมสอบ Package $50,000 ผมก็จะต้องทำตาม Scaling Plan ของ Package นี้ ซึ่งเค้าบังคับว่า
- ตราบใดก็ตามที่ยังทำกำไรได้ไม่ถึง 1,500 เราก็จะเทรดได้มากสุดต่อเทรด คือ 2 lots (สัญญา) จะแตกต่างจาก Step 1 แล้วนะครับ เพราะ Step 1 คุณจะเทรดครั้งละ 5 สัญญาเลยก็ได้ แต่ Step 2 นี่ไม่ได้แล้วนะ
- ทำไมต้องทำแบบนี้ ก็เผื่อว่าเราจะฟลุ๊คไงครับ เพราะการเทรด 5 สัญญา สำหรับ ES ณ ตลาดตอนนี้ ถ้าฟลุ๊คถูกทาง คุณจะสามารถทำกำไรได้มากกว่า $US7,500 ภายในเทรดเดียว และใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีด้วยซ้ำ เนื่องจากตลาดวิ่งแรงมาก
- ถ้าทำกำไรได้มากกว่า 1,500 ก็จะสามารถเทรดสัญญาเพิ่มขึ้นได้เป็น 3 สัญญา
- ถ้าทำกำไรได้มากกว่า 2,000.01 ก็จะสามารถเทรดสัญญาเพิ่มขึ้นได้เป็น 5 สัญญา
- ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่อง Scaling Plan เนื่องจากผมวางแผนไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ผมจะเทรดครั้งละ 1 สัญญาเท่านั้น ตลอดการสอบ
- เรื่อง Scaling Plan นี้ เราต้องระมัดระวังด้วยตัวเองนะครับ เพราะว่าโปแกรมในการเทรด มันจะไม่ได้เตือนเรานะครับว่าห้ามเทรดมากกว่า 2 สัญญาถ้ายังทำกำไรรวมได้ไม่ถึง 1,500 โปรแกรมมันอนุญาติให้เราเทรดได้ 5 สัญญาหรือมากกว่านั้นได้อยู่ดี เพราะตัวโปรแกรมมันคำนวณ Margin แล้วว่าพอ โปรแกรมจะไม่เตือนอะไรทั้งสิ้น แต่พอวันรุ่งขึ้นจะมีเมล์มาแจ้งว่า สอบตก คนที่ผมโค้ชชิ่งให้หลายคนโดนมาแล้วครับ เพราะไม่ระวัง
แผนการสอบในขั้นนี้สำหรับผมไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะในความเป็นจริงคือ ผมใช้กฏใน Step 2 นี้มาตั้งแต่ Step 1 แล้วครับ แต่มีบางอย่างที่ต้องเคลียร์ให้เข้าใจเพิ่มเติม เพราะฉะนั้นแผนส่วนใหญ่จะซ้ำกับแผนเดิมดังนี้
- ต้องเข้าใจตลาดในช่วงนี้ก่อน (มีนาคม 2020) ตลาดช่วงนี้เหวี่ยงแรงมาก Range กว้างมาก ตลาดวิ่งเร็วมาก เนื่องจากความไม่แน่นอนเรื่อง Covid-19 นี่คือตลาดที่เรากำลังเผชิญอยู่
- เนื่องจาก Target คือ 3,000 (เหมือนเดิม) แล้วใน Step 2 เวลาที่ต้องเทรดน้อยที่สุดเพิ่มขึ้นมาเป็น 10 วัน (กันฟลุ๊ค) นั่นก็แปลว่าเรายิ่งไม่ต้องรีบใหญ่เลยครับ ค่อย ๆ เก็บไป เวลาเหลือ ๆ
- ผมจะเทรด E-Mini S&P 500 (ES) เป็นหลัก เพราะผมเทรดเป็นประจำอยู่แล้ว
- ณ เวลาที่สอบนี้ Volatility สูงมาก ตลาดมี Range กว้างมาก และวิ่งเร็วมาก รวมถึงเราไม่ต้องรีบเนื่องจากมีเวลาอย่างน้อย ๆ 5 วัน เพราะฉะนั้นผมจะเทรดเพียงแค่ครั้งละ 1 สัญญาเท่านั้นซึ่งเป็นสัญญาต่ำสุดแล้ว แล้วก็จะเทรดแค่ครั้งละ 1 สัญญา ทั้ง Step 1 และ Step 2 ด้วย
- รอบนี้มี Weekly Lost Limit 1,000 เพิ่มขึ้นด้วย (กันฟลุ๊คอีกนั่นแหล่ะ)
- เพราะฉะนั้น เสียเกินวันละ 1,000 ก็ตก
- เสียวันละ 300 สะสมแล้วภายใน 1 สัปดาห์เสียเกิน 1,000 ก็ตกอยู่ดี
- นั่นแปลว่าถ้าเราเริ่มต้นสัปดาห์ไม่ดี ความกดดันจะเพิ่มขึ้นทันที
- ถึงได้บอกว่า Money Management Model ของเค้าเขี้ยวไงครับ สุดท้ายแล้วถ้าเราเป็น Funded Trader ได้ เราจึงไม่ควรเก็บเงินไว้ในพอร์ตนี้ เพราะยังไงเราก็เทรด lot ใหญ่ ๆ ไม่ได้ เนื่องจากกฏมันบีบเรามากเกินไปแทบจะขยับตัวไม่ได้เลย
- จะต้องรอจนกว่าจะเห็น Trade Setup ที่ชัด ๆ และมีเปอร์เซ็นต์สูงเท่านั้น อะไรที่ 50/50 ต้องหลีกเลี่ยงเพราะ Money Management Rule ของเค้าค่อนข้างรัดตัวมากทีเดียว
- จำนวนครั้งในการเทรดต่อวัน อาจจะต้องมากกว่าในภาวะปกติ เพราะเราจะ Hold Trade แต่ละเทรดนาน ๆ ไม่ได้ เนื่องจากตลาดเหวี่ยงเกินไป บางเทรดอาจจะต้องออกเมื่อได้ 2 - 3R
- เทรด ES ตอนนี้ ถ้าถูกทางเพียงเทรดเดียวเล็ก ๆ ก็แทบจะได้เทรดละ 1,000 แบบไม่ยากเลย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่ต้องรีบนะครับ
Ok ภาพรวมนี่คือแผนใน Step ที่ 2
ซึ่งผลของการสอบใน Step นี้ของผมก็อย่างที่เห็นตามภาพข้างล่าง
- เทรดตามเป้าเป็นหลักเลยครับ ได้กำไรรวม $US3,058
- พอมีเวลาเพิ่มขึ้น 10 วัน Win Rate ก็เพิ่มขึ้นตามมาด้วยเป็น 70%
- เริ่มต้นวันแรกหลังจากผ่าน Step 1ในวันที่ 12 Mar เริ่มต้นมาก็เสียก่อนเลย -800 เริ่มต้นซะเท่ห์เลย 555 แต่ตลาดตอนนี้ก็แบบนี้แหล่ะครับ เทรดไม่ง่าย
- จริง ๆ ผมเทรดถึงเป้าไปทั้งแต่เทรดครบ 6 วันแล้ว แต่ยังไม่ผ่านเพราะยังไม่ครบ 10 วัน ก็เลยต้องเทรดต่อไปอีก 4 วัน
- วันที่ 8 - 9 เสียนิดหน่อย วันที่ 10 คือวันสุดท้าย เลยต้องเซฟ ๆ หน่อย เอาแค่ผ่านแล้วจบวันเลย
- ภาพข้างบนคือรายละเอียดในแต่ละวัน
- สรุปยิ่งเทรดมากในแต่ละวัน ยิ่งไม่ดี (Over Trade นั่นเอง)
- ถึงผมจะเทรดมานานแล้ว แต่บางวันก็ไม่สามารถคุมอารมณ์ได้ดีเหมือนกันครับ เพราะฉะนั้นแนะนำว่า วันไหนอารมณ์ไม่คงที่อย่าเทรดจะดีกว่า ถ้าจะเทรดต้องไปนั่งสมาธิมาก่อนน่าจะช่วยได้
หลังจากสอบผ่าน Step 2 ก็จะได้อีเมล์แบบนี้
ฉบับแรก ก็แสดงความยินดี
- ฉบับที่ 2 ให้ทางเลือก 2 ทางต่อจากนี้
เลือกเป็น Funded Trader เลย ซึ่งก็จะหมายความว่า
- Topstep จะไปเปิดบัญชีเงินจริงให้เรา ซึ่งจะเป็นที่ไหนก็อยู่ที่เราเลือก Platform ในการเทรดเป็นอะไร ถ้าเราใช้ Ninjatrader ในการเทรด เค้าก็จะไปเปิดบัญชีที่ Ninjatrader ให้เรา
- ซึ่งบัญชี Funded Trader เป็นประเภท Professional Trader เพราะฉะนั้น ค่า Data Feed ก็จะต้องเป็นเรท Professional นะครับ นั่นคือ ต้องจ่ายเดือนละ $US105 ซึ่งปกติถ้าเราเปิดพอร์ตส่วนตัวเทรด Futures กับทางโบ๊รคสหรัฐ เราจะเสียค่า Data Feed แค่ $US7 ต่อเดือนเท่านั้น
- ถ้าโปรแกรมเทรดที่เราเลือกใช้ต้องเสียเงินซื้อ หรือเช่าเพื่อที่จะสามารถเทรดเงินจริงได้ เราก็ต้องไปซื้อ License มานะครับ อย่าง Ninjatrader นั้นถ้าจะเทรดเงินจริงต้องมี License จะเช่าหรือจะซื้อก็ตามแต่เลือกครับ
- ถ้าเป็น Funded Trader แล้วทำผิดกฏ (ก็กฏใน Step 2 นั่นแหล่ะ) กลับไปสอบมาใหม่ตั้งแต่ Step 1
แต่ถ้าเลือกเทรด Pro Account ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่สุดที่เพิ่งจะเพิ่มขึ้นมา จะเป็นยังไง
- ก็เหมือนกับสอบต่อไปครับ โดยใช้กฏของ Step 2 เป็นหลัก แต่มีข้อดีคือ
- เป็นการเทรด Sim เหมือนการสอบที่ผ่านมานั่นแหล่ะ แต่กำไรเป็นเงินจริง
- ไม่ต้องเสียค่าอะไรทั้งสิ้น รายเดือนก็ไม่ต้องเสีย ค่า Data Feed ก็ไม่ต้องเสีย
- ที่ไม่ต้องเสียอะไร ก็เพราะมันไม่ใช่การสอบแล้วครับ น่าจะเหมือนเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนไปลุยเป็น Funded Trader จริงซะมากกว่า
- เงินที่เทรดได้เมื่อถึง +5,000 บัญชีนี้จะถูกปิดทันที
- จากนั้นเค้าจะเอา 5,000 ที่ได้นี้ ไปรวมกับเงินที่จะเปิดบัญชีเทรดให้เรา จากเดิมคือ $US50,000 (ถ้าเราเลือกสอบ Package $US50,000) เค้าก็จะเปิดบัญชีให้เป็น 50,000 + 5,000 = 55,000 แทน
- 5,000 ที่เกินมา จะถอนออกตั้งแต่วันแรกเลยก็ได้ หรือจะเก็บไว้ถอนทีหลังก็ได้ (ถ้าเป็นผมจะถอนออกตั้งแต่วันแรกครับ ไม่เก็บไว้) 5,000 ที่เราเทรดได้ใน Pro Account นี้ไม่ต้องแบ่งใครทั้งสิ้น
- ถึงแม้ จะได้ไม่ถึง 5,000 ถ้าต้องการจะไปเป็น Funded Trader เลยก็ได้ แค่เมล์ไปแจ้งเค้าว่าขอปิด Pro Accout เงินที่เทรดได้ ก็จะไปรวมกับเงินที่เค้าจะเปิดบัญชี Funded Trader ให้ครับ
- เกิดเทรดไปเทรดมาสอบตก (ตามกฏใน Step 2) ไม่ต้องกลับไปสอบใหม่ตั้งแต่ Step 1
- แค่กลับไปสอบ Step 2 ใหม่แค่นั้น
เพราะฉะนั้น ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว การสมัครสอบครั้งนี้ของผมก็เพื่อเอามาเขียนบทความเท่านั้น เนื่องจากผมมีบัญชีส่วนตัวอยู่แล้ว ผมเลยเลือกไปเทรดต่อที่ Pro Account ครับ เพราะไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไร แถมกำไรที่ได้ ยังได้เป็นเงินจริงอีกด้วย
สรุป:
- ผมสอบผ่านทั้ง 2 Step โดยใช้เวลาในการเทรด 16 วัน ระหว่างวันที่ 2 - 30 มีนาคม 2020 จ่ายค่าสอบแค่รอบเดียว
- ผมทำกำไรได้ทั้งสิ้น $US6,947.90 ด้วยการเทรดครั้งละ 1 สัญญา (Lot ต่ำสุดที่อนุญาติให้เทรด)
- ถ้าคำนวณ Win Rate โดยใช้วันที่เทรดทั้งหมดเป็นเกณฑ์จะได้ = 70%
- เบื้องหลัง ผมเทรด account ส่วนตัวไปพร้อม ๆ กับการสอบ
- ผมเทรดเฉพาะ E-Mini S&P 500 เท่านั้น
- ผมเทรดเฉพาะช่วงตลาดสหรัฐเปิด โดยตลอดการสอบจะเริ่มเทรดตั้งแต่ 20.30 - 23.00 น. เท่านั้น
สิ่งที่ต้องรู้และระวัง
- การสอบไม่จำกัดเวลา แต่ถ้าครบกำหนด 1 เดือนแล้วยังไม่ผ่าน 2 Step ก็จะถูกเก็บค่าสอบต่อไปเรื่อย ๆ ทุกเดือน (ซึ่งยังไงก็ยังดีกว่าเทรดด้วยเงินตัวเองทั้ง ๆ ที่ยังไม่มี Skill อยู่ดี)
- ปุ่ม Reset ใน Topstep หมายถึง ถ้าเราต้องการล้างประวัติการเทรด รวมถึงผลลัพธ์ทุกอย่างแล้วเริ่มใหม่ รวมถึงสอบตกไปแล้วแต่ต้องการเริ่มใหม่ก็กดปุ่ม Reset ได้ แต่มีค่าใช้จ่ายนะครับ รู้สึกว่า Reset ครั้งละ $US90 หรือ $US100 นี่แหล่ะ ไม่แน่ใจ
- การ Reset ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับค่าสอบรายเดือนที่ต้องจ่ายนะครับ เพราะฉะนั้นค่าสอบก็ยังต้องจ่ายอยู่ทุกเดือน ตราบใดที่ยังต้องการสอบต่อไป
- Trick: ถ้าสอบแล้วติดลบ แต่ยังไม่ตก แต่เกือบจะครบเดือนอีกไม่กี่วันแล้ว ให้ยกเลิกการสอบแล้วไปเริ่มต้นสมัครสอบใหม่ด้วย account เดิม แต่เริ่ม Start จาก 0 ดีกว่าเริ่มต้นเดือนใหม่ด้วยการติดลบ
- หรือเริ่มใหม่ด้วย account ใหม่ (ได้ส่วนลดตาม Link เหมือนเดิม)
- อย่าลืมกดยกเลิกการสอบ ในกรณีที่ต้องการเริ่มใหม่ ไม่เช่นนั้นจะโดนเก็บเงินค่าสอบอันเก่าไปเรื่อย ๆ
เอาละครับ ก็อย่างที่ติดตามอ่านมาตั้งแต่ต้น การเทรดนั้น ถ้าเรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ การทำกำไรแบบยั่งยืนมันเป็นเรื่องที่ทำได้ครับ มันสำคัญตรงที่เราต้องมี Skill จะมี Skill ได้ก็ต้องใช้เวลา แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ “ความรู้” ที่จะเอาไปสร้าง Skill นั้นต้องเป็นความรู้ที่สามารถใช้ได้จริงด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้นแล้วคุณจะเจอแต่ความยากลำบากซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเส้นทางนี้ครับ
ผมยินดีตอบหรือให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการสอบเป็น Funded Trader กับทุกคนนะครับ แค่เข้าไปถามใน Facebook Page Daytradeboss ฝากข้อความไว้ก็ได้ หรือจะถามทาง Line: Daytradeboss ก็ได้ครับตามแต่สะดวก อยากให้ไปโกยเงินนอกประเทศกลับเมืองไทยกันเยอะ ๆ ครับ
นี่คือ Link ในการสมัครแล้วจะได้ส่วนลด $US50
กดตรงนี้
เงื่อนไขการใช้ Link นี้ จะเป็นส่วนลดให้เฉพาะ account ใหม่เท่านั้นนะครับ แปลว่าถ้าสอบตก แล้วต้องการได้ส่วนลดอีก ก็ต้องไปสมัคร account ใหม่ซึ่งจะมีกี่ account ก็ได้ ก็แค่อย่าใช้ email ซ้ำในการสมัคร แล้วก็อย่าลืมไปยกเลิกการสอบ account เก่าด้วยไม่งั้นจะโดยชาร์ตรายเดือนไปเรื่อย ๆ
สุดท้ายนี้ ผมจะไม่ขออวยพรให้โชคดี เพราะในระยะยาว การเทรดไม่ต้องการโชคครับ
Trade Well ครับ
ด้านความปรารถนาดีจาก Daytradeboss
บทความต้นฉบับ [url]
บทความ: เทรดให้ Coronavirus มันดู (มาสอบเป็น Funded Trader กันเถอะ) Part. 5 ตอนจบ
นี่คือกฏกติกาแบบเต็ม ๆ ใน Step ที่ 2
รอบนี้มี Weekly Loss Limit 1,000 เพิ่มขึ้นมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันมีคำว่า any point in a calendar week ผมจะตีความ (เอาเอง) ว่า ต่อให้สุดท้ายแล้วเมื่อจบสัปดาห์ เราจะเทรดได้กำไรก็ตาม แต่ถ้ามีช่วงเวลาหรือจังหวะใดก็ตาม เราเทรดแล้วติดลบสะสมในสัปดาห์นั้นเกิน 1,000 เราก็จะสอบตกทันที เช่น
- วันจันทร์ เทรด -300
- วันอังคาร เทรด -300
- วันพุธ เวลา 21.00 เทรด -410 (เท่ากับเวลา 3 ทุ่ม ติดลบรวมมาจากวันจันทร์ = -1,010) ถึงเวลา 23.00 น. เทรดได้ +2,000
- เราจะสอบตกนะครับ เพราะตอน 3 ทุ่ม เราเทรดเสียรวมแล้วเกิน Weekly Loss Limit 1,000 ถึงแม้สุดท้ายแล้วจบวัน เราจะเทรดแล้วได้กำไรรวม +990 ก็ตาม
สิ่งสำคัญรอบนี้มี Scaling Plan เพิ่มขึ้นมาด้วย
Scaling Plan คืออะไร มาดูกันนะครับ
เนื่องจากผมสอบ Package $50,000 ผมก็จะต้องทำตาม Scaling Plan ของ Package นี้ ซึ่งเค้าบังคับว่า
- ตราบใดก็ตามที่ยังทำกำไรได้ไม่ถึง 1,500 เราก็จะเทรดได้มากสุดต่อเทรด คือ 2 lots (สัญญา) จะแตกต่างจาก Step 1 แล้วนะครับ เพราะ Step 1 คุณจะเทรดครั้งละ 5 สัญญาเลยก็ได้ แต่ Step 2 นี่ไม่ได้แล้วนะ
- ทำไมต้องทำแบบนี้ ก็เผื่อว่าเราจะฟลุ๊คไงครับ เพราะการเทรด 5 สัญญา สำหรับ ES ณ ตลาดตอนนี้ ถ้าฟลุ๊คถูกทาง คุณจะสามารถทำกำไรได้มากกว่า $US7,500 ภายในเทรดเดียว และใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีด้วยซ้ำ เนื่องจากตลาดวิ่งแรงมาก
- ถ้าทำกำไรได้มากกว่า 1,500 ก็จะสามารถเทรดสัญญาเพิ่มขึ้นได้เป็น 3 สัญญา
- ถ้าทำกำไรได้มากกว่า 2,000.01 ก็จะสามารถเทรดสัญญาเพิ่มขึ้นได้เป็น 5 สัญญา
- ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่อง Scaling Plan เนื่องจากผมวางแผนไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ผมจะเทรดครั้งละ 1 สัญญาเท่านั้น ตลอดการสอบ
- เรื่อง Scaling Plan นี้ เราต้องระมัดระวังด้วยตัวเองนะครับ เพราะว่าโปแกรมในการเทรด มันจะไม่ได้เตือนเรานะครับว่าห้ามเทรดมากกว่า 2 สัญญาถ้ายังทำกำไรรวมได้ไม่ถึง 1,500 โปรแกรมมันอนุญาติให้เราเทรดได้ 5 สัญญาหรือมากกว่านั้นได้อยู่ดี เพราะตัวโปรแกรมมันคำนวณ Margin แล้วว่าพอ โปรแกรมจะไม่เตือนอะไรทั้งสิ้น แต่พอวันรุ่งขึ้นจะมีเมล์มาแจ้งว่า สอบตก คนที่ผมโค้ชชิ่งให้หลายคนโดนมาแล้วครับ เพราะไม่ระวัง
แผนการสอบในขั้นนี้สำหรับผมไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะในความเป็นจริงคือ ผมใช้กฏใน Step 2 นี้มาตั้งแต่ Step 1 แล้วครับ แต่มีบางอย่างที่ต้องเคลียร์ให้เข้าใจเพิ่มเติม เพราะฉะนั้นแผนส่วนใหญ่จะซ้ำกับแผนเดิมดังนี้
- ต้องเข้าใจตลาดในช่วงนี้ก่อน (มีนาคม 2020) ตลาดช่วงนี้เหวี่ยงแรงมาก Range กว้างมาก ตลาดวิ่งเร็วมาก เนื่องจากความไม่แน่นอนเรื่อง Covid-19 นี่คือตลาดที่เรากำลังเผชิญอยู่
- เนื่องจาก Target คือ 3,000 (เหมือนเดิม) แล้วใน Step 2 เวลาที่ต้องเทรดน้อยที่สุดเพิ่มขึ้นมาเป็น 10 วัน (กันฟลุ๊ค) นั่นก็แปลว่าเรายิ่งไม่ต้องรีบใหญ่เลยครับ ค่อย ๆ เก็บไป เวลาเหลือ ๆ
- ผมจะเทรด E-Mini S&P 500 (ES) เป็นหลัก เพราะผมเทรดเป็นประจำอยู่แล้ว
- ณ เวลาที่สอบนี้ Volatility สูงมาก ตลาดมี Range กว้างมาก และวิ่งเร็วมาก รวมถึงเราไม่ต้องรีบเนื่องจากมีเวลาอย่างน้อย ๆ 5 วัน เพราะฉะนั้นผมจะเทรดเพียงแค่ครั้งละ 1 สัญญาเท่านั้นซึ่งเป็นสัญญาต่ำสุดแล้ว แล้วก็จะเทรดแค่ครั้งละ 1 สัญญา ทั้ง Step 1 และ Step 2 ด้วย
- รอบนี้มี Weekly Lost Limit 1,000 เพิ่มขึ้นด้วย (กันฟลุ๊คอีกนั่นแหล่ะ)
- เพราะฉะนั้น เสียเกินวันละ 1,000 ก็ตก
- เสียวันละ 300 สะสมแล้วภายใน 1 สัปดาห์เสียเกิน 1,000 ก็ตกอยู่ดี
- นั่นแปลว่าถ้าเราเริ่มต้นสัปดาห์ไม่ดี ความกดดันจะเพิ่มขึ้นทันที
- ถึงได้บอกว่า Money Management Model ของเค้าเขี้ยวไงครับ สุดท้ายแล้วถ้าเราเป็น Funded Trader ได้ เราจึงไม่ควรเก็บเงินไว้ในพอร์ตนี้ เพราะยังไงเราก็เทรด lot ใหญ่ ๆ ไม่ได้ เนื่องจากกฏมันบีบเรามากเกินไปแทบจะขยับตัวไม่ได้เลย
- จะต้องรอจนกว่าจะเห็น Trade Setup ที่ชัด ๆ และมีเปอร์เซ็นต์สูงเท่านั้น อะไรที่ 50/50 ต้องหลีกเลี่ยงเพราะ Money Management Rule ของเค้าค่อนข้างรัดตัวมากทีเดียว
- จำนวนครั้งในการเทรดต่อวัน อาจจะต้องมากกว่าในภาวะปกติ เพราะเราจะ Hold Trade แต่ละเทรดนาน ๆ ไม่ได้ เนื่องจากตลาดเหวี่ยงเกินไป บางเทรดอาจจะต้องออกเมื่อได้ 2 - 3R
- เทรด ES ตอนนี้ ถ้าถูกทางเพียงเทรดเดียวเล็ก ๆ ก็แทบจะได้เทรดละ 1,000 แบบไม่ยากเลย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่ต้องรีบนะครับ
Ok ภาพรวมนี่คือแผนใน Step ที่ 2
ซึ่งผลของการสอบใน Step นี้ของผมก็อย่างที่เห็นตามภาพข้างล่าง
- เทรดตามเป้าเป็นหลักเลยครับ ได้กำไรรวม $US3,058
- พอมีเวลาเพิ่มขึ้น 10 วัน Win Rate ก็เพิ่มขึ้นตามมาด้วยเป็น 70%
- เริ่มต้นวันแรกหลังจากผ่าน Step 1ในวันที่ 12 Mar เริ่มต้นมาก็เสียก่อนเลย -800 เริ่มต้นซะเท่ห์เลย 555 แต่ตลาดตอนนี้ก็แบบนี้แหล่ะครับ เทรดไม่ง่าย
- จริง ๆ ผมเทรดถึงเป้าไปทั้งแต่เทรดครบ 6 วันแล้ว แต่ยังไม่ผ่านเพราะยังไม่ครบ 10 วัน ก็เลยต้องเทรดต่อไปอีก 4 วัน
- วันที่ 8 - 9 เสียนิดหน่อย วันที่ 10 คือวันสุดท้าย เลยต้องเซฟ ๆ หน่อย เอาแค่ผ่านแล้วจบวันเลย
- ภาพข้างบนคือรายละเอียดในแต่ละวัน
- สรุปยิ่งเทรดมากในแต่ละวัน ยิ่งไม่ดี (Over Trade นั่นเอง)
- ถึงผมจะเทรดมานานแล้ว แต่บางวันก็ไม่สามารถคุมอารมณ์ได้ดีเหมือนกันครับ เพราะฉะนั้นแนะนำว่า วันไหนอารมณ์ไม่คงที่อย่าเทรดจะดีกว่า ถ้าจะเทรดต้องไปนั่งสมาธิมาก่อนน่าจะช่วยได้
หลังจากสอบผ่าน Step 2 ก็จะได้อีเมล์แบบนี้
ฉบับแรก ก็แสดงความยินดี
- ฉบับที่ 2 ให้ทางเลือก 2 ทางต่อจากนี้
เลือกเป็น Funded Trader เลย ซึ่งก็จะหมายความว่า
- Topstep จะไปเปิดบัญชีเงินจริงให้เรา ซึ่งจะเป็นที่ไหนก็อยู่ที่เราเลือก Platform ในการเทรดเป็นอะไร ถ้าเราใช้ Ninjatrader ในการเทรด เค้าก็จะไปเปิดบัญชีที่ Ninjatrader ให้เรา
- ซึ่งบัญชี Funded Trader เป็นประเภท Professional Trader เพราะฉะนั้น ค่า Data Feed ก็จะต้องเป็นเรท Professional นะครับ นั่นคือ ต้องจ่ายเดือนละ $US105 ซึ่งปกติถ้าเราเปิดพอร์ตส่วนตัวเทรด Futures กับทางโบ๊รคสหรัฐ เราจะเสียค่า Data Feed แค่ $US7 ต่อเดือนเท่านั้น
- ถ้าโปรแกรมเทรดที่เราเลือกใช้ต้องเสียเงินซื้อ หรือเช่าเพื่อที่จะสามารถเทรดเงินจริงได้ เราก็ต้องไปซื้อ License มานะครับ อย่าง Ninjatrader นั้นถ้าจะเทรดเงินจริงต้องมี License จะเช่าหรือจะซื้อก็ตามแต่เลือกครับ
- ถ้าเป็น Funded Trader แล้วทำผิดกฏ (ก็กฏใน Step 2 นั่นแหล่ะ) กลับไปสอบมาใหม่ตั้งแต่ Step 1
แต่ถ้าเลือกเทรด Pro Account ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่สุดที่เพิ่งจะเพิ่มขึ้นมา จะเป็นยังไง
- ก็เหมือนกับสอบต่อไปครับ โดยใช้กฏของ Step 2 เป็นหลัก แต่มีข้อดีคือ
- เป็นการเทรด Sim เหมือนการสอบที่ผ่านมานั่นแหล่ะ แต่กำไรเป็นเงินจริง
- ไม่ต้องเสียค่าอะไรทั้งสิ้น รายเดือนก็ไม่ต้องเสีย ค่า Data Feed ก็ไม่ต้องเสีย
- ที่ไม่ต้องเสียอะไร ก็เพราะมันไม่ใช่การสอบแล้วครับ น่าจะเหมือนเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนไปลุยเป็น Funded Trader จริงซะมากกว่า
- เงินที่เทรดได้เมื่อถึง +5,000 บัญชีนี้จะถูกปิดทันที
- จากนั้นเค้าจะเอา 5,000 ที่ได้นี้ ไปรวมกับเงินที่จะเปิดบัญชีเทรดให้เรา จากเดิมคือ $US50,000 (ถ้าเราเลือกสอบ Package $US50,000) เค้าก็จะเปิดบัญชีให้เป็น 50,000 + 5,000 = 55,000 แทน
- 5,000 ที่เกินมา จะถอนออกตั้งแต่วันแรกเลยก็ได้ หรือจะเก็บไว้ถอนทีหลังก็ได้ (ถ้าเป็นผมจะถอนออกตั้งแต่วันแรกครับ ไม่เก็บไว้) 5,000 ที่เราเทรดได้ใน Pro Account นี้ไม่ต้องแบ่งใครทั้งสิ้น
- ถึงแม้ จะได้ไม่ถึง 5,000 ถ้าต้องการจะไปเป็น Funded Trader เลยก็ได้ แค่เมล์ไปแจ้งเค้าว่าขอปิด Pro Accout เงินที่เทรดได้ ก็จะไปรวมกับเงินที่เค้าจะเปิดบัญชี Funded Trader ให้ครับ
- เกิดเทรดไปเทรดมาสอบตก (ตามกฏใน Step 2) ไม่ต้องกลับไปสอบใหม่ตั้งแต่ Step 1
- แค่กลับไปสอบ Step 2 ใหม่แค่นั้น
เพราะฉะนั้น ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว การสมัครสอบครั้งนี้ของผมก็เพื่อเอามาเขียนบทความเท่านั้น เนื่องจากผมมีบัญชีส่วนตัวอยู่แล้ว ผมเลยเลือกไปเทรดต่อที่ Pro Account ครับ เพราะไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไร แถมกำไรที่ได้ ยังได้เป็นเงินจริงอีกด้วย
สรุป:
- ผมสอบผ่านทั้ง 2 Step โดยใช้เวลาในการเทรด 16 วัน ระหว่างวันที่ 2 - 30 มีนาคม 2020 จ่ายค่าสอบแค่รอบเดียว
- ผมทำกำไรได้ทั้งสิ้น $US6,947.90 ด้วยการเทรดครั้งละ 1 สัญญา (Lot ต่ำสุดที่อนุญาติให้เทรด)
- ถ้าคำนวณ Win Rate โดยใช้วันที่เทรดทั้งหมดเป็นเกณฑ์จะได้ = 70%
- เบื้องหลัง ผมเทรด account ส่วนตัวไปพร้อม ๆ กับการสอบ
- ผมเทรดเฉพาะ E-Mini S&P 500 เท่านั้น
- ผมเทรดเฉพาะช่วงตลาดสหรัฐเปิด โดยตลอดการสอบจะเริ่มเทรดตั้งแต่ 20.30 - 23.00 น. เท่านั้น
สิ่งที่ต้องรู้และระวัง
- การสอบไม่จำกัดเวลา แต่ถ้าครบกำหนด 1 เดือนแล้วยังไม่ผ่าน 2 Step ก็จะถูกเก็บค่าสอบต่อไปเรื่อย ๆ ทุกเดือน (ซึ่งยังไงก็ยังดีกว่าเทรดด้วยเงินตัวเองทั้ง ๆ ที่ยังไม่มี Skill อยู่ดี)
- ปุ่ม Reset ใน Topstep หมายถึง ถ้าเราต้องการล้างประวัติการเทรด รวมถึงผลลัพธ์ทุกอย่างแล้วเริ่มใหม่ รวมถึงสอบตกไปแล้วแต่ต้องการเริ่มใหม่ก็กดปุ่ม Reset ได้ แต่มีค่าใช้จ่ายนะครับ รู้สึกว่า Reset ครั้งละ $US90 หรือ $US100 นี่แหล่ะ ไม่แน่ใจ
- การ Reset ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับค่าสอบรายเดือนที่ต้องจ่ายนะครับ เพราะฉะนั้นค่าสอบก็ยังต้องจ่ายอยู่ทุกเดือน ตราบใดที่ยังต้องการสอบต่อไป
- Trick: ถ้าสอบแล้วติดลบ แต่ยังไม่ตก แต่เกือบจะครบเดือนอีกไม่กี่วันแล้ว ให้ยกเลิกการสอบแล้วไปเริ่มต้นสมัครสอบใหม่ด้วย account เดิม แต่เริ่ม Start จาก 0 ดีกว่าเริ่มต้นเดือนใหม่ด้วยการติดลบ
- หรือเริ่มใหม่ด้วย account ใหม่ (ได้ส่วนลดตาม Link เหมือนเดิม)
- อย่าลืมกดยกเลิกการสอบ ในกรณีที่ต้องการเริ่มใหม่ ไม่เช่นนั้นจะโดนเก็บเงินค่าสอบอันเก่าไปเรื่อย ๆ
เอาละครับ ก็อย่างที่ติดตามอ่านมาตั้งแต่ต้น การเทรดนั้น ถ้าเรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ การทำกำไรแบบยั่งยืนมันเป็นเรื่องที่ทำได้ครับ มันสำคัญตรงที่เราต้องมี Skill จะมี Skill ได้ก็ต้องใช้เวลา แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ “ความรู้” ที่จะเอาไปสร้าง Skill นั้นต้องเป็นความรู้ที่สามารถใช้ได้จริงด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้นแล้วคุณจะเจอแต่ความยากลำบากซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเส้นทางนี้ครับ
ผมยินดีตอบหรือให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการสอบเป็น Funded Trader กับทุกคนนะครับ แค่เข้าไปถามใน Facebook Page Daytradeboss ฝากข้อความไว้ก็ได้ หรือจะถามทาง Line: Daytradeboss ก็ได้ครับตามแต่สะดวก อยากให้ไปโกยเงินนอกประเทศกลับเมืองไทยกันเยอะ ๆ ครับ
นี่คือ Link ในการสมัครแล้วจะได้ส่วนลด $US50 กดตรงนี้
เงื่อนไขการใช้ Link นี้ จะเป็นส่วนลดให้เฉพาะ account ใหม่เท่านั้นนะครับ แปลว่าถ้าสอบตก แล้วต้องการได้ส่วนลดอีก ก็ต้องไปสมัคร account ใหม่ซึ่งจะมีกี่ account ก็ได้ ก็แค่อย่าใช้ email ซ้ำในการสมัคร แล้วก็อย่าลืมไปยกเลิกการสอบ account เก่าด้วยไม่งั้นจะโดยชาร์ตรายเดือนไปเรื่อย ๆ
สุดท้ายนี้ ผมจะไม่ขออวยพรให้โชคดี เพราะในระยะยาว การเทรดไม่ต้องการโชคครับ
Trade Well ครับ
ด้านความปรารถนาดีจาก Daytradeboss
บทความต้นฉบับ [url]