แชร์ประสบการณ์ หนึ่งคนที่ลาออกจากงานมาเทรด tfex เป็นเวลา 10 เดือน

กระทู้นี้เขียนเพื่อเป็นความเห็นแชร์เพื่อนๆในห้องสินธร
ก่อนจะลาออก ผมทำงานเป็นวิศวกร เงินเดือน 60k ++
ก่อนหน้านั้น ได้ศึกษาเรื่องหุ้นพอสมควร(ส่วนใหญ่จากห้องสินธร) ... tfex ศึกษาบ้างแต่ไม่ได้เทรดจริงจัง
อาจเป็นเพราะด้วยอารมณ์เบื่องานที่ทำ และคิดว่าหากเราตั้งใจเทรด tfex อย่างจริงจัง
ผลตอบแทนที่ได้ น่าจะเทียบเท่ากับเงินเดือนที่ได้รับ (น้อยกว่านิดหน่อย ไม่น่าเป็นไร)

คิดอยู่นาน ... สุดท้ายก็ตัดสินใจลาออก (มีเงินเก็บอยู่ก่อนหนึ่งสำหรับ 1 ปี โดยใช้แบบไม่ฟุ่มเฟือย)
หลังจากลาออก ได้ลงเรียนคอร์ส tfex รวมสองคอร์ส จำนวนเงินรวม 40,000 บาท

ผมเทรด tfex แบบ ไม่ over trade
จุดเข้าจุดออกชัดเจน ... กำหนด stop lost ทุกไม้ ไม่ปล่อยให้โดนลาก
ใช้ชีวิตค่อนข้างสบาย ตื่นเช้ามาเปิดคอม รอตลาดเปิด
ตอนบ่ายขับรถออกไปนั่งเทรดตามร้านกาแฟต่างๆ สบายๆชิวๆ

หลายเดือนผ่านไป ... พอร์ทโตขึ้นบ้าง แต่ไม่โตมากอย่างมีนัยยะ(เพราะมีเทรดเสียบ้าง)
... หลายเดือนผ่านไป ... พอร์ทเริ่มนิ่ง ไม่โต ... และกำไรสะสมเริ่มลดลง

มันเหมือนกับว่า กำไรได้มา เก็บไว้ได้ไม่นาน ... พอมาเจอไม้ที่แพ้ มันหักลบกลบกำไรไปเกือบหมด
เทรดไปเทรดมา กำไรกลายเป็นเท่าทุน ... เท่าทุน เริ่มกลายเป็นขาดทุน !!

หลายเดือนผ่านไป ... พอร์ทเริ่มขาดทุนเงินต้น (ไม่เจอภาวะพอร์ทระเบิด เพราะไม่ over trade)
ทำให้เริ่มฉุกคิดว่า อาชีพหลักเป็นเทรดเดอร์ แต่เราไม่สามารถหาเงินเลี้ยงชีพจากการเทรดได้อย่าง "สม่ำเสมอ"
เริ่มไม่เหมือนกับที่คิดไว้ก่อนหน้านั้น ...

จนก้าวเข้าสู่เดือนที่ 10 หลังจากลาออกจากงาน
เงินเก็บเริ่มถูกใช้ไป โดยที่ไม่มีรายได้เข้ามาทดแทน ...  เริ่มคิดหนัก เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่

จะคิดว่า เพราะเราไม่เล่นอัดสัญญาเยอะๆ เลยทำให้ไม่ได้กำไรเยอะตามที่คิด ก็ไม่ใช่
จะคิดว่า เพราะเราอาจยังไม่เก่งจริง เลยทำให้ได้กำไรไม่ต่อเนื่อง ก็อาจจะใช่

ตอนนี้เลยเริ่มเครียด ... ผมควรวางแผนชีวิตผมต่อไปยังไงดีครับ
อยากขอความเห็นเพื่อนๆห้องสินธร โดยเฉพาะใครที่เป็น full time trader ด้วยครับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ผม ไม่ใช่ full time trader แต่ไม่มีอาชีพอื่น รายได้หลัก และเวลาหลัก อยู่ในตลาดหุ้น (ทั่วโลก)   ขอตอบนะ


ผมเป็น คนที่เล่นหุ้นมานาน TFEX ก็เล่นอยู่บ้างถ้ามีเวลา , เป็นคนชอบการพนันและการแข่งขัน ชอบคิดวิเคราะห์ จบวศิวะจุฬา


คิดว่า เราคงมีอะไรคล้ายๆกัน    เท่าที่อ่าน คำตอบที่คุณควรจะได้รับคือ  "เลิกแล้วกลับไปทำงาน"  เพราะคุณมีงานที่รายได้ ok  และใช้เวลา 10 เดือนพิสูจน์แล้วว่า "มาผิดทาง"    แต่ผมคิดว่าคุณคงเลิกยาก ผมเองคงไม่เลิก  แต่สิ่งที่ผมเคยทำ  ตอนที่เล่นหุ้นมานาน ไม่ไปไหน  ได้ๆ เสียๆ อยู่เท่าๆเดิม


ผมเอาตัวเองเป็นคำแนะนำล่ะกัน
เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ผมเลิกเล่นหุ้นไป สักระยะ  ผมทบทวนตัวเอง ว่าจะทำยังไงกับชีวิตต่อไป   ผมใช้เวลาไปศึกษาชีวิตคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต (วัดที่ตัวเงิน) แล้วหาแนวทางชีวิตตัวเอง

(ส่วนคุณ)
คุณควรหยุดคิด  ว่าชีวิตจะเป็นแบบนี้เหรอ?
คุณกำลังติดการพนัน หรือ กำลังทำมาหากินในแบบที่คุณเชื่อ?
วิธีไหนที่จะ ทำเงินได้ และชีวิตก็มีความสุข ?  

ผมมองดูคนที่ชีวิตดีขึ้นจากตลาดหุ้น  ส่วนน้อยมากที่ มากจาก TFEX  เพราะมันไม่ยั่งยืน  ถ้าผมจะเล้น TFEX เป็นอาชีพ ผมจะโอนเงินเข้าพอร์ทไปเลย เช่น 3 ล้าน   พอกำไร  ชักกำไรออกไปฝากประจำ  หรือ อย่างน้อย เดือนละ 60,000 (2%)  ถ้าอยู่รอดได้ คือ ทุนไม่มีวันหมด   ถ้าทุนหมด คือ จบ

ทุกวันนี้ ผมเล่น tfex และเก็งกำไรหุ้น โดยใช้เงินส่วนน้อย  เล่นเพียงเพื่อสนุกๆ และได้ติดตามตลาด  

ผมพูดได้เลยว่า ผมรวยมาได้เพราะ ตลาดหุ้นไทยเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมามันดี   แต่ตอนนี้ มันยาก    คนโกงเต็มตลาดเลย  คุณสู้มันไม่ได้หรอก   ช่วงหลังๆ ผมเป็น vip ในหลายโบรค บอกเลย  รายย่อยสู้รายใหญ่ไม่ได้หรอก  ผมพยายามเตือนมา 1 ปี แต่ดูไร้ผล ผมเลิกล่ะ เปลี่ยน สโลแกน  เป็น "เที่ยวรอบโลก"  เลิกอ่าน pantip    คือ รายย่อยในนี้ส่วนมาก เป็น เด็กๆ เพิ่งจบ  เด็กยังไม่จบ   มุมมองต่างกันมาก
ความคิดเห็นที่ 79
"...หลังจากลาออก ได้ลงเรียนคอร์ส tfex รวมสองคอร์ส จำนวนเงินรวม 40,000 บาท...

...ใช้ชีวิตค่อนข้างสบาย ตื่นเช้ามาเปิดคอม รอตลาดเปิด ตอนบ่ายขับรถออกไปนั่งเทรดตามร้านกาแฟต่างๆ สบายๆชิวๆ..."


ตรงนี้คือ จุดที่ผิดพลาด เพราะที่จริงคุณ จขกท ควรจะเรียนให้เข้ม ก่อน ลาออก ไม่ใช่หลังลาออก และมันก็ทำให้รู้ว่าที่จริงแล้วคุณยังไม่เข้าใจว่า "มืออาชีพ" เขาทำกันอย่างไร

ตามความเห็นส่วนตัวของผม (ซึ่งอาจไม่เหมือนคนอื่นก็ได้นะครับ) คนที่เทรดเป็นอาชีพแบบจริง ๆ จัง ๆ ควรมีห้องทำงานส่วนตัวที่มีความสงบ มีระบบสำรอง ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์สำรอง อินเทอร์เน็ตสำรอง หรือแม้แต่ระบบสำรองไฟฟ้า เพราะเมื่อคุณเปิดสัญญาแล้ว ถึงเวลาต้องปิดจะต้องปิดให้ได้ โดยเฉพาะถ้าคุณเล่นสั้น ความล่าช้าเพียงไม่กี่นาทีอาจหมายถึงเงินหลายหมื่นหรือหลายแสนบาท

นี่อาจฟังดูโอเวอร์ แต่เพื่อนของผมที่เทรดเป็นอาชีพล้วนทำแบบนี้ การนั่งเทรดชิลล์ ๆ ตามร้านกาแฟ น่าจะเป็นแค่ภาพลักษณ์ที่นักขายคอร์สพยายามปั้นให้ดูเย้ายวน ชวนให้คิดว่าอาชีพนักเทรดเป็นเรื่องง่ายเท่านั้น

สรุป จขกท. ควรกลับไปศึกษาใหม่ตั้งแต่ต้นว่านักเทรดอาชีพเขาทำกันอย่างไร อ่านหนังสือมาก ๆ มืออาชีพจะศึกษาจากประสบการณ์ของผู้อื่น ควบคู่ไปกับการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของตนเอง
ความคิดเห็นที่ 13
อะเฮือก เราขอโทษจริงๆนะคะ ที่ต้องบอกว่า คนรู้จักเรา รวยเป็น 100 ล้านใน 2 ปี เพราะสอน forex (คอร์สละ แสน++) สอนนะคะ สอน...
     และคนสนิทเรา เสีย 5 แสน ใน เอ่อ...ไม่ถึงเดือน (เขาศึกษา forex มา ตั้งเเต่ปี 54 แต่ลงเล่น ปี 58 เพราะเริ่มมีเงิน)
      และ คนสนิทเรา อีกคน เคยมีร้านยา 5 ร้าน ชวนเราเล่นforex เเต่เราไม่เล่น  ทุกวันนี้ เราไม่กล้าถามเลยว่า ร้านยาไปไหน เมียพี่ไปไหน ทำไมพี่มาทำงานตัวใหม่?
     ส่วนตัวเราโง่เลขมากๆ เคยติด f calculus 2 รอบ ฟิสิกส์ เคมี อย่างละรอบ เเต่จบตรีมาได้
     ไม่ได้เกลียดหุ้นและ forex เเค่เห็นตัวเลขเเล้วตาลาย ไม่คิดจะเล่นเลย
      ขอโทษอีกครั้งที่เล่าความจริงให้ฟังค่ะ
ความคิดเห็นที่ 93
แชร์ประสบการณ์ fulltime trader มา 4 ปีนะครับ
แรกๆผมก็เป็นเหมือนคุณ ได้บ้างเสียบ้าง port ไม่ไปไหนวนเวียนอยู่ที่เดิม 1 ปี จนกระทั่ง มี trade setup ที่ดี + mm ที่ดี มีความเข้าใจในการเคลื่อนที่ของราคาอย่างทะลุปรุโปร่ง รู้จักนิสัยตลาด
จากนั้นผมก็เริ่มกำไรมากขึ้น ขาดทุนลดลง port เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ port ผมโตขึ้น 400% ในช่วง 3 ปืที่ผ่านมาโดยที่ไม่ได้ overtrade
ผมจะสรุปให้ฟังว่าถ้าคุณจะสำเร็จในเส้นทาง tfex จะต้องทำยังไงบ้าง ประกอบด้วย 3 ข้อ
1. มี trade setup มีชัดเจน จุดเข้า, จุดออก, จุด stop loss, trailing stop
ทุกจุดไม่ใช่มโนขึ้นมา ต้องผ่านการ backtest มาอย่างดี รู้ %win , payoff, expectancy , max drawdown
ข้อนี้ยังมีไม่ครบ = เล่นพนัน = เจ๊งแน่นอน ข้ออื่นไม่ต้องดูต่อ
2. Money management สำคัญมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ถึงแม้ว่าคุณจะมีข้อ 1 ที่ดีเลิศแค่ไหน ถ้าไม่มี mm ที่ดี port คุณจะไม่ไปไหน เหวี่ยงขึ้นลง วนเวียนอยู่ที่เดิม ผ่านไป 1 ปี port เท่าเดิม คุณต้องรู้ว่าควรจะเล่นด้วย gearing เท่าไหร่ที่เหมาะสมกับตัวคุณและเหมาะกับ trade setup ของคุณ รู้ว่า risk ที่เหมาะกับคุณคือเท่าไหร่ ห้าม overtrade เด็ดขาด !!!!! ไม่งั้นจะต้องออกจากตลาดก่อนวัยอันควร รู้จักการปรับ position size ในตลาดแต่ละประเภท เช่น พอตลาดเข้า sw ควรลด position ลง รู้จักการแบ่งไม้เข้า แบ่งไม้ออก ซื้อเพิ่ม ซื้อถัว (ในบางสถานการณ์ที่ทำได้) แต่ละไม้ควรจะแบ่ง position สัดส่วนเท่าไหร่
ถ้าคุณมีข้อ 1 ที่ดี + ข้อ 2 ที่ดี port คุณจะเริ่มกำไรอย่างต่อเนื่องในระยะยาวได้แล้ว บางเดือนคุณอาจจะขาดทุน แต่ผ่านไปแต่ละปี จะกำไรเป็นที่น่าพอใจแน่นอน
3. Mindset
เข้าใจธรรมชาติของตลาด ภาวะ trend,sw,trend,sw วนเวียนไปมา เข้าใจ cycle ตลาด , เข้าใจว่าช่วง sw มักจะขาดทุน ทำตามระบบให้ได้ ไม่แหกกฏ
สิ่งสำคัญมากกกกกกกกกกกกกก คือ การรอ คนส่วนใหญ่ไม่สำเร็จเพราะรอไม่เป็น ถามว่ารออะไร --> รอจนกว่าจะเกิดสัญญาณซื้อ เมื่อซื้อแล้วก็รอจนกว่าจะถึงจุดทำกำไร หรือ จุด stop loss เมื่อขายแล้วก็รอไห้เกิดสัญญาณซื้อใหม่ วนเวียนไปมาแบบนี้ บางทีอาจต้องรอหลายวันโดยไม่มี position เลย ก็ต้องอยู่เฉยๆให้เป็น หรือเมื่อมี postition แล้วก็ต้องทนรวยจนกว่าระบบจะสั่งให้ขาย การรอถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญมากในการ trade ถ้ารอไม่เป็น คันมือตลอดทุกวันก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จได้
เข้าใจว่าการแพ้เป็นส่วนหนึ่งของระบบ เมื่อขาดทุนก็ไม่รู้สึกอะไร เมื่อกำไรก็ไม่รู้สึกอะไร แค่ทำตามระบบไปเรื่อยๆ port คุณจะโตขึ้นเรื่อยๆเอง ไม่ใช่ขาดทุนติดกัน 3 ครั้ง ก็ล้มเลิกระบบ หาระบบใหม่ เป็นวงจรอุบาทว์ไปเรื่อยๆไม่จบไม่สิ้น
เมื่อไปฟังสัมมนาหรือเรียน setup จากเซียนท่านใดมาก็ตาม ไม่ใช่ทิ้งระบบของเราแล้วไปใช้ตามของเค้า พอเรียนที่ใหม่อีกก็ทิ้งอันเก่าใช้ตามอันไหม่อีก ไปเรื่อยๆ วนไปวนมา คนส่วนใหญ่เป็นแบบนี้จึงไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ซักที ที่ถูกต้องคือ ดูว่า setup แบบของเค้ามีส่วนใดที่เราจะเอามาเพิ่มเติม มาประกอบใน setup ของเรา ทำให้ setup เราดีขึ้น คมขึ้น พัฒนาขึ้นได้บ้าง ถ้าไม่มีก็วางไว้ ไม่ต้องใช้
มีการทบทวนระบบเป็นระยะ อาจจะทุก 6 เดือนหรือ 1 ปี ว่าระบบของเรายังดีอยู่หรือไม่ เพราะตลาดเปลี่ยนพฤติกรรมได้ ระบบที่เคยใช้ได้ปัจจุบัน อนาคตก็อาจใช้ไม่ได้แล้ว
ทั้งหมดนี้ถ้าคุณทำได้ ผมมั่นใจว่าคุณต้องประสบความสำเร็จในตลาด tfex ได้อย่างแน่นอน ถ้าคุณมั่นใจว่าเลือกเดินทางนี้แล้ว ก็ขอให้สู้จนกว่าจะหมดลมหายใจ เป็นกำลังใจให้นะครับ
ความคิดเห็นที่ 33
ผมก็เป็นอีกคนที่เลือกลาออกมาเทรด(แต่ของผมเป็นฟอเร็ก) ก่อนที่จะลาออกมาผลงานการเทรดก็ใช่ว่าดีซักเท่าไร บางสัปดาห์ได้ บางสัปดาห์เสีย โดยรวมๆก็ค่อยๆโตทีละนิดๆ แต่เพราะเบื๊อเบื่อที่ทำงานมวาก ประสบการณ์เทรดในตลาดฟอเร็กก็หลายปีแล้ว(ล้างพอตนับไม่ถ้วน ยังไม่คืนทุน) แต่มั่นใจจากอะไรไม่รู้ละว่าทำได้ จึงไม่ลังเลอีกต่อไป ลาออกซะเลย

เดือนแรก ต้นเดือนเทรดติดลบบาน กลางเดือนแก้พอตได้ ปลายเดือนยิ้มแก้มปริ(โอเวอร์เทรดสั้นๆทำกำไรได้ดี) ก่อนสิ้นเดือนไม่กี่วันเริ่มลบ เสียดายไม่คัตทิ้ง ผลคือล้างพอตในเวลา 2วัน

เดือนที่2 เงินเก็บที่เหลือเติมเข้าไปให้หมด ที่นี้ไม่เทรดแบบเดือนแรกละ ผลงานไม่ได้ดังใจหวัง เร่งจังหวะ(โอเวอร์เทรด) ติดลบอีก ถอนบางส่วนมาใช้จ่ายบ้าง เปลี่ยนวิธีเทรดไปอีก ผลงานไม่เกิด ก็เร่งจังหวะอีก สภาพจิตใจแย่ลง(ทั้งเกิดจากตนเอง และคนรอบข้าง) ประคับประคองเรื่อยมา
สุดท้ายก็เจ๊งในอีก 4เดือนต่อมา จนตอนนี้ต้องไปสมัครงานทำใหม่ เงินน้อยกว่าเดิมหลายพันก็ต้องทำ เพราะอายุไม่น้อยแล้ว

สาเหตุของการล้างพอต ก็เหมือนกับความคิดเห็นข้างบนนั่นละครับ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ผมเกลียดมันและจะเลิกเทรด(ถึงแม้จะเคยคิดก็เถอะ) ตอนนี้ผมกลับรู้สึกชอบมันนะ อยากเอาชนะมันให้ได้ อยากสำเร็จกับมันให้ได้ รู้สึกว่ามันช่วยพัฒนาตัวเราทางอ้อมนะ เชื่อว่าวันใดที่สำเร็จ เราจะเป็นที่คนใหม่ที่ดีขึ้นกว่าวันนี้แน่นอน

เชื่อว่าเจ้าของกระทู้คงมีความฝันบางอย่างที่ทำให้เลือกมาเส้นทางนี้ ผมยังถือว่าอ่อนหัดนัก
บอกได้เพียงว่าเส้นทางนี้มันพิเศษ มันไม่ธรรมดา มันยากลำบาก แต่ก็มีคนที่สำเร็จได้นี่นะ เราจะทำไม่ได้จริงน่ะหรือ ...ไม่มีคำว่าล้มเหลว มีแต่ล้มเลิกตะหาก(ไว้เตือนตัวผมเอง ^^) จงอย่าสิ้นศรัทธาในตัวเอง (นี่ก็เตือนตัวเองอีกน่ะแหละ ^^)

ขอแชร์ประสบการณ์เล็กๆน้อยๆของเทรดเดอร์ตัวเล็กๆ หากไปขัดความรู้สึกท่านใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ...สู้ๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่