ตระเวนเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเชียงใหม่ต่อเมืองลี้ ตอนที่ 3







              รอบนี้กลับมารีวิวกระทู้ขี่รถเที่ยวในประเทศกันต่อ  หลังจากว่างเว้นไม่เขียนต่อมานาน  คราวนี้เป็นการมาเล่าประสบการณ์และเรื่องราวของสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมตระเวนขี่รถไปเที่ยวมาในอำเภอลี้   จังหวัดลำพูน  ซึ่งเป็นการเดินทางท่องเที่ยวเป็นวันที่  6  ของทริปตระเวนเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเชียงใหม่ต่อเมืองลี้แล้วนะครับ

              ก่อนอื่นไปดูโปรแกรมการท่องเที่ยวในทริปนี้ของผม  8  วันกันก่อนว่าผมไปเที่ยวไหนกันบ้าง
                    วันแรก   :  เดินทางไปเชียงใหม่  เที่ยวย่านตัวเมืองเชียงใหม่และสันกำแพง
                    วันที่  2  :  เที่ยวย่านอำเภอแม่แตง
                    วันที่  3  :  เที่ยวขุนแปะ และน้ำตกบริเวณทางขึ้นดอยอินทนนท์
                    วันที่  4  :  เที่ยวดอยอินทนนท์
                    วันที่  5  :  เที่ยวย่านแม่แจ่มและฮอด
                    วันที่  6  :  เที่ยวย่านเมืองลี้
                    วันที่  7  :  เที่ยวย่านแม่ริม และเก็บตกขากลับ
                    วันที่  8  :  เที่ยวห้วยตึงเฒ่า  และเดินทางกลับ

วันที่  6  :  เที่ยวย่านเมืองลี้
                    เมืองลี้เป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่อยู่ตอนใต้สุดของจังหวัดลำพูน   เมืองที่ผมใฝ่ฝันอยากมาเที่ยวชมสักครั้ง  ผมให้นิยามของเมืองนี้ว่า  "เมืองแห่งธรรมะและธรรมชาติ"   เมืองที่มี  2  ธรรมในเมืองเดียวกัน เรียกว่าครบเครื่องของการเที่ยวจริง ๆ   



                    ถามว่าไปเมืองลี้   ไปดูอะไรดี......  

                   สำหรับผมคิดว่าบรรยากาศความเรียบง่ายผู้คนไม่เยอะจนจอแจ  ทำให้เราสามารถดื่มด่ำกับอรรถรสในชื่นชมงานศิลปกรรมของวัดวาอารามสไตล์ทางเหนือ  การอิ่มใจในการทำบุญไหว้พระ  และผ่อนคลายไปกับวิวธรรมชาติที่น่ารื่นรมย์   อันนี้ผมว่าเป็นเสน่ห์ของเมืองเล็ก ๆ อย่างลี้ที่อาจหาได้ยากในเมืองใหญ่ ๆ ที่กลายเป็นจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไปแล้ว

                    สำหรับผมคิดว่า  7  สถานที่ที่เป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดชมเมื่อมาถึงเมืองลี้   มีดังแผนที่นี้ครับ   


                  
                    วันนี้ผมออกเดินทางจากที่พักราว  9  โมงเช้า   จุดหมายแรกที่แวะไปชมคือ  วัดพระธาตุดวงเดียว   วัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองลี้มาช้านานที่อยู่ใกล้ ๆ กับโรงแรมที่ผมพักนั่นเอง



                    ผมจอดรถไว้หน้าพระอุโบสถหลังสีทองที่สร้างขึ้นใหม่ของวัด  แล้วเดินเข้าไปสักการะพระธาตุดวงเดียวที่อยู่ภายในระเบียงคด   พระธาตุดวงเดียวเป็นพระธาตุเก่าแก่ที่เชื่อว่ามีมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรหริภัญชัย



                    ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุองค์นี้สร้างขึ้นพระราชดำริของพระนางจามเทวี  ปฐมกษัตริย์ของอาณาจักรหริภุญชัย     เมื่อครั้งที่พระนางได้หนีภัยสงครามจากหลวงพระบาง  พระนางได้มาสร้างเมืองอีกแห่งที่เมืองลี้  แล้วตั้งสัจจะอธิษฐานว่า ถ้าจะได้สร้างเมืองที่นี่จริงๆ  เพื่อเป็นที่ลี้ภัย   ก็ขออำนาจเทพยดาดลจิต  นำพญาช้างคู่บุญไปแสวงหาที่ตั้งบ้านเมืองด้วยเถิด เทพเทวาได้ดลใจให้พญาช้างขึ้นไปตามห้วยแม่แต๊ะที่มีแสงแดดสาดส่อง และได้พบกับลูกแก้วลอยออกจากจอมปลวกใหญ่ มีแสงสว่างทั่วบริเวณนั้น ลอยออกไปและกลับมาอยู่ถึงห้าครั้งในค่ำคืนนั้น   ระหว่างบริเวณวัดพระธาตุดวงเดียวและวัดพระธาตุห้าดวงในปัจจุบัน   พระนางจามเทวีจึงถือเอานิมิตหมายอันดีนี้  สร้างพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นเมืองและวัดขึ้นในยุคนั้น




                     ส่วนรูปแบบขององค์พระธาตุดวงเดียวที่เห็นในปัจจุบันล้วนผ่านการสร้างและบูรณะใหม่มาแล้วในยุคที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยและลูกศิษย์ได้เข้ามาบุกเบิกพัฒนาวัดนี้ขึ้น   ลักษณะของพระธาตุจึงคล้ายกับพระธาตุหริภุญชัยเพราะเป็นการจำลองแบบมาสร้างต่อนั่นเอง




                     ผมช่วงสาย ๆ  ไม่ค่อยเจอใครเข้ามาชมวัดกันสักเท่าไหร่   ผมเลยถือโอกาสเดินชมรอบพระธาตุไปเรื่อย ๆ และทำบุญที่วัดนี้สักหน่อย  เป็นการเสริมสิริมงคลให้กับตัวเองสำหรับกับการเริ่มต้นเที่ยวชมสถานที่แรกของเมืองลี้ในวันนี้    ที่นี่ใช้เวลาชม  30 - 40  นาทีก็เพียงพอนะครับ



                     ต่อมาแวะไปสักการะ  พระธาตุห้าดวง   ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับวัดพระธาตุดวงเดียว   เสียดายว่าตอนผมไปชมพระธาตุองค์นี้กำลังได้รับการบูรณะซ่อมแซมอยู่  เลยมีนั่งร้านปกคลุมทั่วองค์พระธาตุไปหมด  บดบังความงามที่ควรจะได้เห็นไปเลย




                      หากมาชมพระธาตุตอนที่ยังไม่ได้บูรณะ  จะมีสภาพสวยงามดังภาพที่เห็น



                      ตามประวัติกล่าวว่าพระธาตุองค์นี้สร้างพร้อม ๆ กับพระธาตุดวงเดียวองค์เก่าโดยสร้างขึ้นจากพระราชดำริของพระนางจามเทวีของอาณาจักรหริภุญชัย   พระนางทรงได้ยินข่าวจากราษฎรเมืองลี้ว่า มีดวงแก้ว 5 ดวง ปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง จึงได้เสด็จเดินทางมาดูด้วยพระองค์เอง ในเวลากลางคืนและได้ทอดพระเนตรเห็นแสงสว่างจากดวงแก้ว ทั้งห้าดวงลอยอยู่บนกองดิน 5 กอง  จึงได้สอบถามความเป็นมาและทราบว่าคือ พระเมโตธาตุ (น้ำไคลมือ) ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เคยล้างพระหัตถ์ และน้ำไหลผ่านปลายนิ้วทั้ง 5 ลงพื้นดิน พระนางจึงเกิดความศรัทธาและได้สร้างพระธาตุเจดีย์ครอบกองดินทั้ง 5 กองไว้ 




                       ต่อมาพระธาตุองค์นี้ก็ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมา   โดยทุกวันที่ 20 ของเดือนเมษายนทุกปี จะมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุห้าดวง เพื่อแสดงถึงว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่องค์พระประทีปแก้วได้เคยเสด็จมาส่องแสงจรัสจ้าเป็นประทีปส่องนำปัญญาแก่ชาวบ้านผู้ที่พบเห็น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่