เริ่มต้นการเดินทาง (23กพ.) เราบินออกจากไทย ราว5โมงเย็น จากสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบิน S7 ใช้เวลาเดินทางราว6-7ชม.



:




สายการบิน S7 ราคาจะรวมอาหารให้ด้วย
:
ก็ถึงอีร์คุตสค์ เที่ยงคืนกว่าของอีกวันแล้ว ซึ่งเวลาที่นี้ จะเร็วกว่าไทย ราว1ชั่วโมง  





ที่สนามบินอีร์คุตส์ เป็นสนามบินขนาดเล็ก จึงไม่มีงวงช้างสำหรับเชื่อมต่ออาคารผู้โดยสาร พอลงจากเครื่องมาปุ๊บ ก็ไดรับการต้อนรับด้วยความเย็น-16องศา

**ที่สนามบินอีร์คุตสค์ ไม่มีที่แลกเงิน แนะนำควรแลกมาจากไทยเลยจะดีกว่า ผมแลกมาจากไทยอัตราแลก 1รูเบิล = 0.495บ. หรือคำนวณง่ายๆ คือหาร2


:
หลังจากผ่านตม.มาเรียบร้อย ก็ออกมารับกระเป๋า แล้วเดินออกมาจากสนามบินไปยังที่พัก Hostel Bravo ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน ราว200ม.







เราเดินฝ่าความหนาวกับอุณหภูมิ-16องศา ซึ่งห้องพักที่นี้ ราคา800รูเบิล/คืน (ราว400บ.)







แต่พอเข้าอาคารเท่านั้นแหละ อุณหภูมิจะอยู่ราว20-25องศา เนื่องจากภายในอาคารจะมีฮิตเตอร์ทุกจุดนั้นเอง คืนนี้ส่วนตัว กว่าผมจะเข้านอนก็ตี3กว่า

ปลั๊กไฟที่นี้จะเป็นแบบนี้
  
ถอดนาฬิกาวัดอุณหภูมิในห้อง
:
:
#เช้าวันแรก (24กพ.) ที่ อีร์คุตสค์ กว่าพระอาทิตย์จะขึ้นก็ราว8โมง กับอุณหภูมิราว-15องศา เช๊คเอ้าท์ออกที่พัก แล้วเดินทางโดยรถบัส ทริปนี้เราได้ไกด์ Max Oksyutik เป็นคนดูแล




:









แล้วแวะกินมื้อเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ในราคา450รูเบิล/คน พอกินอิ่ม ก็เดินทางกันต่อไปยัง เกาะโอลคอน Olkhon Island  นั่งรถได้ราว2-3ชั่วโมง ก็แวะกินมื้อเที่ยงช่วงบ่าย











แต่มื้อเที่ยงกว่าจะกินกันเสร็จ ก็บ่าย3โมงกว่า เพราะใช้เวลาในการทำอาหารค่อนข้างนาน บวกกับมีคณะที่มากินก่อนหน้าเราด้วย เลยทำให้เสียเวลาค่อนข้างนาน

แล้วนั่งรถบัสต่อมาอีก เพื่อเปลี่ยนรถ เพราะต่อจากนี้รถจะต้องวิ่งบนทะเลสาปไบคาลที่เป็นน้ำแข็ง รถคันหนึ่งสามารถนั่งได้6-8คน







ระหว่างทาง...รถก็แวะจอดให้พวกเราได้ถ่ายรูปกับพื้นที่เป็นน้ำแข็ง ถือเป็นครั้งแรกที่เราจะได้ถ่ายรูปบนพื้นน้ำแข็ง ที่ทะเลสาปไบคาล





:






กว่าเราจะเดินทางถึงที่พักตรงเกาะโอลคอน ก็17:30แล้ว โดยห้องที่พักของกลุ่มเราก็จะนอนกระจัดกระจายกันในบ้านแต่ละหลัง ซึ่งไม่ได้อยู่รวมกลุ่มกันในหลังเดียว ไกด์นัดกินมื้อค่ำ ตอน1ทุ่ม







ซึ่งกว่าจะเอาของเข้าห้องเรียบร้อยก็ 6โมงเย็น ผมกับดิ๋มเห็นว่าพอมีเวลา จึงตัดสินใจเดินไปดูบรรยากาศแสงเย็น ที่ Sharman Rock และ Baikal Spirit ซึ่งเป็นแท่งไม้ที่ตั้งเรียงราย แสดงถึงจิตวิญญานของคนท้องถิ่นที่นี้ เพราะเดินออกไปทางด้านหลังที่พัก อีกราว15นาที






:





:




วิวที่นี้ถือว่าสวยใช้ได้เลย แต่เนื่องจากเรามีเวลาไม่มากในการเดินชม จึงเก็บภาพอะไรไม่ได้มากนัก ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว แต่ไม่เป็นไร เรานอนที่เกาะโอลคอน ถึง3คืน เลยยังมีเวลาอีก2วัน แล้วเดินกลับมายังที่พักเพื่อกินมื้อค่ำ แบบบุฟเฟ่ต์












ก่อนกลับก็เข้าห้องพัก พี่แอนกับพี่ม่ง ก็ชวนไปนั่งร้านเครื่องดื่มใกล้กันก่อน ซึ่งพี่โม่จะหาที่กินเบียร์สักหน่อย ส่วนดิ๋มก็สั่งโกโก้ร้อนมากินก่อนนอน




คืนนี้อุณหภูมิ-16องศา ซึ่งภายในที่พักจะมีฮิตเตอร์ ทั้งตรงที่นอน และ ห้องน้ำ รวมถึงห้องน้ำ ก็มีน้ำอุ่นให้อาบน้ำอย่างสบาย เลยทำให้ไม่มีความรู้สึกหนาว ในห้องอุณหภูมิจะอยู่ ราว22-25องศา
:
:
#######