..............เวลาผ่านมาถึงเที่ยงคืน เสียงนกป่าชนิดหนึ่งดังแว่วมาให้ความรู้สึกเย็นยะเยือก เดชอาการดีขึ้น พอตื่นมาท้องว่างกระเพาะมันเริ่มเรียกร้องหาอาหาร จึงลุกขึ้นมาคุ้ยเขี่ยกองไฟเพราะเคยเห็นพรรคพวกเอามันใส่ไว้ สำหรับพวกอยู่ยามกิน
นกประหลาดบินโฉบลงไปในป่าละเมาะ หนึ่งในนั้นมีต้นกล้วยขึ้นอยู่เป็นกอใหญ่ นกหายเข้าไปพลันมีร่างเงาสีดำเดินออกมาคล้ายหมีใหญ่ ดวงตาของมันสีแดงคุกรุ่น เดชไม่ทันกินมันเผา อ้าปากค้างได้ยินเสียงแปลกๆ จึงฉายไฟลงไป เห็นกล้วยทั้งเครือสุกเหลืองอร่าม ทำเอากลืนน้ำลายดึงอึก ด้วยนิสัยตะกละตะกลาม ตอนแดดสว่างทำไมไม่ยักเห็นกล้วย แต่นิสัยของเดชไม่เก็บมาคิดอยู่แล้ว เดินออกจากที่พักทันที จังหวะที่พวกอยู่ยามเดินฉายไฟไปทางอื่น ทางลาดชันเดชเดินล้มใช้มือค้ำไว้ ร้องโอ๊ย! รีบสลัดๆ มือเพราะโดนหนามตำ
ป่าเบื้องล่างคล้ายก้นหุบที่มีซากพืชซากสัตว์เปื่อยเน่าทับถม ไม่มีต้นไม้ชนิดใดขึ้นได้นอกจากต้นกล้วยต้นเดียว เดชยืนงง ข้างล่างนี้แปลก รู้สึกอุ่นจนร้อน เห็นเปลวไฟสีฟ้าลุกพรึ่บ! ลามเลียดไปบนพื้น ติดๆ ดับๆ คล้ายแก๊สในเตาไฟ แต่จะสนใจไปใยในเมื่อมาหาของกิน ตอนนี้เห็นหญิงสาวแต่งกายเสื้อแขนกระบอกคอกลม นุ่งผ้าซิ่นคล้ายคนโบราณ เพียงแต่เห็นใบหน้าได้ไม่ชัดนัก เธอยืนนิ่งไม่ไหวติง เดชไม่ใช่คนเจ้าชู้ไม่เกี้ยวหญิง สนใจแต่อาหารใส่ปากท้องเท่านั้น
“พี่สาว ทำไมไปยืนอยู่คนเดียวตรงนั้นมืดๆ”
แม้เดชร้องถามไป หญิงสาวประหลาดยังยืนนิ่ง ในท่ามกลางความมืดอันน่าวังเวง ความหิวทำให้เดชชี้ไปที่กล้วยสุกแล้วเอ่ยปากขอแล้วต้องขมวดคิ้ว แสงไฟฉายไม่สว่างหรือไง ทำไมเห็นหน้าพี่สาวไม่ชัด พอก้าวเข้ามาใกล้ข้อเข่ามันแทบพับล้มลง ร่างนั้นกลับกลายเป็นหญิงแก่ เส้นผมที่ดำเงางามมันฟูกระเซิงขาวโพลน ผิวหน้าเหี่ยวย่น ดวงตาแดงก่ำเหมือนช้ำด้วยเลือด ปากอ้ากว้างเขี้ยวในปากยาวแหลม เดชร้องเรียกผีปอบ! ตัวแข็งแทบขยับตัวไม่ได้ ไม่มีแรงจะขยับตัวหนีราวกับต้องมนต์สะกด นิ้วมือที่ยาวเหมือนกรงเล็บอีแร้งยกมาหมายคว้าคอ
“ถอยไป ไอ้เด็กบ้า!”
มีมือคว้ามาจากด้านหลัง เล่าอูนั่นเองที่ย่องตามมาเพราะได้ยินเสียงเดชตอนล้มโดนหนามตำ มีดเดินป่าในมือเล่าอูฟันลงไปเต็มแรงเสียงดังสับ
กรี๊ดดด!!!
“นังแก่แร้งทึ้ง คิดอยากได้ผัวเด็กรึไง เอากูไปแทนมะ!”
คลิปกับนิยายไม่เกี่ยวข้องกัน ขอฝากกดติดตาม กดเเชร์ด้วยนะครับ
ดวงใจในไพรเถื่อน ตอน หลงป่า
นกประหลาดบินโฉบลงไปในป่าละเมาะ หนึ่งในนั้นมีต้นกล้วยขึ้นอยู่เป็นกอใหญ่ นกหายเข้าไปพลันมีร่างเงาสีดำเดินออกมาคล้ายหมีใหญ่ ดวงตาของมันสีแดงคุกรุ่น เดชไม่ทันกินมันเผา อ้าปากค้างได้ยินเสียงแปลกๆ จึงฉายไฟลงไป เห็นกล้วยทั้งเครือสุกเหลืองอร่าม ทำเอากลืนน้ำลายดึงอึก ด้วยนิสัยตะกละตะกลาม ตอนแดดสว่างทำไมไม่ยักเห็นกล้วย แต่นิสัยของเดชไม่เก็บมาคิดอยู่แล้ว เดินออกจากที่พักทันที จังหวะที่พวกอยู่ยามเดินฉายไฟไปทางอื่น ทางลาดชันเดชเดินล้มใช้มือค้ำไว้ ร้องโอ๊ย! รีบสลัดๆ มือเพราะโดนหนามตำ
ป่าเบื้องล่างคล้ายก้นหุบที่มีซากพืชซากสัตว์เปื่อยเน่าทับถม ไม่มีต้นไม้ชนิดใดขึ้นได้นอกจากต้นกล้วยต้นเดียว เดชยืนงง ข้างล่างนี้แปลก รู้สึกอุ่นจนร้อน เห็นเปลวไฟสีฟ้าลุกพรึ่บ! ลามเลียดไปบนพื้น ติดๆ ดับๆ คล้ายแก๊สในเตาไฟ แต่จะสนใจไปใยในเมื่อมาหาของกิน ตอนนี้เห็นหญิงสาวแต่งกายเสื้อแขนกระบอกคอกลม นุ่งผ้าซิ่นคล้ายคนโบราณ เพียงแต่เห็นใบหน้าได้ไม่ชัดนัก เธอยืนนิ่งไม่ไหวติง เดชไม่ใช่คนเจ้าชู้ไม่เกี้ยวหญิง สนใจแต่อาหารใส่ปากท้องเท่านั้น
“พี่สาว ทำไมไปยืนอยู่คนเดียวตรงนั้นมืดๆ”
แม้เดชร้องถามไป หญิงสาวประหลาดยังยืนนิ่ง ในท่ามกลางความมืดอันน่าวังเวง ความหิวทำให้เดชชี้ไปที่กล้วยสุกแล้วเอ่ยปากขอแล้วต้องขมวดคิ้ว แสงไฟฉายไม่สว่างหรือไง ทำไมเห็นหน้าพี่สาวไม่ชัด พอก้าวเข้ามาใกล้ข้อเข่ามันแทบพับล้มลง ร่างนั้นกลับกลายเป็นหญิงแก่ เส้นผมที่ดำเงางามมันฟูกระเซิงขาวโพลน ผิวหน้าเหี่ยวย่น ดวงตาแดงก่ำเหมือนช้ำด้วยเลือด ปากอ้ากว้างเขี้ยวในปากยาวแหลม เดชร้องเรียกผีปอบ! ตัวแข็งแทบขยับตัวไม่ได้ ไม่มีแรงจะขยับตัวหนีราวกับต้องมนต์สะกด นิ้วมือที่ยาวเหมือนกรงเล็บอีแร้งยกมาหมายคว้าคอ
“ถอยไป ไอ้เด็กบ้า!”
มีมือคว้ามาจากด้านหลัง เล่าอูนั่นเองที่ย่องตามมาเพราะได้ยินเสียงเดชตอนล้มโดนหนามตำ มีดเดินป่าในมือเล่าอูฟันลงไปเต็มแรงเสียงดังสับ
กรี๊ดดด!!!
“นังแก่แร้งทึ้ง คิดอยากได้ผัวเด็กรึไง เอากูไปแทนมะ!”