●● ผู้ว่าฯ ภูเก็ตเซ็นคำสั่งปิดโรงแรมชั่วคราว... เริ่ม 4 เม.ย.63 นี้ ●●
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ลงนามในคำสั่งปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
หรือโรคโควิด-19
โดยมีคำสั่งให้ปิดโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติโรงแรม
พ.ศ. 2547 ทุกประเภท และสถานประกอบการในลักษณะเดียวกัน ยกเว้นโรงแรมซึ่งทางราชการใช้เป็นโรงพยาบาล
สนาม หรือสถานที่พักเพื่อสังเกตอาการ หรือใช้เพื่อประโยชน์อื่นใดในทางราชการ ในการแก้ไขปัญหาตามมาตรการ
เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดจากโรคโควิด-19
สำหรับโรงแรมที่มีผู้เข้าพักอยู่ก่อนที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ ให้พักต่อไปจนกว่าผู้เข้าพักจะแจ้งออกจากห้องพักจนหมด
แล้วให้ปิดทันทีโดยไม่ให้มีการรับผู้เข้าพักเพิ่มอีก
ทั้งนี้ ให้โรงแรมที่ยังมีนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางเข้าพักอยู่ ต้องแจ้งจำนวนและรายชื่อผู้เข้าพักให้ที่ทำการปกครอง
อำเภอทราบ เพื่อตรวจคัดกรองผู้เข้าพักทุกคน หากผู้เข้าพักคนใดมีอาการเข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด-19
จะต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการ ยังสถานที่ที่จังหวัดกำหนด
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ จะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1)
โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนนี้ เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
Cr.
https://mgronline.com/uptodate/detail/9630000034258
●● ผู้ว่าฯ ภูเก็ตเซ็นคำสั่งปิดโรงแรมชั่วคราว... เริ่ม 4 เม.ย.63 นี้ ●●
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ลงนามในคำสั่งปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
หรือโรคโควิด-19
โดยมีคำสั่งให้ปิดโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติโรงแรม
พ.ศ. 2547 ทุกประเภท และสถานประกอบการในลักษณะเดียวกัน ยกเว้นโรงแรมซึ่งทางราชการใช้เป็นโรงพยาบาล
สนาม หรือสถานที่พักเพื่อสังเกตอาการ หรือใช้เพื่อประโยชน์อื่นใดในทางราชการ ในการแก้ไขปัญหาตามมาตรการ
เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดจากโรคโควิด-19
สำหรับโรงแรมที่มีผู้เข้าพักอยู่ก่อนที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ ให้พักต่อไปจนกว่าผู้เข้าพักจะแจ้งออกจากห้องพักจนหมด
แล้วให้ปิดทันทีโดยไม่ให้มีการรับผู้เข้าพักเพิ่มอีก
ทั้งนี้ ให้โรงแรมที่ยังมีนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางเข้าพักอยู่ ต้องแจ้งจำนวนและรายชื่อผู้เข้าพักให้ที่ทำการปกครอง
อำเภอทราบ เพื่อตรวจคัดกรองผู้เข้าพักทุกคน หากผู้เข้าพักคนใดมีอาการเข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด-19
จะต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการ ยังสถานที่ที่จังหวัดกำหนด
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ จะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1)
โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนนี้ เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
Cr.https://mgronline.com/uptodate/detail/9630000034258