หากผู้ใดควบคุมห้วงเวลาได้ ผู้นั้นย่อมมีอำนาจเหนือคนทั้งปวง
แม้แต่ได้รับรู้ห้วงเวลาเป็นเพียงชั่วคราวหรือการระลึกชาตินั้น
ย่อมมีความพิเศษเหนือคนทั่วไป ที่สามารถรู้และบิดเบือนเรื่องราวในเวลาได้
แต่ใครจะรู้ว่าอำนาจที่มีมา อาจเป็นอำนาจของเล่ห์บรรพกาลกำหนดแล้ว
เล่ห์บรรพกาลฉบับละครของบริษัททีวีซีน จากนิยายของวรรณวรรธน์
เรื่องราวของหลาบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกันตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน
การสืบสวนตามหาเทวรูปกับผู้ที่ถูกเลือก และการกลับชาติมาเกิดถูกผูกเป็นเรื่องราว
ซึ่งมีความสนใจ แต่ก็ต้องรับว่าหลายคนเห็นเรื่องนี้แล้วคงไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไร
เพราะบางคนคิดว่าเป็นละครข้ามภพข้ามชาติที่ยังผลิตกันมาเรื่อย ๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่
ที่ทุกคนเดาได้ว่าอะไรเป็นอะไร ตามที่เคยดูจนชินตา
แต่ส่วนตัวสนใจเพราะครั้งนี้สารของเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่อง การกลับชาติมาเกิด หรือองค์เทวรูป
แต่เป็นเรื่องของ เวลา ที่ผูกกับทุกตัวละครและเชื่อมโยงกับเรื่องความรัก
และเป็นอีกครั้งที่ทีวีซีนดัดแปลงเรื่องราวเพื่อเป็นละครได้ตอบโจทย์ทุกกลุ่มที่จะดูเรื่องนี้
เรื่องนี้จะดูยากก็เหมือนยากเพราะเชื่อมโยงกันยุ่งเหยิง
แต่บางคนก็คิดว่าเป็นละครใหญ่แต่โครง ที่เดาตัวละครได้ว่าเป็นความรักความแค้นแบบเดิม ๆ
ประตูการเปิดรับละครเรื่องนี้เลยบอกไม่ถูก แต่คนที่ติดตามดูเรื่องนี้ก็คงสนุกสนานที่ดู
เรื่องราวของเรื่องเริ่มจากปัจจุบันแล้วย้อนไปอีก 2 ยุค
แต่จริงแล้วมันเริ่มจากตัวละคร ขุนอุทัยโยทิน
ที่มีความสามารถที่ติดตัวมาในการระลึกตัวตนในอดีตของการเป็นท้าววาริ
และทราบกาลอนาคตของการเป็นเพลิงฟ้า
ที่มีชะตาร่วมกับ 3 ตัวละครที่เป็น คู่แข่ง / คู่แค้น / คู่รัก ของตัวเองที่ตามกันมาทุกภพชาติ
ทีวีซีนเปิดแบบหมดเปลือกว่านักแสดงเล่นเป็นตัวละครชื่ออะไรบ้างในแต่ละยุค
เป็นการวัดใจของคนที่ดูว่าเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป
แต่สิ่งที่ดีคือนักแสดงที่ได้รับเล่นเรื่องนี้ จะมีบุคลิกที่แตกต่างกันทั้งการแสดงและรูปลักษณ์
และเป็นการเอานักแสดง 4 คนมารับบทที่ท้าทายทัดเทียมกัน
บูม สุภาพร กับบทบาทหลากหลายอารมณ์เข้มข้นและจัดจ้านในการแสดง
ป๋อ ณัฐวุฒิ กับบทบาทท้าทายทั้งรูปลักษณ์และการแสดงไม่สามารถคาดเดาได้
เจมส์ จิ และ แต้ว ณฐพร ที่รับหน้าที่ตัวเดินเรื่องและคู่สนทนา
และบทบาทที่หลากหลายรูปลักษณ์และลักษณะนิสัย และใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การสืบสวนตามหาปริศนาที่อาจไม่เคร่งเครียดมากมีความรักสดใส ตลก แทรกมาเป็นระยะ
และแข่งขันกับเวลาการสูญเสียของผู้ที่ถูกเลือก ตัดอารมณ์กันได้พอดิบพอดี
และเรื่องราวของแต่ละยุคสมัยที่ชัดเจนในการให้เวลาคนดูที่จะเรียนรู้เรื่องราว
ทั้งที่เป็นเรื่องตัดต่อยากแต่กลับไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ อาจจะมีความหน่วงของการเปลี่ยนช่วงเวลาบ้าง
ถือว่างานสร้างของทีวีซีนเรื่องนี้ทำออกมาได้ดี ตอบโจทย์คนดูได้ครบ
รวมถึงสารของความรักระหว่างตัวละครหลักก็มีความรักทั้งแท้ และการหลอกลวง
ซึ่งยังไม่สามารถไปบ่งแน่ชัดว่าเป็นอย่างนั้นหรือไม่ เพราะยังไม่ถึงเวลาแห่งการเฉลย
ในวันนี้จะเริ่มเข้าสู่ภพอดีตกาลจุดเริ่มต้นของทุกอย่างในเรื่อง
ตัวละคร ท้าวราวิ นางพญาศศินา ท้าววาร นางทิณสรี จะมีเรื่องราวอย่างไร
เล่ห์บรรพกาลนั้นเป็นอย่างไร ปริศนานี้คงรอการเฉลย
แต่ที่แน่นอนไม่ว่าจะเป็น ขุนอุทัยโยธิน ดวงแข / เพลิงฟ้า ตัวไหน / ท้าวราวิ นางพญาศศินา
ไม่ว่าจะกี่ภพชาติความรักของพวกเขาก็ยังเหมือนเดิม เป็นรักที่ไม่มีวันตาย
แม้การบิดเบือนของกาลเวลาก็ทำอะไรไม่ได้
เล่ห์บรรพกาล ความรักแม้กาลเวลาก็บิดเบือนไม่ได้ที่ทีวีซีนทำได้ดีจริง ๆ
แม้แต่ได้รับรู้ห้วงเวลาเป็นเพียงชั่วคราวหรือการระลึกชาตินั้น
ย่อมมีความพิเศษเหนือคนทั่วไป ที่สามารถรู้และบิดเบือนเรื่องราวในเวลาได้
แต่ใครจะรู้ว่าอำนาจที่มีมา อาจเป็นอำนาจของเล่ห์บรรพกาลกำหนดแล้ว
เล่ห์บรรพกาลฉบับละครของบริษัททีวีซีน จากนิยายของวรรณวรรธน์
เรื่องราวของหลาบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกันตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน
การสืบสวนตามหาเทวรูปกับผู้ที่ถูกเลือก และการกลับชาติมาเกิดถูกผูกเป็นเรื่องราว
ซึ่งมีความสนใจ แต่ก็ต้องรับว่าหลายคนเห็นเรื่องนี้แล้วคงไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไร
เพราะบางคนคิดว่าเป็นละครข้ามภพข้ามชาติที่ยังผลิตกันมาเรื่อย ๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่
ที่ทุกคนเดาได้ว่าอะไรเป็นอะไร ตามที่เคยดูจนชินตา
แต่ส่วนตัวสนใจเพราะครั้งนี้สารของเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่อง การกลับชาติมาเกิด หรือองค์เทวรูป
แต่เป็นเรื่องของ เวลา ที่ผูกกับทุกตัวละครและเชื่อมโยงกับเรื่องความรัก
และเป็นอีกครั้งที่ทีวีซีนดัดแปลงเรื่องราวเพื่อเป็นละครได้ตอบโจทย์ทุกกลุ่มที่จะดูเรื่องนี้
เรื่องนี้จะดูยากก็เหมือนยากเพราะเชื่อมโยงกันยุ่งเหยิง
แต่บางคนก็คิดว่าเป็นละครใหญ่แต่โครง ที่เดาตัวละครได้ว่าเป็นความรักความแค้นแบบเดิม ๆ
ประตูการเปิดรับละครเรื่องนี้เลยบอกไม่ถูก แต่คนที่ติดตามดูเรื่องนี้ก็คงสนุกสนานที่ดู
เรื่องราวของเรื่องเริ่มจากปัจจุบันแล้วย้อนไปอีก 2 ยุค
แต่จริงแล้วมันเริ่มจากตัวละคร ขุนอุทัยโยทิน
ที่มีความสามารถที่ติดตัวมาในการระลึกตัวตนในอดีตของการเป็นท้าววาริ
และทราบกาลอนาคตของการเป็นเพลิงฟ้า
ที่มีชะตาร่วมกับ 3 ตัวละครที่เป็น คู่แข่ง / คู่แค้น / คู่รัก ของตัวเองที่ตามกันมาทุกภพชาติ
ทีวีซีนเปิดแบบหมดเปลือกว่านักแสดงเล่นเป็นตัวละครชื่ออะไรบ้างในแต่ละยุค
เป็นการวัดใจของคนที่ดูว่าเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป
แต่สิ่งที่ดีคือนักแสดงที่ได้รับเล่นเรื่องนี้ จะมีบุคลิกที่แตกต่างกันทั้งการแสดงและรูปลักษณ์
และเป็นการเอานักแสดง 4 คนมารับบทที่ท้าทายทัดเทียมกัน
บูม สุภาพร กับบทบาทหลากหลายอารมณ์เข้มข้นและจัดจ้านในการแสดง
ป๋อ ณัฐวุฒิ กับบทบาทท้าทายทั้งรูปลักษณ์และการแสดงไม่สามารถคาดเดาได้
เจมส์ จิ และ แต้ว ณฐพร ที่รับหน้าที่ตัวเดินเรื่องและคู่สนทนา
และบทบาทที่หลากหลายรูปลักษณ์และลักษณะนิสัย และใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การสืบสวนตามหาปริศนาที่อาจไม่เคร่งเครียดมากมีความรักสดใส ตลก แทรกมาเป็นระยะ
และแข่งขันกับเวลาการสูญเสียของผู้ที่ถูกเลือก ตัดอารมณ์กันได้พอดิบพอดี
และเรื่องราวของแต่ละยุคสมัยที่ชัดเจนในการให้เวลาคนดูที่จะเรียนรู้เรื่องราว
ทั้งที่เป็นเรื่องตัดต่อยากแต่กลับไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ อาจจะมีความหน่วงของการเปลี่ยนช่วงเวลาบ้าง
ถือว่างานสร้างของทีวีซีนเรื่องนี้ทำออกมาได้ดี ตอบโจทย์คนดูได้ครบ
รวมถึงสารของความรักระหว่างตัวละครหลักก็มีความรักทั้งแท้ และการหลอกลวง
ซึ่งยังไม่สามารถไปบ่งแน่ชัดว่าเป็นอย่างนั้นหรือไม่ เพราะยังไม่ถึงเวลาแห่งการเฉลย
ในวันนี้จะเริ่มเข้าสู่ภพอดีตกาลจุดเริ่มต้นของทุกอย่างในเรื่อง
ตัวละคร ท้าวราวิ นางพญาศศินา ท้าววาร นางทิณสรี จะมีเรื่องราวอย่างไร
เล่ห์บรรพกาลนั้นเป็นอย่างไร ปริศนานี้คงรอการเฉลย
แต่ที่แน่นอนไม่ว่าจะเป็น ขุนอุทัยโยธิน ดวงแข / เพลิงฟ้า ตัวไหน / ท้าวราวิ นางพญาศศินา
ไม่ว่าจะกี่ภพชาติความรักของพวกเขาก็ยังเหมือนเดิม เป็นรักที่ไม่มีวันตาย
แม้การบิดเบือนของกาลเวลาก็ทำอะไรไม่ได้