ก็มีออกมาแล้วนะ (แพงชิบเป๋ง) แต่ก็พออ่านได้รอ NED ออกตามสัญญาใจ
เรื่องนี้เหมือนสะท้อนทัศนะคติของอุราซาวะหลาย ๆ อย่างเลย
ทั้งความรู้สึกเกี่ยวกับมังงะ การเข้ามาของ e-book และมุมมองของการลอกเลียนแบบ
ถ้ารีวิวสั้น ๆ ก็ เรื่องนี้ ค่อนข้างเฉพาะกลุ่มมาก สัมผัสได้ว่า อ. ไม่แคร์คนอ่านในบางจุด ทำให้รู้สึกเซ็งนิดหน่อย
สำหรับผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บิลลี่แค่ตัวปิ๊งไอเดียทำให้เขียนหนังสือต่อไปได้
แต่ถ้ามองในเชิงเนื้อเรื่อง ก็เหมือนเป็นมนุษย์ต่างดาว ที่ใช้ชีวิตอยู่ในมิติที่สี่ รู้ความเป็นไปทุกอย่างของโลก แต่ไม่สามารถสอดมือเข้าไปได้โดยตรง ต้องมีคนติดต่อมาก่อน มันถึงจะทำอะไรได้ ซึ่งก็มีทั้งบิลลี่ที่ป่วนโลกแก้เซ็ง และบิลลี่ที่ช่วยให้โลกดีขึ้น แต่คำแนะนำของมันทั้งคู่ก็ปั่น ๆ ชวนน่าตบ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดอยู่ดี สรุปคือ บิลลี่ไม่มีผลต่อโลกนี้ ไม่มีตัวตนนั่นเอง
คำแนะนำที่บิลลี่ให้เคลวินก็ไม่ม่ีอะไรมาก เขียนการ์ตูนต่อเหอะ ถ้าไม่หยุดเขียน ยังไงก็มีคนอ่าน (ผมว่าประโยคนี้ ชัดเลย นาโอกิไม่ได้คุยกะคนอ่าน แต่นักเขียนการ์ตูนด้วยกัน "อย่ายอมแพ้ เขียนต่อไปนะ" ทำให้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าลุงแกรักในสายงานนี้แค่ไหน)
ส่วนคนที่เข้าถึงต้นทางของตัวบิลลี่ ก็สามารถขอพรย้อนเวลาได้ โดยจะจับโยนไปอยู่จักรวาลใหม่ ให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่ได้แก้ไขอดีตแป๊บนึง ก่อนที่จะส่งไปยังอนาคต ที่เป็นยุค distopia (ผมมองงี้นะ) ไอ้บิลลี่มันเกรียน จอมปั่น
ชอบตอนที่พอมองย้อนกลับไป ละนึกถึงวีรกรรมที่มันทำ อย่างการแนะนำจูดาห์ให้ขายเมซีอาห์กับชาวยิว บิลลี่มันเลยกลายเป็นซาตานซะงั้น (เป็นครั้งเดียวที่มันทำสำเร็จ น่าเขกมาก)
ชอบที่พยายามยำประวัติศาสตร์ ชอบแนวนี้อยู่แล้ว เสียดายข้อมูลผมไม่แน่นพอเลยไม่ค่อยเก็ทว่า บิลลี่มันไปป่วนอะไรที่ไหนไว้บ้าง
แต่เหตุการณ์ที่ไปป่วน ก็สนุกแทบทุกเหตุการณ์ ทั้ง JFK, 9-11
ฉาก 9-11 นี่ ใจหายเลย แช่กับหน้านั้นนานมาก
ที่เด็ดสุดคือ พระเอกโดนยิง แล้วโดนตัดบท โคตรชั่ว 555 มาสูตรเดียวกับ 20th century เลย ให้คนอื่นเดินเรื่องต่อแทน แต่ก็เหมือนเดิม มันจะไม่สนุกเท่า arc แรก เทียบกันแล้ว คันนะในเรื่อง 20th พยุงเรื่องได้ดีกว่า พี่เคลวินเบอร์ 2 คนนี้ แต่ช่วงท้ายก็เละเหมือนกัน
แต่โชคดีที่หาทางลงเจอ ตอนจบ ทหารสองนายนี่ชอบมากเป็นฉากดี ๆ ที่แทบไม่ได้เห็นในงานนาโอกิเรื่องนี้เลย มันเลยกลายเป็นฉากที่ดีที่สุดในเรื่อง มังงะเรื่องนี้โฟกัสการปฏิสัมพันธ์ระหว่าง คน กับบิลลี่มากจนเกินไป แทบไม่มีฉากที่แสดงความสัมพันธ์ น้ำใจดี ๆ ระหว่างคนสู่คน
ทำให้แค่อีกฉากนึงที่หลุดรอดมาได้ และน่าจดจำจริง ๆ คือพ่อเคลวิน 2 ต้องเจอกับขบวนการนีโอนาซี ผมลุ้นแทนเลยนะ จะรอดมั้ยเนี่ย บทดีมาก จบบทได้น่าประทับใจ
ส่วนที่ชวนเซ็ง มีเยอะกว่าเรื่องก่อน ๆ เช่นไอสไตน์นั่งคุยกับฮิตเลอร์ผมไม่ค่อยอินเท่าที่ควร ไม่รู้ทำไา ทั้ง ๆ ที่มันควรจะ epic กว่านี้
มีพล็อตใหญ่อย่างนินจา ที่โดนเทปล่อยให้ค้างเติ่งซะงั้น ถ้าทั้งหมดปูมาเพื่อให้คัมภีร์ดูขลั ผมก็รู้สึกว่าใช้ตัวละครไม่คุ้มอยู่ดี
พอถึงจุดนี้ก็มีความย้อนแย้ง เพราะบิลลี่สามารถทะลุมิติ หยิบม้วนคัมภีร์เก็บไว้กับตัวได้
เรื่องนี้คงอ่านผ่าน ๆ ไม่ซ้ำ ไม่มีรอบสองแ้วล่ะ นักเขียนส่งสารให้เฉพาะกลุ่มเกินไปหน่อย รู้สึกเหมือนคนในวงการคุยกันแบบไม่เห็นหัวคนอ่าน
ถ้า NED ออก ก็ต้องซื้อ ไม่ใช่เพราะเนื้อเรื่องดี แต่เพราะชดใช้กรรม
ใครอ่าน billy bat จบแล้วบ้างครับ มาคุยกัน
เรื่องนี้เหมือนสะท้อนทัศนะคติของอุราซาวะหลาย ๆ อย่างเลย
ทั้งความรู้สึกเกี่ยวกับมังงะ การเข้ามาของ e-book และมุมมองของการลอกเลียนแบบ
ถ้ารีวิวสั้น ๆ ก็ เรื่องนี้ ค่อนข้างเฉพาะกลุ่มมาก สัมผัสได้ว่า อ. ไม่แคร์คนอ่านในบางจุด ทำให้รู้สึกเซ็งนิดหน่อย
สำหรับผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้