เคยถามตัวเองไหมครับว่าถ้าฉันตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตในตอนนี้ เช่น ถูกพักงาน ลดเวลาทำงาน โดนไล่ออก งานฟรีแล้นซ์หดหาย
คุณต้องใช้เงินวันละเท่าไหร่ หรือเดือนละเท่าไหร่ ในการพยุงชีวิตของคุณเอง (ในกรณีโสด) และรวมไปถึงคนข้างหลัง (ในกรณีแต่งงานหรือต้องเลี้ยงดูพ่อแม่)
ผมเขียนโพสต์นี้ในวันที่ 29 มีนาคม ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนแถวสีลม WFH มาสามสัปดาห์แล้วครับ เป็นบริษัทบัญชีแรกๆที่ออกตัวก่อนเพื่อนเรื่องทำงานที่บ้าน ผมเห็นความเปลี่ยนแปลงของผมเรื่องค่าใช้จ่ายมากๆ จะขอแชร์นะครับว่า จริงๆแล้วส่วนตัวผมเอง ถ้ารวมทุกค่าใช้จ่ายแล้ว ผมต้องใช้เงินขั้นต่ำสุดๆกี่บาท
==============================================================================
ค่าบ้าน = 0 บาท
เหตุผล: เป็นเจ้าของบ้านทาวน์เฮ้าส์สองชั้น ซื้อสดเมื่อหลายสิบปีที่แล้วครับ เลยไม่มีภาระผูกพันในส่วนนี้
ค่ารถ ค่าเดินทาง = 0 บาท
เหตุผล: ผมไม่มีรถยนต์ส่วนตัวครับเลยไม่มี Fixed Cost เช่นค่าดูแลซ่อมแซม ประกัน ค่าต่ออายุ และในช่วงนี้ทำงานที่บ้านก็ไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นรถไฟฟ้า รถแทกซี่ รถเมล์ เลยตัดส่วนนี้ออกไปได้เลย
ค่ากิน = 210 บาท/วัน = 6,300บาท/เดือน
เหตุผล: ผมไม่ทำกับข้าวทานเอง เน้นสั่งเดลิเวอรี่มา สามมื้อสองร้อยสิบบาท เฉลี่ยมื้อละเจ็ดสิบบาทในกรุงเทพ
**ในส่วนนี้สามารถประหยัดได้อีกถ้าผมทำกินเองง่ายๆหรือซื้อข้าวที่มันถูกกว่านี้ แต่ผมตีขั้นต่ำราวๆนี้ไปก่อนครับ
ค่าน้ำค่าไฟ = 2500บาท/เดือน = เฉลี่ยหารสองคน = 1250บาท
เหตุผล: อยู่กับน้องสองคน และใช้เครื่องไฟฟ้าในบ้านเช่นพวกโน้ตบุค จอทีวี ทั้งวัน แยกห้องนอนเปิดแอร์แยกตอนช่วงกลางคืน
**ในส่วนนี้สามารถประหยัดได้อีกถ้าเกิดกรณีว่า ใครคนใดคนนึงตกงาน กำลังวางแผนว่าอาจจะต้องเลิกเปิดแอร์แล้วใช้พัดลมแทน หรือใช้แอร์แค่ตัวเดียวแต่มานอนรวมในห้องนอนใหญ่ห้องเดียว
ค่าอินเตอร์เน็ตบ้าน = 800บาท/เดือน
เหตุผล: แชร์กับน้องสองคนครับ ที่เลือกแพ็กเกจแพงเพราะต้อง conference กับทีมที่ตปท.ทุกวัน วันละหลายๆชั่วโมง เลยเลือกแพ็กเกจเน็ตที่สูงๆครับเพื่อให้งานไม่กระทบในช่วงคอลฯ
ค่ามือถือ = 550บาท/เดือน
เหตุผล: ผมใช้บริการของค่ายสีฟ้า เปิดมัลติซิมให้คุณพ่อที่ลพบุรีใช้ แพ็กเกจรับได้ในราคานี้เพราะใช้กันสองคน แต่ผมรับค่าใช้จ่ายแทนพ่อไว้ทั้งหมด
ค่าเลี้ยงดูบุพการี = 4,000บาท/เดือน
รวมแล้วทั้งหมด = 6300+1250+800+550+4,000 = 12,900 บาท
==============================================================================
เงิน 12,900 บาท จะเป็นเงินขั้นต่ำของผมในช่วงที่ยังมีงานทำครับ
แต่ถ้าผมตกงานไม่มีงานทำ มันจะต่ำลงกว่านี้ได้อีกเพราะ
1. ผมจะลดค่ากินของผมอัตโนมัติ เลิกหรู เลิกสั่งแกร็บ แล้วไปตลาด ซื้อเนื้อ ซื้อข้าว มาทำกินเอง จะพยายามคุมค่าใช้จ่ายให้กินสามมื้อเหลือวันละ 150.-
2. ค่าน้ำค่าไฟ อาจจะต้องคุยกับน้องว่า ในช่วงที่ตกงานผมอาจจะขอหารแค่ 30% ได้ไหม เมื่อเทียบกับ 50:50 เหมือนตอนยังมีงานทำ เพราะว่าถ้าผมตกงานจริงๆ ผมก็ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆในบ้านเพื่อการทำงานอีก โดยเฉพาะตัวกินไฟหนัก อาจจะตีไปกลมๆว่า (1250*(1-0.3))=875.-
3. ค่าอินเตอร์เน็ตบ้าน เพราะต่อให้ตกงานผมก็ยังต้องใช้อินเตอร์เน็ตทำนู่นทำนี่ ในกรณีนี้ที่น้องผมก็ไม่ตกงานนะครับ ถ้าน้องผมตกงานด้วย ผมคิดไว้ว่าจะต้อง downgrade อินเตอร์เน็ตบ้านที่แพ็กเกจต่ำที่สุด เอาแค่ให้เล่นเน็ตได้ก็พอ ไม่ต้องถึงขั้นดูเนตฟลิกคมชัดอีกต่อไป ตีไปว่า 800เหมือนเดิม
4. ค่ามือถือ ผมอาจจะคงไว้เท่าเดิม เพราะคุณพ่อก็ใช้ ผมก็ยังต้องใช้โทรศัพท์ แต่ถ้าสาหัสจริงๆอาจจะต้อง Downgrade แพ็กเกจมือถือลงเช่นกัน ตีไปว่า 550เหมือนเดิม
5. เงินเลี้ยงดูพ่อแม่ ผมเคยคุยกับพ่อแม่ไว้แล้วครับว่าถ้าผมตกงานจริงๆ พ่อแม่บอกว่าไม่ต้องส่งมา แกยังมีใช้อยู่ เพราะพ่อแม่ผมแกมีรายรับแน่นอนอยู่แล้วครับ (ค่าปล่อยเช่าบ้าน) ไว้หางานทำ หรือกลับมาตั้งหลักได้แล้ว ค่อยส่งก็ได้ แกทั้งสองไม่ซีเรียสครับ (เพราะแกไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วว่าลูกจะต้องส่งให้)
ดังนั้นในกรณี Worst Case ผมจะคุมค่าใช้จ่ายให้เหลือ = 150*30 + 875 + 800 + 550 = 6725 บาท/เดือน
แปลว่า ในหนึ่งปี ผมจะต้องมีเงินเก็บ 6725 * 12 = 80,700บาท/ปี (แปดหมื่นเจ็ดร้อยบาทถ้วน) ถึงจะเพียงพอกับการเอาตัวรอดในหนึ่งปีนับจากนี้
** นี่ผมยังไม่ได้คำนวณในส่วน ค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด เช่น ค่าใช้จ่ายที่ผมต้องซื้อของเข้าบ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้ หรือ ค่ารักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน ซึ่งมันจะเป็นเงินก้อนที่ต้องเผื่อเพิ่มเข้าไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
==============================================================================
ที่เขียนกระทู้นี้ขึ้นมา ส่วนนึงเพื่อเตือนสติตัวเองและสะท้อนความเป็นจริงของผมเองในเรื่องค่าใช้จ่าย ผมอยากให้เพื่อนๆช่วยกันเล่าเรื่องค่าใช้จ่ายของตัวเองครับว่าตอนนี้เป็นอย่างไร ส่วนตัวผมเอง ผมก็ยังเห็นข้อบกพร่องในค่าใช้จ่ายบางอย่าง ซึ่งจริงๆมันก็ยังกดให้ต่ำกว่านี้ได้อีก เพียงแต่ในชีวิตจริงเรายังมีกิเลสที่ยังทำให้เรามือเติบอยู่ แต่ตอนนี้สำหรับผมเองก็ถือว่าตัวเองโชคดีมากๆแล้วที่ยังมีงานทำ มีรายรับแน่นอนอยู่บ้าง
ส่วนใครก็ตามที่กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ต้องเอาเงินเก็บมาใช้ ผมขอเป็นกำลังใจให้ครับในช่วงเวลาแบบนี้ที่ยากลำบาก เงินเก็บมันสำคัญจริงๆเพราะทำให้เรายังต่อลมหายใจในช่วงนี้ไปได้
ขอบคุณครับ
เงินขั้นต่ำสุดๆที่คุณต้องใช้ในการดำรงชีพในตอนนี้คือกี่บาทครับ ในสถานการณ์แบบนี้ที่ไม่รู้จะลากยาวไปถึงเดือนไหน
คุณต้องใช้เงินวันละเท่าไหร่ หรือเดือนละเท่าไหร่ ในการพยุงชีวิตของคุณเอง (ในกรณีโสด) และรวมไปถึงคนข้างหลัง (ในกรณีแต่งงานหรือต้องเลี้ยงดูพ่อแม่)
ผมเขียนโพสต์นี้ในวันที่ 29 มีนาคม ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนแถวสีลม WFH มาสามสัปดาห์แล้วครับ เป็นบริษัทบัญชีแรกๆที่ออกตัวก่อนเพื่อนเรื่องทำงานที่บ้าน ผมเห็นความเปลี่ยนแปลงของผมเรื่องค่าใช้จ่ายมากๆ จะขอแชร์นะครับว่า จริงๆแล้วส่วนตัวผมเอง ถ้ารวมทุกค่าใช้จ่ายแล้ว ผมต้องใช้เงินขั้นต่ำสุดๆกี่บาท
==============================================================================
ค่าบ้าน = 0 บาท
เหตุผล: เป็นเจ้าของบ้านทาวน์เฮ้าส์สองชั้น ซื้อสดเมื่อหลายสิบปีที่แล้วครับ เลยไม่มีภาระผูกพันในส่วนนี้
ค่ารถ ค่าเดินทาง = 0 บาท
เหตุผล: ผมไม่มีรถยนต์ส่วนตัวครับเลยไม่มี Fixed Cost เช่นค่าดูแลซ่อมแซม ประกัน ค่าต่ออายุ และในช่วงนี้ทำงานที่บ้านก็ไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นรถไฟฟ้า รถแทกซี่ รถเมล์ เลยตัดส่วนนี้ออกไปได้เลย
ค่ากิน = 210 บาท/วัน = 6,300บาท/เดือน
เหตุผล: ผมไม่ทำกับข้าวทานเอง เน้นสั่งเดลิเวอรี่มา สามมื้อสองร้อยสิบบาท เฉลี่ยมื้อละเจ็ดสิบบาทในกรุงเทพ
**ในส่วนนี้สามารถประหยัดได้อีกถ้าผมทำกินเองง่ายๆหรือซื้อข้าวที่มันถูกกว่านี้ แต่ผมตีขั้นต่ำราวๆนี้ไปก่อนครับ
ค่าน้ำค่าไฟ = 2500บาท/เดือน = เฉลี่ยหารสองคน = 1250บาท
เหตุผล: อยู่กับน้องสองคน และใช้เครื่องไฟฟ้าในบ้านเช่นพวกโน้ตบุค จอทีวี ทั้งวัน แยกห้องนอนเปิดแอร์แยกตอนช่วงกลางคืน
**ในส่วนนี้สามารถประหยัดได้อีกถ้าเกิดกรณีว่า ใครคนใดคนนึงตกงาน กำลังวางแผนว่าอาจจะต้องเลิกเปิดแอร์แล้วใช้พัดลมแทน หรือใช้แอร์แค่ตัวเดียวแต่มานอนรวมในห้องนอนใหญ่ห้องเดียว
ค่าอินเตอร์เน็ตบ้าน = 800บาท/เดือน
เหตุผล: แชร์กับน้องสองคนครับ ที่เลือกแพ็กเกจแพงเพราะต้อง conference กับทีมที่ตปท.ทุกวัน วันละหลายๆชั่วโมง เลยเลือกแพ็กเกจเน็ตที่สูงๆครับเพื่อให้งานไม่กระทบในช่วงคอลฯ
ค่ามือถือ = 550บาท/เดือน
เหตุผล: ผมใช้บริการของค่ายสีฟ้า เปิดมัลติซิมให้คุณพ่อที่ลพบุรีใช้ แพ็กเกจรับได้ในราคานี้เพราะใช้กันสองคน แต่ผมรับค่าใช้จ่ายแทนพ่อไว้ทั้งหมด
ค่าเลี้ยงดูบุพการี = 4,000บาท/เดือน
รวมแล้วทั้งหมด = 6300+1250+800+550+4,000 = 12,900 บาท
==============================================================================
เงิน 12,900 บาท จะเป็นเงินขั้นต่ำของผมในช่วงที่ยังมีงานทำครับ
แต่ถ้าผมตกงานไม่มีงานทำ มันจะต่ำลงกว่านี้ได้อีกเพราะ
1. ผมจะลดค่ากินของผมอัตโนมัติ เลิกหรู เลิกสั่งแกร็บ แล้วไปตลาด ซื้อเนื้อ ซื้อข้าว มาทำกินเอง จะพยายามคุมค่าใช้จ่ายให้กินสามมื้อเหลือวันละ 150.-
2. ค่าน้ำค่าไฟ อาจจะต้องคุยกับน้องว่า ในช่วงที่ตกงานผมอาจจะขอหารแค่ 30% ได้ไหม เมื่อเทียบกับ 50:50 เหมือนตอนยังมีงานทำ เพราะว่าถ้าผมตกงานจริงๆ ผมก็ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆในบ้านเพื่อการทำงานอีก โดยเฉพาะตัวกินไฟหนัก อาจจะตีไปกลมๆว่า (1250*(1-0.3))=875.-
3. ค่าอินเตอร์เน็ตบ้าน เพราะต่อให้ตกงานผมก็ยังต้องใช้อินเตอร์เน็ตทำนู่นทำนี่ ในกรณีนี้ที่น้องผมก็ไม่ตกงานนะครับ ถ้าน้องผมตกงานด้วย ผมคิดไว้ว่าจะต้อง downgrade อินเตอร์เน็ตบ้านที่แพ็กเกจต่ำที่สุด เอาแค่ให้เล่นเน็ตได้ก็พอ ไม่ต้องถึงขั้นดูเนตฟลิกคมชัดอีกต่อไป ตีไปว่า 800เหมือนเดิม
4. ค่ามือถือ ผมอาจจะคงไว้เท่าเดิม เพราะคุณพ่อก็ใช้ ผมก็ยังต้องใช้โทรศัพท์ แต่ถ้าสาหัสจริงๆอาจจะต้อง Downgrade แพ็กเกจมือถือลงเช่นกัน ตีไปว่า 550เหมือนเดิม
5. เงินเลี้ยงดูพ่อแม่ ผมเคยคุยกับพ่อแม่ไว้แล้วครับว่าถ้าผมตกงานจริงๆ พ่อแม่บอกว่าไม่ต้องส่งมา แกยังมีใช้อยู่ เพราะพ่อแม่ผมแกมีรายรับแน่นอนอยู่แล้วครับ (ค่าปล่อยเช่าบ้าน) ไว้หางานทำ หรือกลับมาตั้งหลักได้แล้ว ค่อยส่งก็ได้ แกทั้งสองไม่ซีเรียสครับ (เพราะแกไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วว่าลูกจะต้องส่งให้)
ดังนั้นในกรณี Worst Case ผมจะคุมค่าใช้จ่ายให้เหลือ = 150*30 + 875 + 800 + 550 = 6725 บาท/เดือน
แปลว่า ในหนึ่งปี ผมจะต้องมีเงินเก็บ 6725 * 12 = 80,700บาท/ปี (แปดหมื่นเจ็ดร้อยบาทถ้วน) ถึงจะเพียงพอกับการเอาตัวรอดในหนึ่งปีนับจากนี้
** นี่ผมยังไม่ได้คำนวณในส่วน ค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด เช่น ค่าใช้จ่ายที่ผมต้องซื้อของเข้าบ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้ หรือ ค่ารักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน ซึ่งมันจะเป็นเงินก้อนที่ต้องเผื่อเพิ่มเข้าไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
==============================================================================
ที่เขียนกระทู้นี้ขึ้นมา ส่วนนึงเพื่อเตือนสติตัวเองและสะท้อนความเป็นจริงของผมเองในเรื่องค่าใช้จ่าย ผมอยากให้เพื่อนๆช่วยกันเล่าเรื่องค่าใช้จ่ายของตัวเองครับว่าตอนนี้เป็นอย่างไร ส่วนตัวผมเอง ผมก็ยังเห็นข้อบกพร่องในค่าใช้จ่ายบางอย่าง ซึ่งจริงๆมันก็ยังกดให้ต่ำกว่านี้ได้อีก เพียงแต่ในชีวิตจริงเรายังมีกิเลสที่ยังทำให้เรามือเติบอยู่ แต่ตอนนี้สำหรับผมเองก็ถือว่าตัวเองโชคดีมากๆแล้วที่ยังมีงานทำ มีรายรับแน่นอนอยู่บ้าง
ส่วนใครก็ตามที่กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ต้องเอาเงินเก็บมาใช้ ผมขอเป็นกำลังใจให้ครับในช่วงเวลาแบบนี้ที่ยากลำบาก เงินเก็บมันสำคัญจริงๆเพราะทำให้เรายังต่อลมหายใจในช่วงนี้ไปได้
ขอบคุณครับ