ช่วงนี้เป็นช่วงประกาศผลคะแนนของลูกๆม.6 โดยคะแนน O-net ออกเป็นอันดับแรก ก็เลยสงสัยหลังจากเห็นข้อสอบและเฉลย ว่าทำไมไม่แยกสายวิทย์กับสายศิลป์ออกให้ชัดเจนเหมือน9วิชาสามัญ เห็นลูกสาวเรียนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ตอนม.4-5-6ไม่กี่หน่วยกิตเพราะเขาเรียนสายภาษา แต่ผิดกับเด็กสายวิทย์-คณิตที่เรียนเต็มที่เลย แล้วการสอบรวมหมดแบบนี้มันได้เปรียบเสียเปรียบกันไหมครับผมสงสัย อย่าง9วิชาสามัญเห็นด้วยเลยครับที่เลือกสอบตามคณะที่เราจะเรียนในระดับมหาวิทยาลัย แล้วขอคิดอีกในส่วนGAT-PATก็เหมือนกันมีสอนในโรงเรียนกันไหม มีโรงเรียนไหนสอนวิชานับ้างมีแค่จัดติวให้นักเรียนเพิ่มเติมตามที่กำลังโรงเรียนจะทำได้ สุดท้ายก็ต้องเสียเงินให้ไปติวทั้งสองตัวซึ่งในเด็กที่ผู้ปกครองมีกำลังก็ไม่ยากเย็นอะไร แต่ในคนฐานะเงินน้อยล่ะต้องหาซื้อหนังสือมาอ่านเองซึ่งจะมีสักกี่คนที่ประสบความสำเร็จได้คะแนนสูงๆเพียงพอเข้ามหาวิทยาลัย ถ้าเด็กหัวดีมากๆก็อ่านแล้วรู้เรื่อง กลับมาเรื่องตามหัวข้อต่อครับ แล้วจะมาออกข่าวว่าต้องพิจารณากันใหม่แล้วว่าเด็กทำคะแนนO-netได้น้อยเพื่ออะไร ออกข่าวแนวนี้ทุกๆปีแล้วก็ปรับนิดปรับหน่อยเป็นอย่างนี้มากี่ปีแล้วแต่สุดท้ายผู้ปกครองก็ต้องเสียเงินให้ลูกๆไปติวอยู่ดีจะสมัยเอ็นทรานส์หรือสมัยนี้ไม่เห็นต่างกัน แล้วมันจะแปลกตรงไหนครับในเมื่อคะแนนสูงๆของO-netก็น่าจะตกอยู่กับเด็กวิทย์-คณิตทั้งนั้น เคยมีปีไหนไหมที่เด็กสายศิลป์ทำข้อสอบO-netคณิตกับวิทย์ได้คะแนนสูงสุดระดับประเทศหรือระดับโรงเรียนก็ได้ คุณวางหลักสูตรในชั้นมัธยมให้มีแผนการเรียนมากมาย แต่เวลาสอบคุณไม่แยกข้อสอบทั้งๆที่เด็กสายอื่นที่ไม่ไช่วิทย์-คณิตก็ต้องสอบวิชาหลักของเด็กสายวิทย์ อย่าบอกว่า สังคม-ภาษาไทย-อังกฤษ เป็นของสายศิลป์นะ เพราะบางแผนการเรียนในระดับมัธยมก็เรียน 3 วิชานี้ต่างกันออกไป ก็แค่บ่นนะครับตามความรู้สึกที่เตรียมตัวกับลูกเข้ามหาวิทยาลัย
O-net ม.6 ทำไมไม่แยกสายวิทย์กับสายศิลป์ อยากรู้ในมุมผู้ปกครอง