บทเรียนครั้งสำคัญของโลกที่ต้องจดจำไปชั่วลูกหลาน ?

กระทู้คำถาม
เมื่อย้อนกลับไปวันที่ 1 มี.ค.2563  พบว่าในอิตาลีมีผู้ติดเชื้อโควิด19  เพียงแค่  1,128  ราย  มีผู้เสียชีวิต  29  ราย
ขณะที่สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อ  69  ราย และมีผู้เสียชีวิตเพียงแค่  1  ราย  และประเทศไทยขณะนั้นมีผู้ติดเชื้อ 42 ราย
ยังไม่มีผู้เสียชีวิต   ทำให้ปธน.สหรัฐ ออกมาประกาศว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีระบบสาธารณสุขเป็นอันดับ 1
ของโลก  และยกย่องให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 6   
   เหตุการณ์ผ่านมายังไม่ถึง 1 เดือน  ขณะนี้แล้วอิตาลีมีผู้ติดเชื้อ  80,589  คน  มีผู้เสียชีวิต  8,215  คน  ขณะที่
สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อ  85,798  คน  มีผู้เสียชีวิต  1,295  คน   

   ถ้าประเทศอิตาลีและสหรัฐอเมริกา  มีความตระหนักและเห็นความสำคัญเร่งด่วนถึงมหันตภัยร้ายแรงของเชื้อโควิด19
และสั่งปิดประเทศไม่รับนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่ตอนนั้น  เหตุการณ์คงไม่บานปลายและสร้างความ
เสียหายใหญ่หลวงมาให้แก่ประเทศและเศรษฐกิจโลกมาจนถึงทุกวันนี้   รอดูกันต่อไปครับว่าเมื่อเกิดสถานการณ์มาจนถึง
ขณะนี้แล้วมันจะสามารถรับมือการแพร่ระบาดได้หรือไม่

       ปล. ถ้าไทยเราปิดประเทศตั้งแต่ตอนนั้น  โดยไม่รับนทท.เข้ามา  เราจะผู้ผู้ติดเชื้อเพียงแค่  42  รายเท่านั้น  และจะไม่เกิด
             ความเสียหายมากมายจนถึงเพียงนี้   ตอนนี้ได้แต่ภาวนาอย่าให้เราเป็นเหมือนอิตาลีหรือสหรัฐอเมริกาเลย  สำคัญที่สุด
             ทุกวินาทีที่ผ่านไปมันหมายถึงชีวิตของคนบนโลกใบนี้ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
มีกลุ่มคนเห็นประโยชน์ส่วนตน จัดมวยทั้งที่มีหนังสือห้ามแล้ว ในกลุ่มนี้เอาเชื้อจากอิตาลีเข้าติดทั้งสนามมวย และคนไทยกลับประเทศซึ่งรัฐไม่สามารถห้ามคนไทยกลับประเทศได้

ปิดประเทศก็แค่ส่วนหนึ่ง ยังไงวินัยของคนไทยต่ำต่างหากต้องแก้ตรงนี้ กลับบ้านต่างจังหวัดก็ไปรวมกลุ่มทำกิจกรรม

ต่างประเทศเมื่อห้ามเดินทางใครเลี่ยงโดนปรับสูงมาก ล่าสุดสาวไทยติดเชื้อโดนควบคุมหนีโดนจับได้ ปรับ 1 แสนดอลล่าร์ไต้หวันเลย ถ้ารัฐบาลเข้มแบบนี้คุณว่าไง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่