อาจจะยาวหน่อย แต่อยากขอคำปรึกษาค่ะ

เราและครอบครัวรวม 5 คน  จองตั๋วไปเที่ยวนอร์เวย์กับข่วงสงกรานต์ ซึ่งจ่ายเงินค่าที่พัก,ค่าเรือข้ามฟาก,ค่าตั๋วเครื่องบินในเชงเก้น จองไปก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่งคือช่วงปลายปี 2019 พอมีข่าวโควิด-19 เข้ามาเรื่อยๆ เราคิดว่าสถานการณ์ ณ ตอนนั้นยังไม่รุนแรงมาก จึงคืดว่างั้นเราทำวีซ่าไปก่อนจึงทำการนัดหมายไปทำวีซ่าท่องเที่ยว Norway เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2020 ซึ่งญาติๆเราไปยื่นเอกสารก่อนเรา 2วัน คือวันที่ 9/3/2563 แต่ครอบครัวเค้าได้วีซ่ามา 2 ปี แต่วีซ่าของครอบครัวเราโดน rejected  พอเปิดเว็บไซต์สถานฑูตเค้าประกาศว่าปิดประเทศเมื่อวันที่ 15/3/2020 จากนั้นวันที่ 25/3/2020 เค้าส่ง Passport กลับมา แต่ก่อนหน้าที่จะได้รับ Passport นั้น คุณพ่อกับคุณแม่ได้รับโทรศัพท์จากสถานฑูตว่า วีซ่าจะไม่ได้รับการอนุมัตินะ ทางเค้าบอกว่าจะคืนเงินให้ คุณแม่ถาม จนท.คนนั้นว่าจะคืนเงินมายังไง เค้าบอกว่าจะส่งตามไปรษณีย์มาให้ เลยยิ่ง งง มากๆ ว่า 'จริงอะ?' เราได้รับซองจดหมายที่บรรจุ Passport ไว้ 5ซองมาพร้อมกัน เปิดจดหมายมา เราและพี่น้องเรา 3คน ได้เอกสารว่าโดน reject วีซ่าแต่ของพ่อแม่ กลับได้มาแค่ Passport อย่างเดียว ด้วยความสงสัยเลยโทรถาม สถานฑูตนอร์เวย์ ปรากฎว่า จนท.บอกสื่อสารผิดกับคุณพ่อคุณแม่ .. จนทคนนั้นเค้าบอกว่าคนที่ติดต่อไป เค้าให้เลือกระหว่าง ส่งไปแล้วโดนปฏิเสธ กับไม่ส่งแล้วได้เงินคืน รู้สึกงงนิดหน่อยไม่เข้าใจมากๆ ถ้ารู้ว่าโดนปฏิเสธอยู่แล้ว เราจะดื้อส่งเอกสารไปทำไม? งงไปหมด จากนั้นเลยมานั่งอ่านเอกสารที่เค้าแนบมากับ Passport เค้าบอก1. สาเหตุที่ reject เพราะ เป็น threat to public health 2. เค้าแจ้งว่าเราสามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 3อาทิตย์ หลังจากได้รับเอกสารนี้ เพื่อให้เค้าพิจารณาวีซ่าใหม่ แต่ ณ ตอนนี้ไฟลท์ที่จะบินไปได้ cancle หมดแล้ว จริงๆแล้วมีแพลนที่อยากไปปลาย ต.ค. 2020 นี้อยู่แล้ว
 คำถามคือ
1. เราตัดสินใจไปแน่ๆอยู่แล้วเพราะโรงแรมไม่ Refund เงิน แต่เลื่อนได้ เราควรอุทธรณ์ไปไหมคะ?
2.ค่าวีซ่าควรจะได้คืนไหม หรือตามหลักก็ถูกต้องแล้วที่ไม่ได้เงินคืน?