ขอวีซ่าฝรั่งเศสประเภทเยี่ยมส่วนตัว แบบมีสปอนเซอร์

การขอวีซ่าไปฝรั่งเศสไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย
     เป็นครั้งแรกของการขอวีซ่าค่ะ ทำเอาน้ำตาตกไปหลายรอบเลย วันนี้จะมาขอแชร์ประสบการณ์หน่อย
     เกริ่นก่อนนิดนึงค่ะ พอดีว่ามีแฟนเป็นคนฝรั่งเศส เจอกันที่เชียงใหม่คบกันได้นานพอสมควร ปีนี้เขาอยากให้บินมาหาที่ฝรั่งเศสมาเจอพ่อแม่มาดูบรรยากาศบ้านเขา ...ก็เลย ยื่นสมัครวีซ่าประเภทเยี่ยมส่วนตัวระยะสั้นไม่เกิน90วัน ไอ่เราก็ขอไปเลยค่ะเต็มๆ90วัน ให้แฟนเป็นสปอนเซอร์ให้*(เราทำงานฟรีแลนซ์ค่ะ แบบรับจัดอีเว้นท์ ไม่มีสลิปเงินเดือน ไม่มีสังกัดเป็นบริษัท ก็เลยหาหลักฐานพวกจดหมายรับรองการทำงานจากบริษัทเพื่อมาใช้สปอนเซอตัวเองไม่ได้)

     ยื่นเอกสารผ่านTls ยื่นครบทุกรายการที่เขาเควสมาเลยค่ะ ขอย้ำว่าครบทุกรายการ ยื่นกับพนักงานเขาก็เช็คๆ โอเค..ไม่มีเอกสารตกหล่น...จ่ายตัง...แสกนนิ้ว...ถ่ายรูป...กลับบ้าน
     ...รอค่ะ รอ 15วันทำการค่ะ เท่ากับ20วันคนธรรมดา(รวมเสาร์อาทิตย์) ยังไม่มีความคืบหน้า โทรไปหาTls เขาก็บอกให้รอ คือให้ความรู้สึกว่าพี่แกช่วยเร่งให้ไม่ได้แน่ เราก็เลยเขียนเมล์ส่งไปสถานทูตว่าช่วยเช็คให้หน่อยในตอนเช้า ...ไวมากค่ะ เขาตอบกลับมาว่าผลการตัดสินเรียบร้อยแล้วและเย็นวันนั้นก็ได้รับอีเมล์มาว่า passportถึงTlsแล้ว ละคืออยู่เชียงใหม่ ก็งกนิดนึง ไม่ยอมเสียตังบินลงไปรับ ให้เขาส่งemsมา รอไปอีก3วัน พอได้ซอง เปิดซองมา...OMB!!!! มีใบสีขาวๆแนบมากับpassport.... "REFUSAL OF VISA!" ......!!??อีก3วันเครื่องออก!!!
ตอนนั้นมึนไป3ชม. สภาพแบบเป็นหิน เบลอสุดๆ แฟนก็โทรมาถามว่าได้passportยัง ถึงตอนนั้นแหละค่ะ น้ำตาตก ร้องไห้หนักมาก มันเป็นฟิลลิ่งที่อธิบายยากจริงๆ
     การปฏิเสธวีซ่า ด้วยเหตุผลที่ว่า "วัตถุประสงค์และเงื่อนไขในการพำนักไม่น่าเชื่อถือ"....เอ๊า!!! นี่งงไปตึ้บ อะไรไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าเชื่อถือยังไง เอกสารก็ครบ ก็ไปเยี่ยมแฟนก็บอกเยี่ยมแฟน ยื่นตามความจริงทุกอย่าง
     เอกสารที่ยื่นไป
- แบบฟอร์มใบสมัครขอวีซ่า
- passport ตัวจริงและสำเนาของเราเอง
- รูปสีพื้นหลังขาว 2 นิ้ว / 2 รูป
- statement เรา + bank guarantee
- จดหมายรับรองการทำงานของแฟน
- statement ของแฟน
- passport ของแฟน
- หนังสือเชิญจากต่างประเทศ Attestation d'accueil รับรองที่พัก
- เอกสารค่าน้ำค่าไฟบ้านที่ฝรั่งเศส
- จดหมายยืนยันความสัมพันธ์
- ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
- ประกันการเดินทาง
เอกสารก็ครบ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่เมื่อถูกปฏิเสธมา ไม่เป็นไร สู้ต่อค่ะ!!!
     โทรไปทางTls เพื่อขอยื่นเอกสารใหม่ เขาก็ให้คำแนะนำดีนะคะ พูดจาดี ให้ใจเย็นๆแล้วลองยื่นใหม่ หาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อให้แน่นหนามากขึ้น(ตอนแรกก็คิดนะ ว่าก็ยื่นไปครบหมดแล้วจะเอาไรให้แน่นอีก)
     ก็เลยมานั่งคิดแล้วหาจุดบกพร่อง คืองี้
• เขากลัวเราไปขายหรือโดนหลอกหรือทำงานแบบไม่ได้รับอนุญาตที่นู่น เพราะเขียนในใบสมัครว่า unemployed (งานการไม่มีทำ)
• เขากลัวเราไปแล้วไม่กลับ "เรามีเหตุผลที่จะไป แต่ไม่แสดงเหตุผลที่จะกลับ"
• มีจดหมายอย่างเดียวมันไม่พอสินะ เขียนจดหมายใครก็เขียนได้ จะเมคอะไรเข้าไปก็ทำได้

กลับมาตั้งตัวใหม่
     เลื่อนตั๋วเครื่องบิน ทำจดหมายเชิญใหม่ พร้อมกับเอกสารการเงินใหม่ เอกสารค่าน้ำค่าไฟใหม่ เพราะต้องแสดงของเดือนล่าสุด(ยุ่งยากมาก คือต้องทำที่ฝรั่งเศสละส่งมาที่ไทย) รอบแรกที่ยื่นไปก็เลยมาเดือนครึ่งแล้ว สรุปคือต้องทำใหม่หมดเลย
เสียตังใหม่อีกรอบ ทั้งค่าสมัคร ค่าทำเอกสาร เอาคืนไม่ได้ ใช้อันเดิมไม่ได้ ร้องไห้อีกรอบ รู้สึกเสียดายตังมากมาย

     ทำวีซ่ารอบสอง ทำทุกอย่างสเตปเดิมเหมือนเดิมกับรอบแรกเลยค่ะ
     ที่แก้ไขคือ การงานแก้เป็น Freelance พร้อมแนบรูปถ่ายออกงานอีเว้นท์ค่ะ(บางงานเป็นงานเหล้าเบียร์ก็จะตัดออกค่ะ กลัวเขาคิดว่าทำงานบาร์ เดี๋ยวจะหาว่าไปขายอีก)
จดหมายก็เพิ่มเติมว่าไปเยี่ยมพ่อแม่แฟนด้วย แล้วก็แนบรูปภาพเข้าไป เป็นรูปถ่ายคู่กับแฟนเยอะแยะมากมาย(เผื่อเขาจะได้เชื่อถือในตัวจดหมายว่าไม่ได้โกหกนะคะ)
เพิ่มเติมจดหมายจากพ่อแม่แฟนค่ะ พ่อแม่แฟนช่วยเขียนจดหมายให้เพิ่มอีกฉบับ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ พร้อมแนบสถานะการเงินการงาน passport ใบเกิด(ตามจริงแค่เห็นนามสกุลเดียวกันก็พอแล้ว แต่เขากลัวสถานฑูตไม่เชื่อถืออีก)
แล้วก็ไฮไลท์ค่ะ ว่าแฟนไปกลับไทย-ฝรั่งเศสทุกปี กว่า15ปีแล้ว ไปกลับโดยสม่ำเสมอด้วยค่ะ เพื่อแสดงว่าไม่ไปหายตัวที่นู้น กลับมาไทยแน่นอน แฟนถึงกับเขียนสาบานในจดหมายว่าจะไปแล้วกลับผมสาบาน ประมาณนั้น

     ถึงเวลาที่ไปยื่นกับTls(โทรถามคิวนัดกับสถานฑูตคิวว่างอีกเดือน ก็เลยยื่นกับTlsนี่แหละไวกว่า) สามารถยื่นใหม่ได้ทันที ตอนยื่นก็แบบ หอบเอกสารไปเป็นปึกเลย ยื่นให้พนงเขาก็เช็คความครบถ้วน ละคือเอกสารเกินมาเยอะมากค่ะ พวกจดหมาย รูปถ่าย ใบเกิด ใบทะเบียนบ้าน passportพ่อแม่แฟน
     ก่อนที่เขาจะพูดอะไร เราก็ชิงพูดตัดหน้าเลยค่ะ ว่า ขอยื่นเอกสารทั้งหมดเพราะเพิ่งโดนปฏิเสธมา (จากที่อ่านในหลายๆกระทู้มา พนงชอบเอาเอกสารคืนให้เพราะไม่อยู่ในlistเอกสารที่ต้องการ แล้วรอบแรกก็ยื่นตามที่เขาขอครบถ้วน ยังโดนมาว่าไม่น่าเชื่อถือ รอบนี้ขอเหอะ เอาไปให้หมด กลัวจะไม่น่าเชื่อถืออีก) หลังจากยื่นเอกสารแล้วก็จ่ายตังใหม่อีกรอบค่ะ แสกนนิ้วใหม่ถ่ายรูปใหม่หมดเลย
     รอบนี้ไม่รอผลส่งมาที่บ้านค่ะ ขอไปรับเองกับตัว
     รออออออ ผ่านไป3สัปดาห์ได้ คือ15วันทำการ ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น ก็เลยโทรไปถามTlsโทรทั้งทางนี้แล้วก็ทางฝ่ายแฟนก็โทร รอบนี้พนงคุยไม่ดีเลยค่ะ เราบอกว่ารอนานมากนานกง่ารอบก่อนอีก นางก็บอกว่าก็รอต่อไปค่ะ รอผลพิจารณาไม่ได้ขึ้นอยู่ว่ายื่นกี่รอบ ตอบแบบห้วนๆอ่ะค่ะ แบบพยายามบอกให้มุงรอต่อไป
ประเด็นคือ บินเดือนหน้าค่ะ
แฟนโทรไป คุยเป็นภาษาฝรั่งเศสค่ะ คนรับสายคนนี้พูดดี แล้วก็บอกว่า ให้รออีก3วัน ถ้าไม่มีความเคลื่อนไหวให้โทรมาใหม่
      รออออออ อีก3วัน ตึงงงง ไม่มีความเคลื่อนไหวค่ะ วันนั้นวันพุธ บินวันอาทิตย์ ก็โทรไปอีกรอบ เขาบอกใจเย็นๆ ...โอ้โห ใครจะใจเย็นล่ะคะ...(มีเวลาเลื่อนตั๋วแค่พฤศ) เขาบอกว่าทางสถานทูตเขาก็จะดูวันที่บินด้วย ถ้าใกล้มากเขาก็จะรีบหยิบมาพิจารณา ให้ใจเย็นๆ เราก็แบบ โอเคๆๆๆ รอๆๆๆ
หลังจากวางสายไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ทางTlsโทรกลับมาค่ะ บอกว่าpassportทางTlsได้รับแล้ว ให้มารับที่Tlsได้.....เย้!!!!
ซื้อตั๋วทันทีเลยค่ะ กทม-ชม ชม-กทม ไปเช้าเย็นกลับ รับพาสปอต!!
แว้บแรกที่จับซองค่ะ รู้สึกได้เลยถึงความเบาบาง ไม่เหมือนรอบก่อนอะไรหนาๆข้างใน เดินออกมาข้างตึกไม่กล้าเปิดดูในตึกนั้น กลัวไม่ผ่าน ทำใหม่อีก เปลืองตังอีก บ้านก็ไม่ได้อยู่แถวนี้ ทำอะไรก็ลำบาก
โอเค เปิด!.... ไชโย!!!!! น้ำตาไหล ผ่านแล้วจ้า
     "ยินดีด้วย คุณได้ไปต่อ" โทไปหาแม่ก่อนเลย จากนั้นก็โทรหาแฟน ตอนแรกก็ไม่ร้องหรอก พอรู้ผลแฟนก็ร้องไห้ เรานี่เลยร้องตาม ดีใจฝุดๆ

     สรุปวันที่รอผลและpassport รอบ2คือทั้งหมด 18วันทำการ(นี่ขนาดว่าไม่รวมเสาร์อาทิตย์) เห็นหลายคนบอกรอไม่นานๆ ไม่รู้สงสัยเป็นเพราะของเราโดนแกล้งหรือเขาใช้เวลาหาช่องโหว่เพื่อกักกันไม่ให้เราไป ได้มาแต่ละทีสองสามวันก่อนเดินทางตลอด อาจเป็นเพราะเขาชอบทำให้คนตื่นเต้นรึป่าว แต่ได้มาก็ขอบคุณเขามากที่เมตตากรุณาให้ผ่าน

     ตามจริงอยากเม้า รายละเอียดมีมากกว่านี้ แต่คิดว่าเขียนนี่ก็ยาวละ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่