คือ...ทำไมต้องตั้งเป้ากับคนที่กลับบ้าน​ ว่า...จะต้องเป็นคนคอยแพร่เชื้อ..กันละครับ

ตราบใดที่คนๆ​ นั้น​ ไม่ได้ไปในพื้นที่เสี่ยง​ (ตามที่ข่าวระบุ)​ มันก็ไม่ควรต้องตระหนก​ จนต้องตีตราว่าคนๆ​ นั้น​ ทำไมไม่กักตัวเอง

คือ...ถ้าคนเราทั่วๆ​ ไป​ มนที่นี้​ ไม่เคยเห็นคุณหมอพูดกันทางทีวีกันบ้างเลยหรอ

สารลดหลั่ง​ ที่เกิดมาจากการไอจาม​ (ของคนมีเชื้อ)​ หากเราไม่ได้สูดละอองจากสารเหล่านั้น​เข้ามา​ มันก็ไม่ได้เกิดอะไรกับตัวเราหรอกครับ

ทีนี้...กลุ่มไหนที่จะตั้งวงกินเหล้า​ แล้วเราทราบแน่ชัดได้มั้ย​ ว่า​ 1 คนในกลุ่มนั้นๆ​ มีเชื้อรึเปล่า

คือ....ถ้าเป็นลักษณะ​แบบผีน้อย​ ที่เค้ากลับมาจากพท.เสี่ยง​ แล้าเค้าออกไปเที่ยวเตร่​ ไปสังสรรค์​ แบบนี้ซิ...คนเราควรประณาม​ต่างๆ​ นานา​ได้

แต่เวลามีแหล่งข่าวเกิดขึ้น​ ว่า...ทำไมคนที่ออกจากกทม.​ เพื่อกลับบ้าน​ ทำไมถึงไม่กักตัว​ คือ...ทำไมจะต้องตีตรากันแบบนี้ละครับ

แล้วทีนี้​ ลองมานึกถึงชีวิตคนในกทม.​ ดูซิ

คนที่ยังต้องเดินทางในกทม.​ เช่นใช้บริการรถไฟฟ้า​ รถปอ.​ เข้าซุปเปอร์มาเก็ต​ จากนั้นตัวเองก็กลับเข้าบ้าน

ผมถามสั้นๆ​ แล้วทำไมถึงไม่คิดกักตัวเองที่บ้านบ้างละ​ ทำไมวันรุ่งขึ้นถึงต้องไปโน้นนี่นั่น...อีกละ

ถ้าคนเราตอบตรงนี้ออกมาได้​ ก็จะตอบว่า...ก็ตอนนั้นเราใส่​ mask แล้วนิ​ จะติดได้ไง

คำอธิบายแบบนี้​ คนที่กลับไปตจว.​ ก็พูดแบบนี้ได้เหมือนกันครับ

ต้นพค.​ นี้​ ผทก็มีแผนเที่วตจว.​ ไปรถไฟ​ กลับเครื่องบิน​ ก็คิดว่าจะยกเลิกทริปเช่นกัน​ แต่ก็อาจจะหาบ้านพักริมทะเลซักหลังนึง​ และก็ไปกัน​ 5-6​ คน​ และขับรถกันไปเอง

ถ้าถึงเวลานั้น​ เกิดผมมาถามมครต่อใครในนี้​ ว่า...ควรไปดีมั้ย

รับประกันคุณภาพ​ได้เลย​ ว่า​ 10 คคห.​ ก็จะบอกว่า...ไม่ควรเอาเชื้อไปแพร่นะ...จริงมั้ย

แต่ทีนี้..ถ้าผมมั่นใจตัวเองละ​ ว่า...ที่ผ่านมาไม่ได้ไปในจุดที่เป็นพท.เสี่ยงมาก่อนละ

แต่หลายๆ​ คน​ ก็จะต้องตีตราไงครับ​ ว่า...เดี่ยวจะเอาเชื้อไปปล่อยอีก

มันเป็นเรื่องที่พูดกันยากครับ​ ผมคิดเช่นนี้ครับ​ ​!