เรื่องมีอยู่ว่า จขกท มาอยู่ต่างประเทศ แล้วจับได้ว่าแฟนมีคนอื่น จึงได้เลิกรากันไป ระหว่างที่อยู่ที่นี่ก็มีน้องคนนึงที่รู้จักกันที่ที่ทำงาน ซึ่งตอนแรกที่รู้จักกันเร่ก็ยังคบกับแฟนอยู่ จนพอเลิกรากับแฟนไป ก็เหมือนมีน้องเขาคอยคุยด้วย อาจจะเป็นเพราะเขาสงสาร เห็นว่าเราอยู่ที่นี่ตัวคนเดียว ไม่มีใคร จนพอนานวันเข้าเราคุยกันเกือบทุกวัน มันเริ่มเป็นความผูกพัน เรามีอะไรหลายๆอย่างที่ชอบคล้ายๆกัน มันทำให้ตัวเราเองเริ่มรู้สึกว่า ชอบ น้องเขา จนวันที่เราบอกเขาไปว่าชอบเขานะ แต่เขาก็บอกเราว่าคิดกับเราแค่พี่น้อง เราไม่ยอมแพ้และดื้อดึงอยู่พักนึง จากนั้นจึงยอมจำนน โดยเราตกลงกันว่า เราจะอยู่ในฐานะเพื่อนที่สำคัญมากของแต่ละฝ่าย (เรายอมรับตัวเลือกนี้เพราะเราต้องการจะมีเขาอยู่ข้างๆไม่อยากให้เขาหายไปไหน) จนนานวันเข้าทุกสิ่งที่เราก็ยังทำเหมือนๆเดิม มันเข้าทุกสิ่งที่เราทำให้เขา ไม่ว่าจะตัดเล็บให้ คุยโทรศัพท์กัน ป้อนยา และอะไรต่างๆที่ทำ มันทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังขุดหลุมฝังตัวเองให้ยิ่งลึกลงไป ลึกมากจนยากที่จะตะกายขึ้นมาได้ แล้ววันนึงก็มาถึง มันเป็นวันที่เราก็ไป Hang out กันปกติ แต่ตอนกลับมีน้องที่รู้จักคนนึงมารับเขากลับบ้าน พอถึงบ้านก็คุยกันปกติ เขาก็บอกเราว่าน้องคนที่มารับชวนเขาไปกินฟาสฟู้ดแต่เขาคงไม่ไป แต่พอวันต่อมาเรารู้ว่าเขาออกไปมาหลังจากวางสายเรา มันทำให้เรารู้สึกแย่มาก เขาให้เหตุผลว่าเพราะกลัวเราจะไม่ให้ไป และกลัวเราน้อยใจ จึงต้องโกหก และยอมรับกับเราว่าตอนนี้กำลังคุยศึกษากับน้องคนนั้นอยู่ เรารู้ดีว่าเราไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเขา แต่ความรู้สึกของเราเหมือนโดนตบหน้า เรารู้สึกเจ็บ เรารู้สึกว่าที่เราบอกเขามาตลอดว่าเป็นแค่เพื่อนได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราไม่เคยทำได้เลย เรายังชอบเขาอยู่ตลอด (เราไม่กล้าบอกว่า รัก เพราะเราไม่อยากใช้คำพร่ำเพรื่อ) ถึงตอนนี้เรารู้เจ็บมากที่รู้ว่าเขากำลังจะไปกับคนอื่น เจ็บมากที่ทุกความพยายามทำดี ความใส่ใจของเรา มันไม่เคยไปแตะหัวใจของเขาได้เลย เราเหนื่อย จริงๆเราอยากกลับไทยมาก แต่ตอนนี้ที่ไทยเองก็มีปัญหาต่างๆ ไหนจะ COVID ไหนจะ เศรษฐกิจ เราอยากกลับไปเพราะคิดว่าจะทำให้ลืมเขาได้ แต่ตอนนี้เรายังกลับไม่ได้ และเรารู้สึกเหนื่อยมาก แต่ก็ไม่รู้จะพาตัวเองออกมาได้ยังไง ทุกวันนี้ยังคิดถึงเขาตลอด ยังห่วงเขาตลอด ว่าเขาจะกินข้าวหรือยัง จะปวดท้องอีกไหม ปวดตาเป็นยังไงบ้าง ทั้งๆที่ตัวเราเองก็ปวดใจเจียนตาย 

ถ้าใครมีวิธีการดีๆยังไงที่ช่วยให้ move on ได้ในสถานการณ์แบบนี้ ช่วยแชร์หน่อยนะคะ

ปล.เราลองพยายามหาอย่างอื่นทำแล้ว แต่พบว่าในหัวก็ยังคิดเรื่องเขาตลอดเลยค่ะ