[COVID-19]รับไหวไหม?เอาชีวิตผู้ใหญ่ที่รักมาเสี่ยงโรคร้าย..เพื่อให้คนรุ่นใหม่และรุ่นกลางได้ไปต่อ!!!



ที่มา :
https://www.worldometers.info/coronavirus/coronavirus-age-sex-demographics

https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-03-18/99-of-those-who-died-from-virus-had-other-illness-italy-says

ตามดูสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ดูเหมือนสถานการณ์จะยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าบางทีประเทศต่างๆ ในโลกอาจต้องยอมใช้แนวคิด “ภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity)” ปล่อยให้ประชากรส่วนใหญ่ติดเชื้อเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันในร่างกาย อันจะเป็นผลดีในระยะยาวเพราะในครั้งต่อๆ ไป โรคนี้จะไม่ใช่ปัญหาของมนุษยชาติอีก แต่เส้นทางว่านี้มันเจ็บปวดเพราะเจ้าไวรัสโควิดราวกับถูกสร้างมาเพื่อกำจัดประชากรสูงวัย (และไม่สูงวัยแต่มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว) โดยเฉพาะ

เว็บไซต์ https://www.worldometers.info/coronavirus/coronavirus-age-sex-demographics/ สรุปข้อมูลผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต ณ สิ้นเดือน ก.พ. 2563 (ซึ่งถือว่านิ่งพอสมควรแล้วเพราะช่วงกลางเดือน มี.ค. 2563 ที่เมืองจีน ต้นตอของการระบาดประกาศไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก) พบว่า คนอายุ 80 ปีขึ้นไป ถ้าติดเชื้อมีสิทธิ์ตายถึง 21.9% จากนั้นก็ลดหลั่นลงมา อายุ 70-79 ปี  8% อายุ 60-69 ปี 3.6% อายุ 50-59 ปี 1.3% อายุ 40-49 ปี 0.4% ที่น่าสนใจคือช่วงอายุ 10-19 ปี , 20-29 ปี และ 30-39 ปี มีอัตราการตายเพียงช่วงอายุละ 0.2% เท่านั้น ที่ยิ่งแปลกกว่านั้นอีกคือผู้ติดเชื้ออายุต่ำกว่า 10 ปี ไม่มีใครตายเลย

อันนี้สอดคล้องกับรายงานของอิตาลี (ที่ยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังพุ่งต่อเนื่องจนกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดแทนจีนไปแล้ว) สำนักข่าวบลูมเบิร์ก https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-03-18/99-of-those-who-died-from-virus-had-other-illness-italy-says ถึงกับพาดหัวข่าวว่า “99% of Those Who Died From Virus Had Other Illness, Italy Says” ด้วยซ้ำ โดยอ้างข้อมูลของ Istituto Superiore di Sanita (ISS) หน่วยงานวิจัยด้านสุขภาพชั้นนำของประเทศ ที่ไปสุ่มค้นประวัติผู้เสียชีวิตเพราะไวรัสโควิด-19 จำนวน 18% จากผู้เสียชีวิตทั้งหมดในอิตาลี แล้วพบว่า เกือบทั้งหมดมีโรคประจำตัวอื่นๆ อยู่ก่อนแล้ว ความดันบ้าง เบาหวานบ้าง โรคหัวใจบ้าง มีเพียง 0.8 ของคนตายที่ไม่พบโรคประจำตัวอื่นๆ เลย 

Update เพิ่มเติม ( 20-03-2020 ตามเวลา CNN ) รายงานผู้ติดเชื้อในจีนก็ไปทางเดียวกัน อายุยิ่งน้อยยิ่งมีอัตราการเสียชีวิตต่ำมาก แถม 80% ยังมีอาการแค่เล็กๆ น้อยๆ ทยอยรักษาและออกจาก รพ. ไปมากแล้ว



ที่มา : https://edition.cnn.com/2020/03/20/health/covid-19-recovery-rates-intl

ทั้งหมดนี้เลยกลายเป็นข้อถกเถียงไม่ว่าในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ว่าตกลงแล้วควรจะใช้แนวคิดภูมิคุ้มกันหมู่ดีไหม ฝ่ายที่เห็นด้วยก็บอกว่าควรเพราะโรคนี้ส่วนใหญ่ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยมาก ( เผลอๆ เราๆ ท่านๆ อาจจะเคยติดเชื้อไปแล้วและหายแล้วโดยที่ไม่รู้ตัว ) มีจำนวนน้อยที่มีอาการหนักในระดับเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ดังนั้นก็ปล่อยๆ ให้ติดไปเถอะจะได้มีภูมิคุ้มกัน ถ้าไม่อาการหนักไม่ต้องมาหาหมอ จะได้เหลือที่ในโรงพยาบาลไว้ให้คนไข้อาการหนักทั้งของโควิด-19 และของโรคอื่นๆ แถมการไม่ปิดเมือง ไม่งดกิจกรรมตามปกติในชีวิตประจำวัน ทำเพียงแต่เน้นย้ำเรื่องสุขอนามัย ( กินร้อน ล้างมือ กินข้าวจะล้อมวงตักกับข้าวส่วนกลางใช้ช้อนกลางหรือจะสั่งอาหารจานเดียวกินใครกินมันก็แล้วแต่ เป็นหวัดไม่สบายก็สวมหน้ากากออกจากบ้าน ) ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมหาศาลด้วย ขนาดแค่ปิดสถานบันเทิงเสียงบ่นเสียงโวยวายเรื่องธุรกิจเจ๊ง-คนตกงานก็ดังสนั่นแล้ว ถ้าปิดเมืองเต็มรูปแบบไม่ต้องคิดว่าจะยิ่งสาหัสขนาดไหน

แต่ฝั่งไม่เห็นด้วยกับแนวคิดภูมิคุ้มกันหมู่เขาก็มีเหตุผลที่น่ารับฟัง ทั้งเชิงเทคนิคที่บอกว่าปกติภูมิคุ้มกันหมู่สร้างโดยวัคซีนที่มนุษย์พัฒนาขึ้น ไม่ใช่มาจากการปล่อยให้ติดเชื้อตามมีตามเกิดแบบนี้ แถมไวรัสโควิด-19 เป็นของใหม่มากสำหรับมนุษยชาติ เรายังไม่รู้จักมันดีพอเลย และในทางจิตใจ อารมณ์ความรู้สึก เชื่อเถอะจะมีสักกี่คนอยากเห็นพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ญาติผู้ใหญ่อันเป็นที่รักตายไปต่อหน้าต่อตา คำถามคือจะป้องกันไม่ให้เด็ก วัยรุ่นและวัยทำงาน ซึ่งติดเชื้อได้แต่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการแล้วยังใช้ชีวิตตามปกตินอกบ้าน พาเชื้อไปส่งถึงผู้สูงวัยที่บ้านได้อย่างไร

มันเป็นทางเลือกที่ลำบากจริงๆ ถ้าปิดเมืองไม่รู้จะปิดนานแค่ไหน แล้วถ้ามีการระบาดรอบใหม่ต้องปิดอีกหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ กระทบเศรษฐกิจอย่างหนัก ดังที่มีการพูดกันว่าคนที่ตายอาจไม่ใช่แค่คนแก่แต่จะตายกันทั้งบ้านเพราะอดตายไม่ก็เครียดจนฆ่าตัวตายยกครัว แต่ถ้าไม่ปิดเมือง ภาพสะเทือนใจของหลายๆ ครอบครัวที่ต้องสูญเสียญาติผู้ใหญ่ ( หรือไม่ใช่ผู้ใหญ่แต่เป็นสมาชิกที่ร่างกายอ่อนแอ ) อันเป็นที่เคารพรักก็น่าจะปรากฏเป็นข่าวรายวัน 

คิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ?

TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่