เพื่อไทย ซัด มาตรการป้องกัน โควิด-19 รัฐช้ากว่าการแพร่ระบาด
https://www.thairath.co.th/news/politic/1799524
โฆษกเพื่อไทย ชี้ มาตรการรัฐช้ากว่าการแพร่ระบาดของ โควิด-19 เสมอ ยก 3 ข้อ ที่รัฐต้องเร่งแก้ไข บอก อย่าเชื่อเพื่อไทยในฐานะฝ่ายค้าน แต่ควรมองในฐานะปชช.ร่วมชาติ
วันที่ 20 มี.ค. นาย
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อ ไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ว่า จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่สามารถวิเคราะห์ หรือประเมินแบบจำลองสถานการณ์ได้ว่า วิกฤติไวรัสโควิด-19 จะไปจบลงตรงไหน จะใช้เวลาจากนี้ไปอีกนานเท่าใด มาตรการปิดสถานศึกษา สนามมวย สนามกีฬา สถานบันเทิง ใน กทม.และปริมณฑล 14 วัน เป็นมาตรการสกัดไวรัสระบาด ที่อาจดูเบาและช้าเกินไป ถ้าคิดได้เร็วกว่านี้ รีบออกมาตรการปิดสนามมวยได้เร็ว ป่านนี้จำนวนผู้ติดเชื้อจากสนามมวย คงไม่แพร่ระบาดไปทั่วประเทศมากขนาดนี้ หรือแม้แต่การตั้งศูนย์โควิดของรัฐบาล ก็ยังตั้งช้าไปเกือบเดือน มีทั้งศูนย์โควิดที่ทำเนียบฯ และที่กระทรวงสาธารณสุข ไม่รวมศูนย์ ไม่บูรณาการ ทำให้เกิดการเดินทางไปมาของผู้คนจำนวนมาก ปัญหาหลักที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ในขณะนี้ คือ
1. ปัญหาการไร้ประสิทธิภาพ ในแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19
2. รัฐบาลตัดสินใจช้าแทบทุกกรณี และมีแนวโน้มว่าถ้าไม่แก้ไข จะช้ากว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไปเรื่อยๆ
3. รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหา หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ไม่เพียงพอ และข่าวคนในรัฐบาลที่เข้าไปเกี่ยวข้องกักตุน ปัจจุบันก็ยังไม่ได้ข้อสรุป
แนวโน้มของสถานการณ์จะเป็นอย่างไร จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นอีกพันคน หรือหมื่นคน ระยะเวลาที่ต้องต่อสู้ให้ปัญหาจบ จะยาวหรือสั้น อยู่ที่ฝีมือการบริหารจัดการของรัฐบาล ถ้าตีโจทย์ถูกก็สั้นลง ตีโจทย์ผิดก็ยาวขึ้น มีการตั้งข้อสังเกตว่า วิกฤติไวรัสรุนแรงไม่แพ้วิกฤติภาวะผู้นำ รัฐบาลพูดอะไร ประชาชนจะทำตรงกันข้ามเสมอ เช่น บอกว่าอย่ากักตุนอาหาร ประชาชนก็จะแห่ไปกักตุน แต่หวังว่า รัฐบาลคงไม่ปฏิเสธความหวังดีของพรรคเพื่อไทย และพรรคฝ่ายค้าน ชนิดที่ฝ่ายค้านบอกอะไร รัฐบาลก็จะทำตรงกันข้าม ไม่ต้องเชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคการเมืองฝ่ายค้านก็ได้ แต่ควรรับฟังในฐานะประชาชนร่วมชาติ ที่มีบุคลากรทางการเมืองของพรรค เคยฝ่าวิกฤติกำราบโรคซาร์ส-ไข้หวัดนกจนอยู่หมัดมาแล้วก็ได้
“
ประชาชนพร้อมร่วมมือสู้โควิด-19 อยู่แล้ว อยู่ที่ว่ารัฐบาลพร้อมหรือยัง รัฐบาลมีทัศนคติอย่างไร ต่อข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ รัฐบาลต้องมีคำตอบให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ” นาย
อนุสรณ์ กล่าว
''เจ๊หน่อย''เรียกร้องผู้นำต้องกล้าตัดสินใจ
https://www.dailynews.co.th/politics/763969
''คุณหญิงสุดารัตน์''จี้รัฐบาลยกระดับการควบคุมการระบาด ตาม“ยุทธการณ์ สยบ COVID 21 วัน”
เฟซบุ๊ก คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat
เรียกร้องนายกเร่งตัดสินใจ ยกระดับการควบคุมการระบาด ตาม “ยุทธการณ์ สยบ COVID 21 วัน” ที่ดิฉันได้เสนอไป
เมื่อ 17 มีนาคม เพื่อ ”สยบ”การระบาดภายใน 21 วัน
ทำเลยค่ะ จะมัวรออะไรกันอยู่ !! ''จบเร็ว คนไทยปลอดภัย เศรษฐกิจฟื้นเร็ว''
หัวใจของการควบคุมการระบาดคือ
1. ”ปิด” ไม่ให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่เข้าประเทศอย่างเด็ดขาด
2. “เปิด” ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดเชื้อ
X-Ray ปูพรมทั้งประเทศ
เพื่อนำผู้ติดเชื้อรายใหม่เข้าระบบให้มากที่สุดและเร็วที่สุด
สำหรับรายละเอียดของข้อเสนอมีดังนี้
1. “ปิด” ไม่ให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เข้าประเทศอย่างเด็ดขาด
โดยขอเสนอมาตรการขั้นเด็ดขาดให้นายกรัฐมนตรีเลือก 2 มาตรการ คือ
A. ประกาศปิดประเทศ ไม่รับผู้เดินทางจากต่างประเทศหรือB. ประกาศให้ผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ต้องถูกกักตัวเฝ้าระวังสังเกตอาการ 14 วัน โดยรัฐบาลเช่าโรงแรมเป็นสถานที่กักกันตัว มีเจ้าหน้าที่ดูแล ตาม พ.ร.บ. ควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ใครฝ่าฝืนมีโทษ
2. “เปิด” ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดเชื้อ Covid-19 ทั่วประเทศ ให้เสร็จภายใน 21 วัน เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้ได้มากที่สุดเร็วที่สุด
โดยปูพรมเอกซเรย์ทุกหมู่บ้าน ให้ผู้ที่มีอาการป่วยมีไข้ ไอ เข้า #ตรวจเชื้อ Covid19 ฟรี ภายใต้การวินิจฉัยของแพทย์ โดยใช้กลไกของสาธารณสุขที่มีทั้งโรงพยาบาลชุมชน, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ และ อสม. อยู่ทั่วประเทศ โดยใช้กลไกของมหาดไทยช่วยสนับสนุน กรุงเทพฯ ใช้ กทม. เข้ามาช่วย X-RAY ปูพรมทั้งประเทศ 3 รอบให้เสร็จภายใน 21 วัน
เพราะหัวใจสำคัญของการควบคุมการระบาดในประเทศ คือการค้นหาผู้ติดเชื้อให้ได้มากที่สุด รวดเร็วที่สุด เมื่อเปิดปฏิบัติการนี้แล้ว พบผู้ติดเชื้อมากขึ้นในเวลารวดเร็ว และนำมาเข้าระบบรักษาและควบคุมโรค แปลว่า ประชาชนภายนอกจะปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น
3.รัฐบาลต้องเร่งเตรียมความพร้อมด้านสถานที่รองรับผู้ป่วยที่จะเพิ่มมากขึ้น และผู้ที่ต้องกักตัวตาม พ.ร.บ.โรคระบาด ซึ่งดิฉันแนะนำให้รัฐเช่าโรงแรมที่อยู่ชานเมือง รวมทั้งต้องเร่งเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือ
เวชภัณฑ์ต่าง ๆ ให้พร้อมเพรียง
รัฐบาลต้องทุ่มงบประมาณให้ทุกโรงพยาบาล เพื่อจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์ในการป้องกันตัวเองของบุคลากรแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ บุคลากรที่เป็น “นักรบ Covid-19 ด่านหน้า” ให้พร้อมเพรียง อย่าให้ขาดแคลนอย่างหน้ากากอนามัยอีก
และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่บุคลากร ซึ่งถือเป็น “นักรบ Covid-19 ด่านหน้า” รัฐบาลต้องจ่ายเบี้ยความเสี่ยงให้แก่บุคลากรที่ปฏิบัติงานทุกคน
ปฏิบัติการเร่งด่วนทั้งหมดนี้ เพื่อสยบการระบาดให้เราควบคุมได้ภายใน 21 วัน
#ผู้นำต้องกล้าตัดสินใจ
รอช้าไม่ได้อีกแล้ว ต้องลงมือทำเพื่อประชาชนโดยด่วน ขณะนี้ประชาชนสับสน ไม่มั่นใจในความไม่ปลอดภัยของตนเอง วิตกทั้งเรื่อง Covid-19
วิตกทั้งเรื่องรายได้ที่เหือดหาย
“จบเร็ว คนไทยปลอดภัย เศรษฐกิจฟื้นเร็ว”
จึงจะเป็น “ชัยชนะ” ที่แท้จริงของคนไทย และประเทศไทย
#Endgame #Covid19
https://www.facebook.com/sudaratofficial/photos/a.484034281675370/2797597410319034/
JJNY : พท.ซัดมาตรการรัฐช้ากว่าการแพร่ระบาด/เจ๊หน่อยเรียกร้องกล้าตัดสินใจ/หมอเผย3โมเดลสู้/แห่ปรับจีดีพีติดลบฟันธงศก.ถดถอย
https://www.thairath.co.th/news/politic/1799524
โฆษกเพื่อไทย ชี้ มาตรการรัฐช้ากว่าการแพร่ระบาดของ โควิด-19 เสมอ ยก 3 ข้อ ที่รัฐต้องเร่งแก้ไข บอก อย่าเชื่อเพื่อไทยในฐานะฝ่ายค้าน แต่ควรมองในฐานะปชช.ร่วมชาติ
วันที่ 20 มี.ค. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อ ไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ว่า จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่สามารถวิเคราะห์ หรือประเมินแบบจำลองสถานการณ์ได้ว่า วิกฤติไวรัสโควิด-19 จะไปจบลงตรงไหน จะใช้เวลาจากนี้ไปอีกนานเท่าใด มาตรการปิดสถานศึกษา สนามมวย สนามกีฬา สถานบันเทิง ใน กทม.และปริมณฑล 14 วัน เป็นมาตรการสกัดไวรัสระบาด ที่อาจดูเบาและช้าเกินไป ถ้าคิดได้เร็วกว่านี้ รีบออกมาตรการปิดสนามมวยได้เร็ว ป่านนี้จำนวนผู้ติดเชื้อจากสนามมวย คงไม่แพร่ระบาดไปทั่วประเทศมากขนาดนี้ หรือแม้แต่การตั้งศูนย์โควิดของรัฐบาล ก็ยังตั้งช้าไปเกือบเดือน มีทั้งศูนย์โควิดที่ทำเนียบฯ และที่กระทรวงสาธารณสุข ไม่รวมศูนย์ ไม่บูรณาการ ทำให้เกิดการเดินทางไปมาของผู้คนจำนวนมาก ปัญหาหลักที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ในขณะนี้ คือ
1. ปัญหาการไร้ประสิทธิภาพ ในแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19
2. รัฐบาลตัดสินใจช้าแทบทุกกรณี และมีแนวโน้มว่าถ้าไม่แก้ไข จะช้ากว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไปเรื่อยๆ
3. รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหา หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ไม่เพียงพอ และข่าวคนในรัฐบาลที่เข้าไปเกี่ยวข้องกักตุน ปัจจุบันก็ยังไม่ได้ข้อสรุป
แนวโน้มของสถานการณ์จะเป็นอย่างไร จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นอีกพันคน หรือหมื่นคน ระยะเวลาที่ต้องต่อสู้ให้ปัญหาจบ จะยาวหรือสั้น อยู่ที่ฝีมือการบริหารจัดการของรัฐบาล ถ้าตีโจทย์ถูกก็สั้นลง ตีโจทย์ผิดก็ยาวขึ้น มีการตั้งข้อสังเกตว่า วิกฤติไวรัสรุนแรงไม่แพ้วิกฤติภาวะผู้นำ รัฐบาลพูดอะไร ประชาชนจะทำตรงกันข้ามเสมอ เช่น บอกว่าอย่ากักตุนอาหาร ประชาชนก็จะแห่ไปกักตุน แต่หวังว่า รัฐบาลคงไม่ปฏิเสธความหวังดีของพรรคเพื่อไทย และพรรคฝ่ายค้าน ชนิดที่ฝ่ายค้านบอกอะไร รัฐบาลก็จะทำตรงกันข้าม ไม่ต้องเชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคการเมืองฝ่ายค้านก็ได้ แต่ควรรับฟังในฐานะประชาชนร่วมชาติ ที่มีบุคลากรทางการเมืองของพรรค เคยฝ่าวิกฤติกำราบโรคซาร์ส-ไข้หวัดนกจนอยู่หมัดมาแล้วก็ได้
“ประชาชนพร้อมร่วมมือสู้โควิด-19 อยู่แล้ว อยู่ที่ว่ารัฐบาลพร้อมหรือยัง รัฐบาลมีทัศนคติอย่างไร ต่อข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ รัฐบาลต้องมีคำตอบให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ” นายอนุสรณ์ กล่าว
''เจ๊หน่อย''เรียกร้องผู้นำต้องกล้าตัดสินใจ
https://www.dailynews.co.th/politics/763969
''คุณหญิงสุดารัตน์''จี้รัฐบาลยกระดับการควบคุมการระบาด ตาม“ยุทธการณ์ สยบ COVID 21 วัน”
เฟซบุ๊ก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat
เรียกร้องนายกเร่งตัดสินใจ ยกระดับการควบคุมการระบาด ตาม “ยุทธการณ์ สยบ COVID 21 วัน” ที่ดิฉันได้เสนอไป
เมื่อ 17 มีนาคม เพื่อ ”สยบ”การระบาดภายใน 21 วัน
ทำเลยค่ะ จะมัวรออะไรกันอยู่ !! ''จบเร็ว คนไทยปลอดภัย เศรษฐกิจฟื้นเร็ว''
หัวใจของการควบคุมการระบาดคือ
1. ”ปิด” ไม่ให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่เข้าประเทศอย่างเด็ดขาด
2. “เปิด” ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดเชื้อ
X-Ray ปูพรมทั้งประเทศ
เพื่อนำผู้ติดเชื้อรายใหม่เข้าระบบให้มากที่สุดและเร็วที่สุด
สำหรับรายละเอียดของข้อเสนอมีดังนี้
1. “ปิด” ไม่ให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เข้าประเทศอย่างเด็ดขาด
โดยขอเสนอมาตรการขั้นเด็ดขาดให้นายกรัฐมนตรีเลือก 2 มาตรการ คือ
A. ประกาศปิดประเทศ ไม่รับผู้เดินทางจากต่างประเทศหรือB. ประกาศให้ผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ต้องถูกกักตัวเฝ้าระวังสังเกตอาการ 14 วัน โดยรัฐบาลเช่าโรงแรมเป็นสถานที่กักกันตัว มีเจ้าหน้าที่ดูแล ตาม พ.ร.บ. ควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ใครฝ่าฝืนมีโทษ
2. “เปิด” ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดเชื้อ Covid-19 ทั่วประเทศ ให้เสร็จภายใน 21 วัน เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้ได้มากที่สุดเร็วที่สุด
โดยปูพรมเอกซเรย์ทุกหมู่บ้าน ให้ผู้ที่มีอาการป่วยมีไข้ ไอ เข้า #ตรวจเชื้อ Covid19 ฟรี ภายใต้การวินิจฉัยของแพทย์ โดยใช้กลไกของสาธารณสุขที่มีทั้งโรงพยาบาลชุมชน, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ และ อสม. อยู่ทั่วประเทศ โดยใช้กลไกของมหาดไทยช่วยสนับสนุน กรุงเทพฯ ใช้ กทม. เข้ามาช่วย X-RAY ปูพรมทั้งประเทศ 3 รอบให้เสร็จภายใน 21 วัน
เพราะหัวใจสำคัญของการควบคุมการระบาดในประเทศ คือการค้นหาผู้ติดเชื้อให้ได้มากที่สุด รวดเร็วที่สุด เมื่อเปิดปฏิบัติการนี้แล้ว พบผู้ติดเชื้อมากขึ้นในเวลารวดเร็ว และนำมาเข้าระบบรักษาและควบคุมโรค แปลว่า ประชาชนภายนอกจะปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น
3.รัฐบาลต้องเร่งเตรียมความพร้อมด้านสถานที่รองรับผู้ป่วยที่จะเพิ่มมากขึ้น และผู้ที่ต้องกักตัวตาม พ.ร.บ.โรคระบาด ซึ่งดิฉันแนะนำให้รัฐเช่าโรงแรมที่อยู่ชานเมือง รวมทั้งต้องเร่งเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือ
เวชภัณฑ์ต่าง ๆ ให้พร้อมเพรียง
รัฐบาลต้องทุ่มงบประมาณให้ทุกโรงพยาบาล เพื่อจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์ในการป้องกันตัวเองของบุคลากรแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ บุคลากรที่เป็น “นักรบ Covid-19 ด่านหน้า” ให้พร้อมเพรียง อย่าให้ขาดแคลนอย่างหน้ากากอนามัยอีก
และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่บุคลากร ซึ่งถือเป็น “นักรบ Covid-19 ด่านหน้า” รัฐบาลต้องจ่ายเบี้ยความเสี่ยงให้แก่บุคลากรที่ปฏิบัติงานทุกคน
ปฏิบัติการเร่งด่วนทั้งหมดนี้ เพื่อสยบการระบาดให้เราควบคุมได้ภายใน 21 วัน
#ผู้นำต้องกล้าตัดสินใจ
รอช้าไม่ได้อีกแล้ว ต้องลงมือทำเพื่อประชาชนโดยด่วน ขณะนี้ประชาชนสับสน ไม่มั่นใจในความไม่ปลอดภัยของตนเอง วิตกทั้งเรื่อง Covid-19
วิตกทั้งเรื่องรายได้ที่เหือดหาย
“จบเร็ว คนไทยปลอดภัย เศรษฐกิจฟื้นเร็ว”
จึงจะเป็น “ชัยชนะ” ที่แท้จริงของคนไทย และประเทศไทย
#Endgame #Covid19
https://www.facebook.com/sudaratofficial/photos/a.484034281675370/2797597410319034/