สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนค่ะ หญิงเองนะคะ พอดีพึ่งผ่านประสบการณ์แก้หน้าครั้งแรกในชีวิตมาจากการทำจมูกครั้งแรก เรียกว่าพึ่งได้ทำหน้าครั้งแรกก็ต้องมาแก้ใหม่แล้ว เฟี้ยวมาก หญิงรู้สึกว่าอยากจะบอกเล่าไว้เป็นอนุสรณ์จารึกไว้สักหน่อย เลยมาตั้งกระทู้นี้ค่ะ 

ต้องเล่าก่อนว่าแต่แรกเนี่ย หญิงมีปัญหาดั้งแหมบค่ะ ไม่มีสันดั้งเลย เลยตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าอยากทำจมูก ก็รอไปเรื่อยจนเรียนจบทำงานโน่นแหละค่ะ ถึงได้เก็บเงินมาทำจมูกได้ ด้วยว่ามันเป็นการผ่ามีดหมอครั้งแรกในชีวิต หญิงจึงแทบจะไม่รู้อะไรเรื่องศัลยกรรมเลย ไม่รู้จะไปปรึกษาใครด้วย เพราะคนรอบตัวไม่มีใครเคยทำจมูกเลย สุดท้ายหญิงจึงแบกสังขารพาตัวเองไปที่คลินิกแถวบ้านตัวคนเดียวเลย ไปเองนักเลงพอ ถ้าไม่ติดว่าตัวเองไม่ใช่หมอ ก็อาจจะเอามีดกับซิลิโคนมาเสริมจมูกเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยก็ได้(ล้อเล่นนะ)

จริงๆการทำจมูกครั้งแรกก็ถือว่าราบรื่นนะคะ ไม่มีปัญหาอะไร จะมีที่รู้สึกปวดกับรอยช้ำเยอะหน่อย แต่มันก็เป็นเรื่องปกติของคนทำจมูกนั่นแหละ หญิงก็รอไปเรื่อยๆจนกระทั่งหายดีแล้ว เลยได้พบว่า….

นี่คือจมูกของหญิงหลังทำรอบแรกคะ คือมันแทบจะไม่เปลี่ยนไปจากก่อนทำเท่าไรเลย ที่สำคัญคือถ้าดูดีๆมันแอบเบี้ยวนิดๆด้วย ตอนนั้นคืองงมาก ฉันเสียเงินเป็นหมื่นเพื่อให้ได้จมูกแบบนี้มาเหรอ ก็เลยไปคุยกับทางคุณหมอที่ทำจมูกให้ ว่าทำไมจมูกหญิงมันเป็นแบบนี้ ขอแก้ได้ไหม ปรากฏว่าไม่ได้ค่ะ หมอบอกว่าจมูกก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกตินี่ ไม่ทะลุไม่ทิ่มแล้วจะมาแก้ทำไม เอาไว้ให้พังจริงๆแล้วมาแก้ คือไม่รับเคลมแหละว่าง่ายๆ อะไรก็ปัดออกอย่างเดียว ตอนนั้นหญิงนอยด์มาก คิดได้ว่าเป็นความซวยของเราเองล่ะที่ทำให้ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ช่วงแรกก็พยายามจะหลอกตัวเองว่ามันไม่แย่อะไรขนาดนั้นหรอก ดูดีๆก็โด่งอยู่ แต่ก็หลอกตัวเองไม่สำเร็จค่ะ เพราะคนรู้จักที่รู้ว่าหญิงไปทำจมูกมาก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “อ้าว นี่ทำจมูกแล้วเหรอ ดูไม่ออกเลยนะเนี่ยว่าทำ” โอเคพอ จะไม่ทนแล้วววว ฉันจะไปแก้จมูก!!!

คราวนี้หญิงจะไม่ยอมผิดพลาดเป็นครั้งที่สอง หญิงก็หาข้อมูลคลินิกใหม่จากในเน็ตเต็มที่เลยค่ะ ตั้งใจเลือกคลินิกให้ดีๆ ไม่ให้ต้องกลับมาแก้รอบสองอีก ก็นั่งค้นหารีวิวเกี่ยวกับการแก้จมูกไปเรื่อย จนมาสะดุดตากับศรัณย์คลินิก เพราะเขามีเคสแก้จมูกให้จากที่อื่นมาเยอะเหมือนกัน ซึ่งจากการที่หญิงได้หาข้อมูลมา หญิงรู้ว่าการแก้จมูกมันยากกว่าทำจมูกปกติซะอีก หมอไม่ค่อยอยากรับแก้กัน แต่ที่นี่รับแก้เยอะ แสดงว่าหมอต้องเก่งแหละ หญิงคิดแบบนี้แล้วก็เลยติดต่อกับทางศรัณย์คลินิกเลยค่ะ ไม่อยากเสียเวลานาน

สำหรับคลินิกนี้ คุณหมอศรัณย์ที่เป็นเจ้าของคลินิกเขามาคุยด้วยตัวเองเลยค่ะ เขาก็แนะนำว่าถ้าจะแก้จมูก ควรทำจมูกแบบ Open เพราะทำแบบนี้จะแก้ไขปรับทรงจมูกได้ง่ายกว่า และจะได้ไม่มีปัญหาเบี้ยวด้วย หญิงก็โอเคค่ะ จะได้ไม่ต้องแก้อีก ก่อนทำก็ย้ำกับหมอด้วยว่าขอโด่งๆนะ ไม่อยากได้ธรรมชาติเกินค่ะ เสียเงินทั้งทีก็อยากให้ชาวบ้านว่าฉันไปทำจมูกมานะยะ 

ภาพนี้หญิงถ่ายหลังจากที่แก้จมูกกับหมอศรัณย์ทำมาเรียบร้อยแล้วค่ะ เป็นการแก้จมูกด้วยวิธี open ใช้กระดูกอ่อนหลังหูเสริมปลายจมูก จะเห็นว่าจมูกหญิงดูโด่งขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเลย เป็นแบบที่หญิงต้องการเลย มีรอยช้ำนิดหน่อยตรงสันจมูก แต่หมอเย็บเนียนมากแทบไม่เห็นรอยไหมเลย ประทับใจตรงที่จมูกไม่บวมเลยค่ะ หญิงไม่ได้ประคบเย็นนะคะ เพราะทางคลินิกเขาจะมีเฝือกลดบวมให้ด้วย แล้วหญิงก็กินน้ำฟักทองกับกินน้ำใบบัวบกทุกวันค่ะ เพราะน้ำเหล่านี้ช่วยลดอาการอักเสบและลดการบวม จมูกจะได้ไม่บวมไปมากกว่านี้ 

ส่วนในเรื่องของการดูแลตัวเองและข้อห้ามก็เหมือนกับทำจมูกทั่วไปเลยค่ะ มีห้ามดื่มแอลกอฮอล์ พวกของแซ่บของดองก็พักก่อน(งดยำไปยาวๆจ้า TT) ห้ามโดนน้ำอย่างน้อย7วัน แล้วก็ให้นอนหมอนสูงค่ะ แต่หญิงใช้เป็นหมอนรองคอเลย ลำบากนิดหนึ่งช่วงแรกๆแต่สักพักก็ชินค่ะ

หลังผ่านไป5วันก็ไม่มีรอยช้ำเหลือแล้ว ดูจากในรูปจะเห็นว่าดูเหมือนจมูกปกติมากๆ แค่โด่งขึ้นกว่าเดิม และไม่เบี้ยวอีกแล้ว(เย้) หญิงก็มีเริ่มแต่งหน้าบ้างอะไรบ้าง แต่ก็เลี่ยงไม่แตะจมูกนะ ออกไปไหนมาไหนได้ชิวๆ ไม่อายค่ะ ในระหว่างนี้ก็หมั่นดูแลรักษาแผลที่จมูกดีๆนะคะ พยายามทำความสะอาดใช้สำลีชุบน้ำเช็ดแผลบ่อยๆไม่ให้หมักหมมหรือมีเลือดแห้งๆเกาะไหม เวลาที่ตัดไหมจะได้ไม่มีปัญหาค่ะ

รูปนี้1สัปดาห์ค่ะ ตัดไหมเรียบร้อยแล้ว จมูกเริ่มเข้าที่ เริ่มดีขึ้นกว่าเดิมมาก หญิงถ่ายจมูกแบบตะแคงให้ดูว่ามันโด่งขึ้นจริงๆ โค้งสวยเลย ถูกใจมากๆ แบบนี้สิค่อยสมกับที่เสียตังค์ทำมาหน่อย แต่ตอนนี้ก็ยังถือว่าไม่สวยสมบูรณ์100%นะคะ ต้องรอโน่นสักเดือนสองเดือนแหละค่ะ จะเห็นชัดที่สุดว่าจมูกที่หญิงได้มาจะปังหรือพังกันแน่? 

นี่คือจมูกใหม่ของหญิงเองค่ะหลังจากผ่านการแก้เรียบร้อย และพักฟื้นจนเข้าที่ จะเห็นเลยว่าทรงเปลี่ยนไปจากก่อนทำเลย ส่วนตัวแล้วบอกเลยว่าถูกใจมากๆๆ จมูกโด่งดีมากแต่ก็ไม่ได้โด่งจนดูโป๊ะปลอมนะ ดูเข้ากับหน้ามาก นี่แหละจมูกที่หญิงต้องการตั้งแต่ที่ทำตอนแรก แต่ดันมาได้ที่ถูกใจจริงก็ตอนมาแก้อีกทีนี่แหละ 

จะเห็นว่าพอทรงจมูกหญิงเปลี่ยน ก็ทำให้รูปหน้าดูเปลี่ยนไปด้วย ดูไม่แป้นๆเหมือนแต่ก่อน จนบางคนยังทักเลยว่าทำจมูกมาแล้วฉีดโบด้วยหรือเปล่า ทำไมหน้าดูเรียวขึ้น ทั้งที่จริงหญิงทำแค่จมูกอย่างเดียวเอง ก็งงดีเหมือนกัน แต่นอกจากที่คนอื่นทักแล้ว ตัวหญิงเองก็รู้สึกชอบนะ มั่นใจมากขึ้น กล้าแต่งหน้าแต่งตัว เวลาถ่ายรูปก็ไม่ต้องใช้แอพเหมือนเมื่อก่อน ถือว่าเป็นการซื้อความมั่นใจของตัวเองกลับมาด้วยหลังจากที่เสียไปเยอะเพราะทำจมูกครั้งแรกแล้วไม่สวย

สำหรับใครที่อยากทำจมูกหรืออยากแก้จมูก แล้วไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน หญิงแนะนำศรัณย์คลินิกเลยคะ หมอเขาทำดีจริง ใจดีไม่ดุด้วย อยากจะขอบคุณหมอมากจริงๆที่รับแก้จมูกให้ ไม่งั้นหญิงคงเครียดไปอีกนานนน แถมคนในคลินิกก็ดูแลดีมากๆด้วย มาทำคนเดียวแล้วไม่กลัวเลย เป็นการแก้จมูกที่ชิวมากจริงๆ ค่ะ ไม่น่ากลัวเลยสักนิด ไว้ครั้งหน้าคงได้เก็บเงินไปทำอย่างอื่นเพิ่มด้วยแน่นอน