[CR] รีวิวการทำจมูกแบบโอเพ่นด้วยกระดูกอ่อนหลังหู ที่ศรัณย์คลินิก

สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ การทำจมูกของเราเองค่ะ เพราะเราเป็นคนที่เนื้อจมูกน้อยมากๆ ไม่น่าจะทำจมูกได้ ตอนแรกเราก็ถอดใจ นึกว่าจะไม่มีโอกาสได้ทำจมูกกับเค้าแล้วค่ะ แต่สุดท้ายก็ได้ทำ แล้วออกมาถูกใจด้วย เลยอยากมาแชร์กันค่ะ 


          ขอเล่าย้อนไปนิดนึงค่ะว่าเมื่อก่อนก็ไม่ได้มีความคิดอยากจะทำศัลยกรรมอะไรพวกนี้เลย แต่ทุกอย่างเริ่มที่เพื่อนเราค่ะ เพื่อนเราทำงานเป็นเป็น PR อยู่ วันนั้นงานที่รับไว้คนขาดค่ะ น้องที่ดีลไว้เกิดเบี้ยวงาน เพื่อนก็เลยให้เราไปแทนก่อน เพื่อคนจะได้ครบตามที่ตกลงไว้ เราก็ไปค่ะ เพราะตอนนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างก็คือ...ได้ตังค์ค่ะ 5555 หลังจากการไปเป็น PR ครั้งแรก (ด้วยความจำเป็น) ครั้งที่ 2 3 4 ก็ตามมาค่ะ แต่เราไม่ได้ทำเป็นงานประจำนะ ก็ทำบ้างแล้วแต่เวลาแล้วแต่โอกาส ก็ทำแบบนี้เรื่อยๆจนเรียนจบเลยค่ะ 

          พอเรียนจบเราก็ว่างงาน สมัครไปที่ไหนเค้าก็ยังไม่เรียกสัมภาษณ์ ก็เลยคิดว่าจะทำอาชีพนี้ไปก่อนระหว่างรองาน เพราะเราก็ไม่อยากจะขอพ่อแม่แล้ว อยากหาเงินใช้ได้ด้วยตัวเอง ตอนแรกก็คิดหนักเลยว่าถ้าไปทำอาชีพนั้นจะมีคนมองเราแบบไหน มันจะดูไม่ดีในสายตาคนภายนอกหรือเปล่า มันจะส่งผลกระทบการงานของเราในภายภาคหน้าหรือเปล่า แต่ก็สุดท้ายเราก็เลือกที่จะทำ เพราะเรารู้ตัวเองดีค่ะว่าเราเป็นยังไง ไม่ได้ไปทำอะไรเสียหาย ผิดศีลธรรม เลยตัดสินใจรับงาน PR แบบเต็มตัวไปเลยค่ะ

          พอเริ่มรับงาน ก็เริ่มเจอเพื่อนๆ PR เยอะขึ้น แต่ละคนก็สวยมากเลยค่ะ ตอนนั้นเรารู้ตัวเลยค่ะว่า เรายังสวยไม่พอ เริ่มไม่ค่อยมั่นใจเท่าเลย เราก็เลยอยากพัฒนาตัวเองให้มากกว่านี้ เพื่อน PR ด้วยกันก็แนะนำค่ะว่าให้เราไปทำจมูกเพิ่ม บอกว่า หน้าเราดีอยู่แล้ว แค่เสริมจมูกให้หน้าเราดูมิติขึ้นก็โอเคแล้ว ในที่สุดเราตัดสินใจได้ว่า เราจะทำจมูก เพราะไม่ว่าเราจะยังทำ PR หรือเลิกทำไปแล้ว หน้าตาที่มันดูดีขึ้นก็ยังอยู่กับเรา 


รูปก่อนทำของเราค่ะ

         
          หลังจากที่ตัดสินใจได้ว่าจะทำจมูกเราก็หาข้อมูลจากกูเกิ้ลต่างๆนาๆ ว่าควรทำทีไหนดี ต้องเป็นที่ที่ปลอดภัย ต้องเป็นที่ที่หมอมีความเชี่ยวชาญ เพราะตัวเราก็อยากจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ดูอยู่หลายที่ จดลิสต์คลินิกที่จะทำไว้เป็นสิบชื่อเลย บวกกับอาศัยการถามจากเพื่อนพริตตี้ PR ด้วยกันว่าไปทำที่ไหนกันมาบ้าง ที่ไหนโอเคสุด จนเราตัดสินใจได้ว่าจะไปทำกับหมอศรัณย์
  
          หมอศรัณย์เราอ่านเจอหลายรีวิว ติดโพลหมอที่ทำดีเป็นอันดับต้นๆเลย บวกกับเพื่อนๆสายอาชีพเดียวกันก็ไปทำมาแล้วหลายคน คือเราได้เห็นจริงๆเลยว่า เพื่อนๆร่วมวงการที่ไปทำจมูกกับหมอศรัณย์ จมูกสวย ได้รูป แล้วก็ดูเป็นธรรมชาติด้วย หลังจากตัดสินใจได้เราก็ติดต่อขอจองคิวหมอเลยค่ะ
  
          พอถึงวันที่หมอนัดไปคุยรายละเอียด หมอก็ให้เวลาในการให้คำปรึกษา และก็ดูเนื้อจมูกของเราค่ะ หมอบอกว่า เนื้อจมูกเราน้อย ปลายจมูกกลม เชิด สันเตี้ย ซึ่งหมอก็แนะนำให้เราทำแบบ โอเพ่น ด้วยกระดูกอ่อนหลังหู เพราะว่าด้วยความที่กระดูกอ่อนหลังหูเรามันเป็นเนื้อเยื่อของตัวเราเอง ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมนอกร่างกายเรา พอทำเสร็จจะดูเป็นธรรมชาติ โอกาสเบี้ยว ซิลิโคนทะลุแทบจะไม่มีเลย เราก็โอเค ตกลงรอที่จะได้ไปทำจริงๆ อีกอย่างที่เราชอบที่สุดคือ คือคุณหมอดีมาก ไม่ฮาร์ดเซลล์ อันนี้ชอบสุดๆเลย เพี้ยนขอบคุณ


เราจะแปะรูปจมูกเราแบบชัดๆอีกครั้งค่ะ

          ระหว่างที่รอวันไปทำเราก็จัดแจงเตรียมของที่จำเป็นต้องใช้ระหว่างพักฟื้น เช่น หมอนรองคอ สำลี น้ำเกลือ แผ่นประคบเย็น เราซื้อมา 2 อันเลยค่ะ ไว้ผลัดกันประคบ 
 
          วันทำจริงก็มีอาการตื่นเต้นค่ะ 555 อันนี้เราเชื่อว่าใครหลายคนก็เป็นแหละ ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรไว้เลย อีกอย่างก็ไม่ได้คิดว่าวันนึงตัวเองจะอยากรีวิวการทำจมูกของตัวเอง เพี้ยนสะอื้น พวกพี่ๆผู้ช่วยที่คลินิกก็บริการดีค่ะ เอาใจใส่เราดีมากเลย ถึงเวลาที่จะได้ทำจริงๆหมอก็ให้เราไปล้างหน้าให้สะอาด บอกอีกนิดนึงค่ะ วันที่ไปทำเราหน้าสดไปเลยค่ะ แต่ก่อนจะทำจริงๆก็ล้างหน้าเพื่อความสะอาดอีกรอบ
  
          วันจริงเราไปกับเพื่อนค่ะ หลังทำเสร็จก็กลับกันเลย วันแรกกลับไปก็ใช้หมอนรองคอแล้วก็หนุนกับตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ของเรา เรานอนหว่างขามันเลยมันจะคล้ายๆกับว่าขามันจะล็อคคอเราอีกที มันจะคล้ายๆท่าที่เวลาเรากึ่งนั่งกึ่งนอนอ่ะค่ะ  เพี้ยนฝันดี
  
          เนื่องจากว่า เราหยุดงานนานไม่ได้ เงินมันจะหมดเอาค่ะ เพี้ยนกินมาม่า  เราเลยต้องดูแลตัวเองเป็นอย่างดีและเข้มงวดกับตัวเองมากๆ

1. เรากินยาตามที่หมอให้มาครบทุกอย่าง
2. งดเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ ของหมักดอง (อยากปูปลาร้าแค่ไหนก็ต้องอดใจไว้ค่ะ)
3. พยายามไม่ก้มหน้ามากเกินไป 1 เดือน
4. ไม่ล้างหน้าจนกว่าแผลจะปิดสนิท
  
           ช่วงอาทิตย์แรกเราก็เป็นเด็กดีของหมอเลยค่ะ กินยาตามที่หมอสั่งไม่ขาดตกบกพร่องเลย ล้างแผล อันนี้เราพยามเช็ดคราบเลือดด้วยไปในตัวด้วย พยายามไม่ให้คราบเลือดแข็งๆ เกาะที่ไหม เพราะไม่อย่างนั้นตอนตัดไหมจะเจ็บมากถึงมากที่สุด แต่...เราไมได้ประคบเย็นแบบที่อื่นนะคะ ถ้าเป็นหมออื่นเค้าจะให้ประคบเย็นค่ะ แต่ที่ศรัณย์คลินิกเค้าใส่เฝือกให้ค่ะ ช่วยลดอาการบวมได้อยู่แล้ว  หลังจากนั้น 7 วันเราก็ได้ตัดไหม จะบอกว่า ช้ำน้อยมากค่ะ หมอมือเบาสุด 
 
           ขอเพิ่มเติมเรื่องเฝือกนิดนึงค่ะ จากที่คุยกับเพื่อนๆในวงการแล้วคือ มีที่ศรัณย์ที่เดียวค่ะที่ใส่เฝือกให้ เฝือกเค้าจะใส่ให้ 3-5 วันค่ะ เฝือกมันจะช่วยบล็อคจมูกให้อยู่ทรง ลดอาการบวม แล้วก็ช่วยกดเลือกที่ค้างจากการผ่าตัดให้ออกมามากที่สุด แล้วที่ศรัณย์คลินิกเค้าใส่เฝือกทุกเคสค่ะ ไม่ว่าจะแบบหลังหูหรือแบบปกติทั่วไปเพราะคนรู้จักที่ทำที่ศรัณย์คลินิกก็ใส่เฝือกเหมือนกัน 

ของเราแค่เดือนเดียวจมูกก็เข้าที่แล้วค่ะ 

หลังจากทำจมูกเรียบร้อยแล้ว

เราชอบมาเลย รู้สึกว่าจมูกโด่งขึ้น 
หน้าดูมิติขึ้นเยอะเลยค่ะ


แต่งหน้าออกแบบ everyday look ก็สวย

ยิ่งแต่หน้าไปทำนก็ยิ่งมั่นใจค่ะ 
  
          หลังจากที่ทำจมูกกับหมอศรัณย์แล้วก็มีคนบอกมาเยอะเลยว่าหน้าเราดีขึ้น เราเองก็รู้สึกว่าหน้าเราดูมีมิติขึ้น แต่งหน้าง่ายขึ้น บางทีแต่งๆน้อยๆก็สวยได้ หน้าก็ดูเด็กลงกว่าตอนก่อนทำด้วยค่ะ 
  
          ใครที่กำลังลังเลหรือกำลังตัดสินใจเลือกคลินิกทำศัลยกรรมจมูกเราก็อยากแนะนำหมอศรัณย์อีกเสียงค่ะ ขอคอนเฟิร์มว่า ผลที่ได้หลังทำถูกใจเรามาก คุณหมอพูดดี แล้วก็ไม่ฮาร์ดเซลล์ด้วย หวังว่ากระทู้รีวิวของเราน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากทำจมูกแต่เนื้อจมูกน้อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ชื่อสินค้า:   ศรัณย์คลินิก
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่