เริ่มเรื่อง ผมเป็นคนโชคดี
ถูกเลือกให้ ออกจากงานที่ทำมา 20ปี ในสิ้นเดือนนี้แล้ว มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่มนุษย์ เงินเดือน เกลียดที่สุดคือ เสียภาษี ซึ่งผมก็ได้สอบถามทั้ง HR, ทั้งโทรไปถาม และ ไปถึงที่สรรพากร เองเลย ตั้งแต่เริ่ม โคตรงง จนตอนนี้พอจะเข้าใจได้บ้าง แต่ไม่แน่ใจ และยังตัดสินใจไม่ได้
หลังจากศึกษามา ถ้าเราได้ทั้งเงินเลิกจ้าง และ เงินที่ออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินที่ได้รวมกันนี้ สามารถ แยกยื่น ตามมาตรา 48(5) ซึ่งทำได้ครั้งเดียวเหตุจากถูกเลิกจ้าง จะทำให้เราใช้สิทธิ ลดหย่อน (อายุงาน) x7000 แล้ว หักออกอีก 50% โดยประมาณ ซึ่งตอนแรกผมก็คิดใช้ สูตรนี้ เพราะ คำนวณแล้ว
เงินชดเชยตามกฏหมาย+เงินชดเชยเพิ่มเติม รวมกันเกือบ 1ล้าน และเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หักส่วนสะสมของตัวเองออกแล้ว ก็ประมาณ 9.6แสน น่าจะเสียภาษีรวม ประมาณ 1แสน
แต่ปรากฎว่า หลังจาก COVID-19 มาเยี่ยมเยือน และ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ของผมที่ลงในหุ้นไว้ 25% ก็ทิ้งดิ่งแบบ กามิกาเซ่(ตกกันถ้วนหน้า) ทำให้เงินผลประโยชน์ ติดลบ ไปเกือบ 1แสน เปรียบเทียบจากสิ้นปีที่แล้ว ทำให้ผมตัดสินใจและมีคำถามคือ
1.ตอนนี้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขาดทุน 1แสน ถ้าจะเก็บกองทุนโดนรักษาสภาพปีละ 500บาท ไปเรื่อยๆแล้วรอจนฝุ่นหายตลบ อาจจะอีก 2-3ปี จนเงินกองทุนใกล้เคียงก่อนติดลบ แล้วค่อยขาย จะดีกว่าไหม(แต่ไม่คิดจะเก็บถึง อายุ 55 เพราะภาระเยอะมาก และอีก 10ปี ถึงจะครบอายุ 55)
2.แต่ถ้าขายตอนนั้น ผมต้องเสียภาษี ตามมาตรา40(1) ถูกไหมครับ และไม่แน่ใจว่า เงินได้จากการออกจากกองทุน นับเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 1 ใช่หรือเปล่า
3.ซึ่งถ้าเป็น เงินได้พึงประเมินประเภทที่ 1 ตามมาตรา40(1) จะสามารถ หักค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นการเหมา ร้อยละ 50 ของเงินได้(รวมไม่เกิน 100000) และค่อยมาหักค่าลดหย่อนส่วนตัว ถูกไหมครับ ผมลองใส่ตัวเลขคร่าวๆที่หักลดหย่อนได้ ก็ประมาณนี้ อบากถามว่าผมคำนวณ ถูกหรือเปล่า
ขายกองทุนสำรอง หักส่วนตัวเองออก 960,000
หักค่าใช้จ่ายเหมาแต่ไม่เกิน 1แสนบาท 100,000
ลดหย่อน ตนเอง 60,000
ภรรยา 60,000
ลูก 3คน 90,000
มารดา 30,000
ดูแลผู้พิการ 60,000
ดอกเบี้ยบ้าน 35,000
RMF ซื้อ15% เงินได้ 144,000
หักค่าใช้จ่าย 574,000
เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย ไปคิดภาษี 386,000 ก็น่าจะเสียภาษีประมาณ 2หมื่น ก็รับได้
4.กรณีนี้ เก็บกองทุนรอวันขึ้น และยังมีสิทธิ หักลดหย่อน วิธีนี้น่าจะดีสุด หรือ ผู้รู้ที่เข้าใจมากกว่า ช่วยเข้ามาให้คำแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณล่วงหน้า
ออกจากงาน เดือนนี้ กับ เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่หายไป
หลังจากศึกษามา ถ้าเราได้ทั้งเงินเลิกจ้าง และ เงินที่ออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินที่ได้รวมกันนี้ สามารถ แยกยื่น ตามมาตรา 48(5) ซึ่งทำได้ครั้งเดียวเหตุจากถูกเลิกจ้าง จะทำให้เราใช้สิทธิ ลดหย่อน (อายุงาน) x7000 แล้ว หักออกอีก 50% โดยประมาณ ซึ่งตอนแรกผมก็คิดใช้ สูตรนี้ เพราะ คำนวณแล้ว
เงินชดเชยตามกฏหมาย+เงินชดเชยเพิ่มเติม รวมกันเกือบ 1ล้าน และเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หักส่วนสะสมของตัวเองออกแล้ว ก็ประมาณ 9.6แสน น่าจะเสียภาษีรวม ประมาณ 1แสน
แต่ปรากฎว่า หลังจาก COVID-19 มาเยี่ยมเยือน และ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ของผมที่ลงในหุ้นไว้ 25% ก็ทิ้งดิ่งแบบ กามิกาเซ่(ตกกันถ้วนหน้า) ทำให้เงินผลประโยชน์ ติดลบ ไปเกือบ 1แสน เปรียบเทียบจากสิ้นปีที่แล้ว ทำให้ผมตัดสินใจและมีคำถามคือ
1.ตอนนี้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขาดทุน 1แสน ถ้าจะเก็บกองทุนโดนรักษาสภาพปีละ 500บาท ไปเรื่อยๆแล้วรอจนฝุ่นหายตลบ อาจจะอีก 2-3ปี จนเงินกองทุนใกล้เคียงก่อนติดลบ แล้วค่อยขาย จะดีกว่าไหม(แต่ไม่คิดจะเก็บถึง อายุ 55 เพราะภาระเยอะมาก และอีก 10ปี ถึงจะครบอายุ 55)
2.แต่ถ้าขายตอนนั้น ผมต้องเสียภาษี ตามมาตรา40(1) ถูกไหมครับ และไม่แน่ใจว่า เงินได้จากการออกจากกองทุน นับเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 1 ใช่หรือเปล่า
3.ซึ่งถ้าเป็น เงินได้พึงประเมินประเภทที่ 1 ตามมาตรา40(1) จะสามารถ หักค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นการเหมา ร้อยละ 50 ของเงินได้(รวมไม่เกิน 100000) และค่อยมาหักค่าลดหย่อนส่วนตัว ถูกไหมครับ ผมลองใส่ตัวเลขคร่าวๆที่หักลดหย่อนได้ ก็ประมาณนี้ อบากถามว่าผมคำนวณ ถูกหรือเปล่า
ขายกองทุนสำรอง หักส่วนตัวเองออก 960,000
หักค่าใช้จ่ายเหมาแต่ไม่เกิน 1แสนบาท 100,000
ลดหย่อน ตนเอง 60,000
ภรรยา 60,000
ลูก 3คน 90,000
มารดา 30,000
ดูแลผู้พิการ 60,000
ดอกเบี้ยบ้าน 35,000
RMF ซื้อ15% เงินได้ 144,000
หักค่าใช้จ่าย 574,000
เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย ไปคิดภาษี 386,000 ก็น่าจะเสียภาษีประมาณ 2หมื่น ก็รับได้
4.กรณีนี้ เก็บกองทุนรอวันขึ้น และยังมีสิทธิ หักลดหย่อน วิธีนี้น่าจะดีสุด หรือ ผู้รู้ที่เข้าใจมากกว่า ช่วยเข้ามาให้คำแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณล่วงหน้า