ปิดการใช้ไฟฟ้าในบ้านหมดแล้ว แต่มิเตอร์ไฟยังวิ่งอยู่ กรณีนี้ถือเป็นไฟรั่ว หรือไม่คะ

สอบถามข้อมูลค่ะ พอดีเราได้รับแจ้งยอดบิลค่าไฟบ้านแม่ที่ต่างจังหวัดค่ะ เดือนนี้ทะลุไป 700 กว่าหน่วยค่ะ ตอนแรกก็สอบถามทางบ้านไปว่าทำไมใช้ไฟโหดจังเลย ซึ่งแม่ก็บอกว่าใช้ปกติ (แม่อยู่บ้านคนเดียวค่ะ) เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านก็มีทั่วไปค่ะ แอร์ 1 ตัว พัดลม 2 ตัว ทีวี ตู้เย็น แม่เราลองสับคัทเอ้าทั้งบ้านแล้ว มิเตอร์ก็ยังหมุนอยู่ค่ะ ซึ่งเรามองว่าไม่ปกติก็เลยโทรแจ้งการไฟฟ้าเค้าบอกว่าจะส่งคนมาดู เราให้เบอร์ติดต่อแม่เราค่ะ กะให้เค้าคุยกันเอง แต่ก็ไม่ได้ตกลงกันว่าจะเข้ามาตอนไหน วันไหน กี่โมง เราก็บอกแม่ว่า เนี่ยจะมีคนเข้าไปนะ แม่ก็บอกอ้าวหรอ ออกมาทำธุระ ต่างอำเภอกำลังจะกลับ แล้วก็คลาดกันค่ะ


เบื้องต้นเท่าที่เจ้าหน้าที่โทรมาเค้าแจ้งว่า มิตเตอร์ไฟหมุนเร็วมากเลย ในบ้านเปิดเครื่องอะไรทิ้งไว้ไหม แม่เราก็ตอบว่าไม่ได้เปิดออกมาตอนสายปิดไฟ ถอดปลั๊กที่ไม่ใช้ออกหมดแล้ว แต่เนื่องจากไม่มีคนอยู่บ้านทำให้เจ้าหน้าที่ไม่เห็นว่าถ้าปิดคัทเอ้าไฟจะหมุนไหม ก็เลยนัดพบกันใหม่ วันพรุ่งนี้

แต่ที่เราแปลกใจคือ แม่เล่าว่า “เจ้าหน้าที่บอกว่ามิตเตอร์มันหมุนเร็วมากเลย แต่ก็เป็นปกติของคนที่ใช้ไฟ ทำอะไรไม่ได้ ให้แม่เราหาช่างไฟมาด้วยจะได้ดูว่าเกิดอะไรขึ้น”

กรณีนี้เราสงสัยค่ะ ว่าทำไมต้องหาช่างไฟมาเองด้วย (ถามในฐานะคนที่ไม่รู้เรื่องไฟ และไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับมิเตอร์ไฟฟ้าใดๆค่ะ) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเช็คให้ไม่ได้หรอคะ เพราะตอนนี้บอกตรงๆ กังวลค่ะ แม่เราอายุมากแล้วด้วยเกรงว่าจะอธิบายและสื่อสารกันไม่เข้าใจ แต่จะกลับไปช่วยดูเลยตอนนี้ก็ไม่สะดวกค่ะ ส่วนเรื่องบิลค่าไฟรอบนี้เราจำเป็นต้องจ่ายไปก่อนไหมคะ หรือขอหยุดชำระก่อนได้  และในกรณีนี้ถ้าเกิดว่ามีไฟรั่วทางเราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดใช่ไหมคะ เพราะเห็นว่าต้องเรียกช่างมาเอง หรือถ้าเป็นที่ตัวมิเตอร์เสียกรณีนี้เราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอีกด้วยไหมคะ เพราะแม่บอกว่า เจ้าหน้าที่มีแจ้งไว้ว่า อาจจะเสียเงินค่าเรียกเข้ามาดู หรือค่าอะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ (แม่เราก็เล่าแบบ งงๆ ใช้คำพูดไม่ค่อยเคลีย์เท่าไหร่)




แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่