ขอเริ่มเล่าตั้งแต่ต้นนะครับ ผมเจอกับภรรยาผ่านทางอินเทอร์เน็ต ผมรักเค้าตั้งแต่แรกพบ เค้าไม่ใช่คนสวยแต่ผมก็รัก ตอนเจอกันครั้งแรกไม่ถึงอาทิตย์ภรรยาผมก็ถูกแม่ยายจับแต่งกับอีกคนที่รวยกว่า ซึ่งในตอนนั้นผมเป็นแค่พลทหารไม่มีงานเป็นหลักแหล่งแม่ยายไม่ชอบขี้หน้าผม ส่วนภรรยาผมไม่ยอมแต่งกับคนที่แม่เขาเลือก เขาจึงถูกแม่แท้ๆขังไว้ในห้องไม่ให้กินข้าวกินปลาเกือบ1อาทิตย์ จนภรรยาขอผมพาหนีออกจากบ้านผมก็โอนเงินให้ภรรยาหนีประมาน10,xxx บาท จนเขาหนีมาหาผมที่ภาคกลางค่ายทหาร ตอนนั้นผมใกล้ปลดประจำการแล้ว เลยตกลงว่าเรารักกันจริงจดทะเบียนทันทีแบบไม่มีอะไรลังเล ภรรยารักผมมากและผมก็รักเค้ามากก่อนหน้าที่เราจะคบกันผมยอมรับผมมีแฟนอยู่แล้วแต่ไม่ได้อยู่กินนะ แฟนทั่วไป แต่ผมก็ตัดสินใจเลิกแฟนคนนั้นที่เพียบพร้อมด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานและการเงิน เพราะผมไม่ได้รักและไม่อยากนอกใจภรรยาคนปัจจุบันรวมถึงให้ความหวังอีกคน (ผมเคยเลวมาก่อนไม่ขอชมตัวเองเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียวเลยเล่าความเลวก่อนเลย) ผมรักภรรยามาก ภรรยาผมน้ำหนัก100 กว่า ผมน้ำหนัก 70 แต่ผมยอมกินนมข้นหวานกับขนมปังเพื่อให้น้ำหนักทะลุเร็ว จนผมน้ำหนัก105 กิโลขึ้นมา 35 กิโลใน 1 เดือนกว่าๆ เนื่องจากไม่อยากให้ภรรยาโดนล้อเลียนฝ่ายเดียว พอเราจดทะเบียนเสร็จเราก็หนีตามกันไป ตอนนั้นลำบากมากผมทำงานคนเดียวได้เงิน7000บาทต่อเดือนผมและภรรยาต้องกินไข่ทุกวันวันละ 2 มื้อเป็นเวลา 2 เดือนผมมีความสุขมาก แฟนผมป่วยเป็นโรคไบโพล่า ผมเลยไม่ให้เธอทำงาน อารมณ์จะรุนแรง เวลาดี ดีใจหาย เวลาร้ายโครตร้ายเลย ผมเคยโดนแฟนตบหน้า 40 ครั้งสูงสุดข้อหาทำไม่ถูกใจ รอยขีดข่วนเต็มตัวแต่ผมก็ยังรักซื่อสัตย์ภักดีกับเขาเสมอเนื่องจากผมเคยทำผิดตามที่เล่าไป คบซ้อนเป็นเวลาประมาณเกือบ 1 เดือนก่อนบอกเลิกอีกคน ผมเลยรู้สึกผิดทำดีต่อเขาแบบให้หมดใจเป็นการชดเชย ผมทำทุกอย่าง กวาดบ้าน ล้างจาน ถูบ้านทุกอย่างจริงๆ ภรรยาผมทำอย่างเดียวคือกับข้าว ด้วยความที่เงินเดือนไม่พอใช้ พวกเราสองคนเลยขายทุกสิ่งอย่างที่มีเพื่อประทังชีวิต ส่วนด้านแม่ยายก็ตามหาลูกแจ้งจับลูกหาว่าบ้า รวมถึงเล่นของต่ำด้านไสยศาสตร์ผมเจอทุกวันตลอดที่พาภรรยาหนี ร้องไห้ทุกวันที่เจอผมทำเป็นอย่างเดียวคือสวดมนต์ตอนนั้นไม่ขอเล่ามากกว่านี้เดียวงมงาย จากนั้นผมจีงตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือสอบเข้ารับราชการ (2 เดือนที่ลำบากแล้วผมก็สอบเข้ารับราชการติด) พอแม่ยายรู้ แม่ยายดีใจใหญ่และยอมรับผมเป็นลูกเขยเนื่องจากผมสอบข้าราชการติด และยอมให้ผมอยู่กับภรรยาแบบเปิดเผย แต่...แม่ยายผมเป็นคนชอบเงิน และตำแหน่งมาก ตัวเองเป็นใหญ่ทุกอย่าง หลังจากผมสอบติดผมก็พาภรรยาไปรักษาโรคไบโพล่าจนหายและผมให้พักอยู่บ้านโดยไม่ต้องทำงานอะไรเพราะอารมณ์เค้าแปรปรวนมาก แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปทีละน้อย เงินทุกอย่างที่ผมมี ผมให้ภรรยาหมด สิ่งของทุกอย่างที่ภรรยาอยากได้ก็ไปกู้หนี้ยืมสินมาให้ภรรยา เนื่องจากผมฝังใจที่เขาต้องมาลำบากกับคนอย่างผม ไม่ว่าจะทองอะไรต่างๆเรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าฝ่ายที่แม่ยายจะจับแต่งตอนแรก จนพวกเราเข้าสู่หนี้บัตรเครดิตประมาณ 8 หมื่นกว่าบาท แต่ตอนนั้นไม่มีจริงๆเงินเพราะไม่มีใครให้บ้านผมก็จนมากๆ ต้องหลบแม่ยายอีกเพื่อไม่ให้รู้ว่าจน เพราะเค้าดูถูกบ้านผมมาก จนผ่านมาได้ประมาณ 1 ปี ไม่รู้โชคชะตาแกล้งหรืออย่างไร แม่ผมดันมาถูกหวยรางวัลที่ 1 ส่วนภรรยาผมก็มาสอบบรรจุติดข้าราชการแบบผม ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป แม่ยายเริ่มออกอาการหน้าเงิน จะเอาทุกสิ่ง แต่ยังไม่วายทำตัวผู้ดีเก่า คือแม่ยายผมเคยรวยแต่ธุรกิจล้มไม่เป็นท่าเลยไม่เหลืออะไร ตอนแม่ผมมาเจอผมครั้งแรก แม่ยายก็ดูถูกหาว่าจนทั้งๆที่พึ่งถูกหวย (ด่าให้ลูกตัวเองฟัง แล้วภรรยามาเล่าให้ฟังอีกรอบ) จนผมด่าแม่ยายยกใหญ่ที่ดูถูกบ้านผม และเขาก็ใช้ไม้เดิมคือจะยึดของกลับก็มีแอร์ ตู้เย็น ทีวีเป็นต้นแม่ผมทนดูไม่ได้เลยโอนมาให้เลย 4 แสนเพื่อซื้อของใหม่ให้ นี่ยังไม่รวมค่าโอนอีก 2 แสน ที่จะมาพบหน้าผม เนื่องจากภรรยาไม่ชอบแม่ผมเป็นการส่วนตัวเลยต้องให้เงินเป็นการตอบแทน รวมทั้งหมดที่ผมเสียไปแม่ผมให้เกือบ 2 ล้านประมาณ 1.9 ล้านไม่รวมเงินเดือนผมนะ (1.9 ล้านเฉพาะแม่ให้) หลังจากนั้นพอลูกเขาสอบติดเขาก็เลยได้ใจใหญ่ ทั้งที่ผมเป็นคนติว ส่งเงินค่าติวออกทุกอย่าง เขาอวดคนนั้นคนนี้ และก็ยุแยงให้ผมเลิกกับภรรยาเรื่อยมาตลอด ที่ยังอยู่ได้ทุกวันนี้ เนื่องจากผมให้เงินภรรยาและน้าสาวเขาจนหมดตัวเขาเลยเห็นว่าผมยังมีประโยชน์(มั้ง) อ๋อลืมบอกผมเป็นหนี้ที่กู้มาซื้อรถยนต์แต่เป็นชื่อภรรยาอยู่ 7 แสนบาท เงินเดือนผมปัจจุบัน 19000 หักเงินกู้พร้อมชปค ก็เหลือเดือนละ 1 หมื่นบาท ให้ภรรยา 6 พัน น้าสาวของภรรยาทำกับข้าวเดือนละ 4 พันรวม 1 หมื่น ค่าไฟค่าน้ำผม ประมาณเดือนละ 1 พัน เป็น 11000 บาทสรุปคือยอดเงินเดือนผมติดลบ เคยคุยกับแฟนแล้วว่าผมอยู่ไม่ได้เงินเดือนติดลบ แต่เค้าให้ไปคุยกับแม่เค้า ส่วนแม่เค้าก็ไม่ยอมลดโดยอ้างว่าสามีทุกคนให้เงินเมียถูกแล้ว และยกตัวอย่างพอตาให้เงินเดือนเมียหมด คำถามคือผมจะเอาไรกิน หลังๆมาพอผมไม่มีเงินแม่ยายยุหนักเค้าเรื่อยๆ ภรรยาผมไม่ไปทำงานก็ด่าผม ภรรยาผมไปซื้อของก็ด่าผม ผมส่งภรรยาไปทำงานที่ค้างไม่เสร็จช่วงค่ำก็ด่าผม พูดง่ายๆลูกตัวเองถูกเสมอไม่มีผิดไม่ด่าลูก แต่ขอด่าลูกคนอื่นๆ บ้านเค้าเกลียดยายผมมาก ตอนนี้แม่ผมเสียเเล้วยายคือผู้ดูแลผมมาตั้งแต่เด็กและญาติแม่เมียผมไม่ชอบยายผม เขาไล่ยายออกจากร้านที่ทำธุรกิจร่วมกัน รถยนต์ที่ผมซื้อแต่เป็นชื่อเมียก็ไม่ให้ยายผมนั่ง ส่วนตัวผมก็ห้ามใช้ ใช้ได้เฉพาะตอนที่เค้าใช้ผมไปส่งนั่นนี่ โดยบอกอีกว่าถ้ายายผมไปเหยียบร้านผมเค้าจะไล่ และไม่สามารถทำธุรกิจร่วมกันได้ คือร้านก็ร้านผม เงินค่าเช่าร้านก็เงินผม แต่เขามาไล่เนื่องจากเค้าช่วยขายของให้ผม แปลกมากครับบ้านนี้ จนเค้าเสนอให้ผมย้ายไปขายของที่อื่น ผมขี้เกียจทะเลาะยายผม ผมก็รักไม่อยากให้ใครดูถูกผมขายของเซ้งร้านขาดทุนเลยจะได้จบ แต่เรื่องไม่จบแม่ยายไม่พอใจเนื่องจากเหมือนผมประชดน้าสาวเค้า ก็ยุแยงภรรยาผมต่อ จนต้องอย่าร้างกัน ตอนอย่าเขาใจร้ายมาก เขาเอาทรัพย์สินผมไปหมดไม่แบ่งเลยที่แม่ผมให้มา ทั้งๆที่เป็นเงินของแม่ผมให้ผม นี่ยังไม่นับที่แม่ยายผมหลอกเอาเงินจากยายที่มีอยู่ 2 แสน โดยอ้างว่าถ้าเอาไว้ที่ยายตายไปจะลำบากเหมือนตอนแม่ผมตาย ต้องฟ้องแบ่งกับญาติพี่น้อง ผมและเค้ามีหนี้ 7 แสน แต่มีเงินในบัญชี 7 แสนเช่นกัน ผมเสนอให้เอาไปปิดหนี้สินให้หมดแล้วทุกอย่างที่มีผมให้ แต่เขาไม่ยอมเขาบอกแบ่งครึ่ง (ทั้งๆที่เป็นเงินแม่ผมให้ผม) พร้อมกับให้ผมเป็นหนี้ รถอะไร ทองอะไรเค้าไปหมด และผมมารู้ทีหลังตอนอย่าร้างกันเขาแอบโอนรถยนต์ไปเป็นชื่อแม่ในวันเลิกเลย เงินบางส่วนแอบโอนเขาบัญชีแม่ อารมณ์คล้ายๆฟอกเงินกลัวโดนแบ่ง (ผมเดา และเดาว่าเป็นความคิดแม่ยาย) ส่วนทองที่ผมซ์้อประมาณ 4-5 บาทเค้าบอกทำหาย ผมถามตอนวันเลิก เงินบางส่วนหายไปไหนเขาบอกเอาไปใช้หนี้เพื่อน ยืมตอนเป็นนักศึกษาแต่ปรากฏว่าเงินไปอยู่ในบัญชีแม่เค้า พอผมจับได้เค้าบอกว่าฝากแม่เอาคืนเพื่อน พอถามว่าเอาเงินไปซื้ออะไร เขาก็บอกซื้ออะไรทั่วไป เกือบแสนครับพี่น้อง คือผมสับสนมากตอนนี้อย่าร้างแล้วนะครับ แต่ยังอยู่ด้วยกัน เดี๋ยวนี้เปิดมือถือภรรยาดูก็ไม่ได้ ไปไหนถามว่าไปหาเพื่อนคนไหนก็ไม่ยอมบอกผมอย่ายุ่งไม่จำเป็นต้องบอก ผมถามเค้าว่าทำตัวไม่เหมือนภรรยาคนอื่นผมเป็นสามีก็ถามด้วยความเป็นห่วง เขาก็บอกว่าผมเองแหละที่ไม่เหมือนสามีคนอื่น จนตอนนี้เค้าไปอยุ่กับน้าสาวประมาณอาทิตย์หนึ่งละหลังจากเรื่องกิจการที่ผมให้เค้าเซ้ง โทรก็ไม่รับไลน์ก็ไม่ตอบ ผมถามว่ารอเวลาเลิกหรอเค้าก็ตอบว่าความคิดชั่วอุบาถ ง่ายๆคือด่าทุกคำ จนผมถามตัวเองทุกวันว่ายอมไปเพื่ออะไร วันเกิดผมไม่เคยได้อะไร วันเกิดผมแต่ไปซื้อของให้ญาติ ผมเคยได้ของตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา 3 ปี คือนาฬิกาเรือนละ 300 บาท ผมขอเค้าเองผมอยากมีนาฬิกาใส่ ผมไม่กล้าซื้อของอะไรกลัวภรรยาใช้เงินไม่พอ เค้าเป็นคนใช้เงินเก่งมาก เคยมีบางเดือน2-3 แสน/เดือน ส่วนตัวเค้าได้จากผมพูดง่ายๆหมดตูดที่ผมมี พร้อมผมเป็นหนี้สินอีก 1 ก้อนคือ 7 แสน 
***สิ่งที่ผมรู้คือภรรยาผมเปลี่ยนแปลงไปมากทั้งๆที่เมื่อก่อนผ่านความลำบากมายิ่งกว่าในนิยาย เดี๋ยวนี้ผมไม่สามารถกอดภรรยา และจูบหออมแก้มหรือมีอะไรได้เกือบ 1 ปีเต็มๆ โดยภรรยาบอกว่ากินยารักษาไบโพล่าทำให้ไม่มีอารมณ์ทางเพศ แต่ผมก็รักซื่อสัตย์เรื่อยมา แต่เดี๋ยวนี้ภรรยาผมมีไรเล่าให้แม่ยายฟังหมด ส่วนแม่ก็เป่าหูจนตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่าสถานะคืออะไร ไม่ชัดเจนสักอย่าง ขอจดทะเบียนอะไรก็ไม่ยอม ตอนนี้ก็หายยาวไม่ติดต่ออะไรเลย ถามไม่ตอบหลังจากกรณีที่ผมขายของในร้านให้คนอื่นเซ้ง ตั้งแต่ถูกหวยรางวัลที่ 1 บ้านผมก็เปลี่ยนไปหมดเลย แม่ก็เสียหลังจากถูกรางวัล เห้อ...ช่วยแนะทางสว่างทีครับไหว้ละ
ปล.ถ้าเป็นท่าน ท่านจะทำอย่างไร หรือความคิดผมมันแปลกกว่าชาวบ้านแบบที่ภรรยาด่าผมจริงๆ ผมควรจะปรับปรุงตัวหรือปล่าวอะไรแบบนี้