ถ้ำพระยานคร นอนปากน้ำปราณบุรี


              สวัสดีคร้าบบพี่น้องชาวไทย...กับหน้าร้อนที่ร้อนตับแลบของเมืองไทย..ซึ่งคิดไปคิดมามันก็ร้อนไปทุกฤดูร้อนทั้งปีนั่นแหละครับ..สำหรับบ้านเรายิ่งกรุงเทพมหานครถ้าปีนี้มีอากาศเย็นหน่อยก็นับเป็นโชคเลยทีเดียว ..ที่จะได้เบาแอร์พักพัดลมกันช่วงเช้าๆ...แต่ก็ไม่วายพออากาศเย็นมากๆก็พาลกดเอาหมอกควันพิษ PM2.5 ที่เรียกว่าเดี๋ยวนี้มาเยี่ยมเยือนตลอดจนทำให้อากาศเย็นๆช่วงเช้าในกรุงเทพเป็นความน่ากลัวมากกว่าน่าสูดเข้าไปเต็มปอด..

                เข้าเรื่องกันเลยละกัน55++เรื่องของเรื่องที่เกริ่นมาก็เพื่อจะเข้าเรื่องว่าเราหนีหมอกควันไปเที่ยวถ้ำเที่ยวทะเลกันเถอะ!...55++ ว่ากันว่ามีสิ่งปลูกสร้างที่นึงที่ UNSEEN เอามากๆเพราะไม่คิดเลยว่าจะสามารถมาสร้างในที่แบบนี้ได้ แถมสวยงามจับใจ เฉลยเลยละกัน..นั่นก็คือพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่ในถ้ำพระยานคร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั่นเองครับ...


                   เรามาเริ่มเดินทางกันเลยครับ.ตามสไตล์นักเดินทางกระเป๋าสตางค์บางๆแบบพวกเรา..ผมกับเพื่อนเลือกเดินทางโดยอาศัยรถตู้โดยสารกรุงเทพ-ปราณบุรี ที่สายใต้ใหม่ โดยเราสามารถเลือกลงจุดที่เราอยากลงได้เลย..เพราะรถจะเข้าไปส่งยันถึงหน้าที่พัก..วินที่เราอยากแนะนำคือวินจระเข้ครับ ..คือธรรมดารถตู้จะจอดที่ปากทางแล้วเราต้องเหมารถหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าไปอีกหลายตังค์ทีเดียวเพื่อจะให้ถึงปากน้ำปราณบุรี..เลยแนะนำให้คุยกับรถตู้ตั้งแต่จองตั๋วนะครับว่าส่งถึงที่พักไม่ก็ลงหน้าหาดปราณบุรีไปเลย...ผมกับเพื่อนเดินทางไปถึงปราณบุรีก็เกือบเที่ยงครับ..สิ่งแรกที่เราต้องทำเป็นประจำนั่นก็คือหารถมอเตอร์ไซค์เช่าครับ...ที่นี่มีหลายร้านอยู่เหมือนกันถ้าไปถึงปากน้ำปราณบุรีก็ลองสอบถามแถวๆวงเวียนปลาหมึกแถวนั้นได้..ราคาก็ ประมาณ 200 ถึง 250 บาท พร้อมบัตรประชาชนใบเดียว...ได้รถแล้วเราก็รีบหาห้องพักแบบราคาสบายกระเป๋าซึ่งที่นี่มีบริการอย่างมากมายเพื่อเก็บของแล้ววนหาของกินรองท้องเรียกพลังงานในการเดินทางไปถ้ำพระยานครกัน การเดินทางไปถ้ำพระยานครจากปากน้ำปาณใช้ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร เปิดกูเกิ้ลเพื่อนร่วมทางที่รู้ใจของเราได้เลย.55++..เส้นทางการขับรถก็ไม่ยากเลยครับ..ถนนก็จัดว่าดีทีเดียวยิ่งช่วงถนนหลักก่อนจะถึงอุทยานเขาสามร้อยยอดนี่กว้างขวางสะอาดตาแค่ร้อนอย่างเดียวที่เราท้อใจ555++...

                เย้!!!!! …เดินทางหลงๆเลยๆ พักเหนื่อยกินนั่นกินนี่!.มาตลอดทางก็มาถึงวัดบางปูจนได้.!!!.ที่วัดมีค่าบริการฝากรถในวัดก็ 20 บาทครับจ่ายตั้งแต่เข้าไปในวัดเลย..เรานำรถเข้าไปจอดด้านหน้าทางขึ้นถ้ำได้เลย..ลืมบอกไปว่าการเดินทางไปถ้ำพระยานครไปได้ 2 ทางคือเรือส่งถึงหน้าหาด(มีค่าบริการนะครับ) หรือจะเลือกเดินขึ้นเขาเพื่อวัดความฟิตก็ได้แต่ที่แน่ๆมีค่าบริการเข้าอุทยานด้วย แต่โชคดีหน่อยเราไปวันปีใหม่พอดีเลยได้เข้าฟรีครับ....เราเลือกปีนเขาเพื่อเซฟเงินในกระเป๋าไปในตัว.55++.จะบอกก่อนนะจ๊ะว่าใครจะขึ้นเขาแนะนำให้ใส่รองเท้าผ้าใบนะ..ถ้าเป็นไปได้เพราะค่อนข้างชัน และหินที่นี่ค่อนข้างคม



                มาถึงเขตอุทยานก่อนที่จะปีนเขาขึ้นไปชมถ้ำกันเนี่ย..บริเวณด้านหน้าก็จะเป็นหาดและบ้านพักต่างๆที่คอยบริการนักท่องเที่ยวที่เป็นของอุทธยานด้วยเคยมาใช้บริการครั้งนึงสงบมากๆ..ครับใครมาคนเดียวเนี่ยไม่แนะนำนะครับเพราะจะเหงาสุดๆ55++...หาดทรายที่นี่ค่อนข้างขาวสวยและสากเท้านิดๆลองสังเกตดีๆทรายส่วนใหญ่ของที่นี่ประกอบไปด้วยเปลือกหอยที่แตกละเอียดแทบเป็นเนื้อเดียวกับทรายเลยทีเดียว...แนะนำว่ามาถึงที่นี่ก็ลงไปจุ่มตัวเล่นน้ำที่นี่ด้วยนะ..เพราะอากาศที่นี่พอบ่ายๆแล้วจะเย็นสบายจากเงาของภูเขาที่ไม่ทำให้ร้อนจนเกินไป...


                ถ้ำพระยานครเป็นถ้ำที่ต้องปีนเขาขึ้นไปครับ..ตลอดเส้นทางจะมีการทำบันไดปูนสลับกับทางเดินที่เป็นธรรมชาติคือมีหินตลอดเส้นทางเลยครับ55+...แต่ก็จัดว่าเดินไม่ยากมากเหมือนเขาอื่น..ด้วยตลอดระยะทางขึ้นและลงไปในถ้ำต้องใช้เวลาไปเกือบชั่วโมง..แนะนำทุกท่านเข้าห้องน้ำที่เขาจัดเตรียมไว้ซะให้พร้อมนะครับเพราะไม่รู้ทำไมเวลาไม่ขาขึ้นหรือขาลงต้องมีปวดหนักปวดเบาเอาดื้อและปวดไม่ธรรมดานะมาเป็นพายุบุแคมกันเลยทีเดียว..และที่อยากแนะนำอีกอย่างก่อนขึ้นถ้ำที่นั่นก็มีร้านข้าวของทางอุทธยานให้สั่งของอร่อยๆไว้รองท้องเพื่อเติมพลังก่อนปีนและก็ไม่พลาดตามเคยครับชิมมาแล้ว55++..อร่อยทีเดียวหรือเพราะหิวไม่แน่ใจแต่ที่แน่ๆราคาก็สบายกระเป๋าครับ..


 
                เส้นทางขึ้นเขามีบันไดและราวจับเป็นบางช่วงที่ชันๆครับ..ใส่รองเท้าที่กระชับเท้าเสื้อผ้าค่อนข้างบางๆเบาๆ55ไว้ก่อนนะครับเพราะอากาศค่อนข้างร้อนและเสียเหงื่อเยอะ...พอเราขึ้นไปสุดทางเดินจะพบกับโถงถ้ำที่เรามองลงไปช่วงแรกก็ยังไม่เท่าไหร่ในความรู้สึกของเรา.แต่คุณพระ..!! พอไต่ลงไปในโถงสักระยะ..จะพบกับความกว้างขวางของโถงที่ต้อนรับเรา..พอเราสาวเท้าก้าวผ่านโถงถ้ำแรกออกไปก็จะตะลึงตรึงตาใจกับภาพที่อยู่ตรงหน้า สังเกตได้จากเสียงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ว้าวววววว..กันยาวๆพร้อมกันไม่ขาดสาย.พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ ตั้งอยู่ตรงกลางของโถงถ้ำขนาดใหญ่ล้อแสงพระอาทิตย์เปล่งประกายสีทองสีเงินของกระจกสีต่างๆที่ประดับประดาอยู่อย่างสวยสดงดงามเป็นอย่างมากและทึ่งในความพยายามในการก่อสร้างในพื้นที่ ที่ขึ้นมาแสนยากลำบากแบบนี้..ตลอดเวลาที่เราลั่นชัตเตอร์ถ่ายภาพภายในถ้ำเราจะพบแง่มุมใหม่ที่ตื่นตะลึงตามาเรื่อยไม่ว่าจะเป็นซอกหลืบต่างๆของถ้ำที่รอเรามุดเราแทรกเข้าไปแต่ผมขอบาย..55++เพราะกลัวความแคบและทึมๆแบบนั้น..แต่ถ้าเพื่อนๆที่ชอบการเที่ยวสายถ้ำ..สำหรับถ้ำพระยานครถือว่าดีที่ไม่ควรพลาด

                เต็มอิ่มกับภาพที่อยู่ตรงหน้าของถ้ำก็ถึงเวลาต้องกลับไปปากน้ำปราณบุรีเราขับมอเตอร์ไซค์ย้อนกลับลงมาตามถนนสายเดิมที่เรามาเพื่อกลับสู่ที่พักที่ปราณบุรี..ที่นี่จัดว่าเป็นชุมชนที่ติดทะเลและมีการทำประมงอีกที่นึงและที่ปราณบุรีนี้เองก็ขึ้นชื่อมากๆจ้า..! เรื่องอาหารทะเลที่อร่อยสดและราคาเบาๆกว่าทีอื่นอยู่นะ55++ .ที่นี่จะสามารถเห็นการตากปลาหมึกกันทั่วไปเลยครับเวลาเราขับรถผ่านไปตามซอกซอยต้องบอกว่าเป็นถิ่นของปลาหมึกจริงๆ(จนที่นี่มีวงเวียนปลาหมึกไงหล่ะเธอ)..ผมกับเพื่อนแวะตลาดไหนก็อดใจไม่ได้ที่ต้องติดไม้ติดมือมากินทุกทีไป
                
 
                        ค่ำคืนของการข้ามปีเก่านับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ของผมกับเพื่อนก็คงเป็นหน้าหาดที่ปราณบุรีนี่เอง..เพราะตลอดถนนที่เลาะหาดของที่นี่จะมีห้องพักโรงแรมต่างๆที่ซ่อนอยู่ตามสวนมะพร้าวและทิวต้นไม้ที่ร่มครึ้มสงบตลอดทั้งแนวถนนนั้นยังไม่พอ ช่วงเย็นยังมีตลาดนัดของกินที่คนแถวนี้จะมาตั้งร้านแบบชั่วคราวขายกันตลอดแนวเหมาะกกับการเดินชมทะเลสูดกลิ่นน้ำทะเลและหิ้วของอร่อยๆไปนั่งชิวๆได้เลย..วันนี้ผมกับเพื่อนขอลาเพื่อนด้วยบรรยากาศของวันส่งท้ายปีที่ชายหาดปากน้ำปราณบุรีที่แสนสงบแห่งนี้ละกันนะครับ..ลืมบอกไปขากลับเราสามารถติดต่อรถตู้ได้จากแถววงเวียนปลาหมึกที่นี่ได้เลยสะดวกเพราะจะมีบริการส่งถึงวินรถตู้เลยนะครับ...ทริปหน้ามีอะไรพิเศษก็มาตามอ่านได้นะครับ..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่