ต้องขออนุญาตออกตัวก่อนน่ะครับ นี้เป็นการเขียนบันทึกลงในโลกอินเตอร์เป็นครั้งเเรกของผม เเละเป็นครั้งเเรกในการเขียนลง Pantip (ยังใช้งานไม่เป็นเลย!!!) ซึ่งในช่วงเริ่มเขียนนี้ ผมยังรออนุมัติการยืนยันตัวตนจาก Pantip เเต่ก็นะ ต่อมนักเขียนมันกระตุกจนห้ามไม่ได้ซะเเล้ว
ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปเยือนปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เลยถือโอกาสเที่ยวซะเลย หมุดในครั้งนี้ ถูกปักลงที่ "ถ้ำพระยานคร" อยู่ในเขตอุทยานเเห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 98 ตร.กม. หรือ 61,300 ไร่ ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2509 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 4 ของประเทศไทย และเป็นอุทยานแห่งชาติประเภทชายฝั่งทะเลแห่งแรกของประเทศไทย (อุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรก)
ครั้งนี้ผมขอเริ่มบันทึกที่หาดบางปู (หาดเจ้าพระยา บางปู) เลยน่ะครับ หาดบางปูเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจเเละเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนท้องถิ่นเเละนักท่องเที่ยวมาช้านาน ด้วยสภาพคลื่นลมที่สงบ น้ำทะเลไม่ลึก หาดทรายราบเรียบยื่นไปในทะเล ทำให้เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ มาพักผ่อน ริมหาดจะมีร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึก ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ (ไม่ฟรีน่ะ ถ้าไปกันเยอะ ๆ หรือนั่งกินนาน ๆ แนะนำเหมาจ่ายทีเดียวไปเลย คุ้มกว่าเห็น ๆ) เรื่องรสชาติอาหาร ผมขอละไว้นะครับ เพราะไม่ได้ตระเวนกินทุกร้าน เลยไม่กล้าเปรียบเทียบรสชาติ ส่วนเรื่องราคามีบอกไว้ในเมนูครับ ไม่ต้องกลัว เราสามารถคำนวนค่าอาหารก่อนสั่งได้เลยครับ (ผมชอบน่ะ ยุติธรรมดี)
จุดสังเกตุอีกอย่างหนึ่งของหาดนี้คือ อนุสาวรีย์ปูนปั้น ตั้งอยู่สุดเขตถนน
สำหรับผู้ที่จะไปชมถ้ำเจ้าพระยา แนะนำรองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้ารัดส้น เพราะทางค่อนข้างขรุขระ ลาดชัน เเละลื่น รองเท้าที่ยึดเกาะดีจึงเหมาะสมมาก การไปถ้ำพระยานคร จากหาดบางปู สามารถไปได้ 2 วิธึ
1. เดินเท้าข้ามเขาลูกเเรก (เขาเทียน) ไปลงหาดแหลมศาลา เเล้วเดินเท้าขึ้นเขาลูกที่สองต่อไปยังถ้ำพระยานคร (ออกกำลังกายกันหน่อย)
2. นั่งเรือจากหาดบางปู อ้อมเขาลูกแรก (เขาเทียน) ไปลงหาดแหลมศาลา ใช้เวลาประมาณ 15 นาที (ค่าบริการ 300.- ถึง 500.- เหมาลำได้ครับเเต่ผมจำไม่ได้ว่าเท่าไรกันเเน่) เเล้วเดินเท้าขึ้นเขาลูกที่สองไปยังถ้ำพระยานคร (ประหยัดเวลาเเละไม่เหนื่อยมาก)
ครั้งนี้ผมเลือกเดินข้ามเขาสองลูก (โชว์เเมนหน่อย!!!) ทางขึ้นอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของหาดบางปู (หันหน้าออกทะเล) ก่อนเริ่มการเดินทาง เสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ คนไทย : ผู้ใหญ่ 40.- เด็ก 20.- ,ชาวต่างชาติราคาปกติเหมือนอุทยานทั่วไปครับ
ทางขึ้นช่วงเเรก (เขาเทียน) จะเป็นทางหินใหญ่น้อย ตะปุ่มตะปล่ำตลอดเส้นทาง บางช่วงจะมีหินถล่มตัดเส้นทาง จนต้องทำเป็นบันไดข้ามไป. สนุกป่นเสียวดี
มีจุดชมวิวเป็นระยะ ๆ มองเห็นทะเลแบบพาโนราม่า
อีกจุดหนึ่งบนเขาเทียน
ลงจากเขาลูกแรก จะเจอหาดแหลมศาลา สงบ สะอาด สวยงามมาก ที่นี่มีบ้านพักของอุทยานเป็นหลังไว้รับรองนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักค้างคืน กางเต้นท์ได้ด้วยครับ มีร้านอาหาร ห้องน้ำ ไฟฟ้าพร้อม. กลางคืนคงเงียบดี คนไม่พลุกพล่าน ด้วยเข้ามาหาดค่อนข้างยาก
ในส่วนของหาดแหลมศาลานั้น ร่มรื่น สะอาดตามาก มีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการค้างแรม มีลานรอบกองไฟด้วยน่ะครับ ไฮไลต์อีกอย่างของที่นี่คือ "ไก่ป่า" ที่จะเห็นได้ทั่วไปบริเวณชายป่าหลังอาคารที่พัก
พักให้หายเหนื่อย เข้าห้องน้ำ ล้างหน้าคลายร้อนกันเเล้ว เราก็ไปกันต่อ กับเขาลูกที่สอง โดยจะอยู่หลังหาดแหลมศาลา (ไม่ต้องกลัวหลง มีป้ายบอกตลอดทางครับ) เส้นทางก่อนขึ้นเขาลูกที่ 2 ขนาบด้วยทิวสนต้นใหญ่ ยังกะอยู่ญี่ปุ่น 555++ (คิดไปเอง) สังเกต 2 ข้างทางบริเวณนี้ดี ๆ นะครับ จะเห็นไก่ป่าแม่ลูกออกขุ้ยเขี่ยหากิน.
เริ่มแล้วทางขึ้นเขา สูดหายใจลึก ๆ แล้วก้าวต่อไปอีก 430 ม. ที่ไม่ได้ราบเรียบ. (สู้ต่อไปทาเคชิ) แอบเป็นป้ายข้างทางก่อนขึ้นเขาไปยังถ้ำพระยานคร เขียนลักษณะเตือนว่า "ท่านผู้มีโรคประจำตัว กรุณาพิจารณาก่อนขึ้น" เราไม่มีอยู่เเล้ว สบาย ๆ
เส้นทางช่วงที่ 2 ช่วงกลางเส้นทางจะมีจุดชมวิวพร้อมเป็นที่แวะพัก ลักษณะเส้นทางเป็นหินใหญ่น้อยตลอดทาง ค่อนข้างลาดชัน หินค่อนข้างลื่นเป็นมันแวว จากการที่มีนักท่องเที่ยวย่ำไปมาตลอดเวลา ควรสวมใส่รองเท้าที่กระชับยึดเกาะดี
ถึงเเล้ววววววววววว.... ถึงเเค่ป้ายบอกอ่ะดิ T^T !!!
ปากทางลงถ้ำ มีป้ายบอกที่หมาย ใกล้แล้ว อีกนิดเดียว.
เมื่อลงไปจากปากทางถ้ำ ก่อนจะเข้าไปถึงโถงถ้ำด้านใน จะเห็นประติมากรรมธรรมชาติ เกิดจากน้ำที่มีหินปูนผสม ไหลตกตะกอนเกิดเป็นหินงอกหินย้อย ลักษณะแปลกตา เรียกชื่อตามจินตนาการต่าง ๆ ดั่งชิ้นนี้มีชื่อเรียกว่า "น้ำตกแห้ง"
ปากทางลงถ้ำช่วงแรก ถ่ายจากล่างขึ้นบน.
เมื่อลงไปจะเจอกับโถงเเรก เเล้วเดินลอดเข้าไปยังโถงที่สอง ซึ่งเป็นโถงที่ตั้งของ "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์"
ถึงเเล้วครับ.....Unseen Thailand. มาก ๆ หายเหนื่อยเลยครับ เจอภาพนี้
ปานวิมานบนชั้นฟ้า.
เหมือนหลงอยู่ในยุคจูราสิค.
"พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" เป็นพลับพลาแบบจตุรมุข สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 คราวเสด็จประพาสเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2433 เป็นฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าขจรจรัสวงศ์ ทรงสร้างขึ้นในกรุงเทพฯ แล้วส่งมาประกอบทีหลังโดยให้พระยาชลยุทธโยธินเป็นนายงานก่อสร้าง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมายกช่อฟ้าด้วยพระองค์เอง ที่กำแพงหินด้านขวามีพระปรมาภิไธยย่อในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 เป็นตัวหนังสือใหญ่สีขาวสะดุดตา พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์นับเป็นจุดเด่นของถ้ำพระยานคร และเป็นตราประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบัน
คุ้มค่าจริง ๆ ครับ "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" ถ้ำพระยานคร อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์
ดูความใหญ่โตของโถงถ้ำที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้น มนุษย์เจ้าช่างเล็กและด้อยค่านัก. (มุมล่างด้านซ้าย)
วิวขากลับ..บรรดาเรือบริการรับนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวหาดแหลมศาลา (สำหรับคนที่ไม่อยากออกกำลังข้ามเขาลูกแรก) ลอยลำอยู่หน้าหาดเจ้าพระยาบางปู
ภายในโถงที่สอง มีประติมากรรมธรรมชาติเสาหิน เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้น
หินรูปทรงเจดีย์
ประวัติความสำคัญของถ้ำพระยานคร ตั้งเเต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ธรรมชาติที่แปลกตา
ก่อนจบการเดินทางในครั้งนี้ ธรรมชาติยังมอบของขวัญชิ้นสุดท้ายก่อนอำลากัน ด้วยฝูงค่างเเว่นถิ่นใต้ ฝูงใหญ่ที่ลงมากินยอดไม้ บริเวณหาดบางปู ให้เราได้เก็บภาพความน่ารัก น่าประทับใจกลับไปเป็นความทรงจำที่มีค่า
*ภาพถ่ายทุกภาพถ่ายจากกล้องมือถือผมทั้งหมดน่ะครับ อาจไม่สวย เเต่ใจรัก
**ขอขอบคุณภาพถ่ายค่างเเว่นจาก น้องถัง พธ.51 (ของผมเเบตฯ หมดซะก่อน แอบเศร้านิด ๆ พลาดชอตสำคัญไปได้ T^T)
เดินทางวันเสาร์ ที่ 19 - วันอาทิตย์ ที่ 20 มีนาคม 2559 ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ : Dr.Kai
ถ้ำพระยานคร ความตั้งใจนับเเรมปี
ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปเยือนปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เลยถือโอกาสเที่ยวซะเลย หมุดในครั้งนี้ ถูกปักลงที่ "ถ้ำพระยานคร" อยู่ในเขตอุทยานเเห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 98 ตร.กม. หรือ 61,300 ไร่ ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2509 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 4 ของประเทศไทย และเป็นอุทยานแห่งชาติประเภทชายฝั่งทะเลแห่งแรกของประเทศไทย (อุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรก) ครั้งนี้ผมขอเริ่มบันทึกที่หาดบางปู (หาดเจ้าพระยา บางปู) เลยน่ะครับ หาดบางปูเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจเเละเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนท้องถิ่นเเละนักท่องเที่ยวมาช้านาน ด้วยสภาพคลื่นลมที่สงบ น้ำทะเลไม่ลึก หาดทรายราบเรียบยื่นไปในทะเล ทำให้เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ มาพักผ่อน ริมหาดจะมีร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึก ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ (ไม่ฟรีน่ะ ถ้าไปกันเยอะ ๆ หรือนั่งกินนาน ๆ แนะนำเหมาจ่ายทีเดียวไปเลย คุ้มกว่าเห็น ๆ) เรื่องรสชาติอาหาร ผมขอละไว้นะครับ เพราะไม่ได้ตระเวนกินทุกร้าน เลยไม่กล้าเปรียบเทียบรสชาติ ส่วนเรื่องราคามีบอกไว้ในเมนูครับ ไม่ต้องกลัว เราสามารถคำนวนค่าอาหารก่อนสั่งได้เลยครับ (ผมชอบน่ะ ยุติธรรมดี)
จุดสังเกตุอีกอย่างหนึ่งของหาดนี้คือ อนุสาวรีย์ปูนปั้น ตั้งอยู่สุดเขตถนน
สำหรับผู้ที่จะไปชมถ้ำเจ้าพระยา แนะนำรองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้ารัดส้น เพราะทางค่อนข้างขรุขระ ลาดชัน เเละลื่น รองเท้าที่ยึดเกาะดีจึงเหมาะสมมาก การไปถ้ำพระยานคร จากหาดบางปู สามารถไปได้ 2 วิธึ
1. เดินเท้าข้ามเขาลูกเเรก (เขาเทียน) ไปลงหาดแหลมศาลา เเล้วเดินเท้าขึ้นเขาลูกที่สองต่อไปยังถ้ำพระยานคร (ออกกำลังกายกันหน่อย)
2. นั่งเรือจากหาดบางปู อ้อมเขาลูกแรก (เขาเทียน) ไปลงหาดแหลมศาลา ใช้เวลาประมาณ 15 นาที (ค่าบริการ 300.- ถึง 500.- เหมาลำได้ครับเเต่ผมจำไม่ได้ว่าเท่าไรกันเเน่) เเล้วเดินเท้าขึ้นเขาลูกที่สองไปยังถ้ำพระยานคร (ประหยัดเวลาเเละไม่เหนื่อยมาก)
ครั้งนี้ผมเลือกเดินข้ามเขาสองลูก (โชว์เเมนหน่อย!!!) ทางขึ้นอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของหาดบางปู (หันหน้าออกทะเล) ก่อนเริ่มการเดินทาง เสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ คนไทย : ผู้ใหญ่ 40.- เด็ก 20.- ,ชาวต่างชาติราคาปกติเหมือนอุทยานทั่วไปครับ
ทางขึ้นช่วงเเรก (เขาเทียน) จะเป็นทางหินใหญ่น้อย ตะปุ่มตะปล่ำตลอดเส้นทาง บางช่วงจะมีหินถล่มตัดเส้นทาง จนต้องทำเป็นบันไดข้ามไป. สนุกป่นเสียวดี
มีจุดชมวิวเป็นระยะ ๆ มองเห็นทะเลแบบพาโนราม่า
อีกจุดหนึ่งบนเขาเทียน
ลงจากเขาลูกแรก จะเจอหาดแหลมศาลา สงบ สะอาด สวยงามมาก ที่นี่มีบ้านพักของอุทยานเป็นหลังไว้รับรองนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักค้างคืน กางเต้นท์ได้ด้วยครับ มีร้านอาหาร ห้องน้ำ ไฟฟ้าพร้อม. กลางคืนคงเงียบดี คนไม่พลุกพล่าน ด้วยเข้ามาหาดค่อนข้างยาก
ในส่วนของหาดแหลมศาลานั้น ร่มรื่น สะอาดตามาก มีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการค้างแรม มีลานรอบกองไฟด้วยน่ะครับ ไฮไลต์อีกอย่างของที่นี่คือ "ไก่ป่า" ที่จะเห็นได้ทั่วไปบริเวณชายป่าหลังอาคารที่พัก
พักให้หายเหนื่อย เข้าห้องน้ำ ล้างหน้าคลายร้อนกันเเล้ว เราก็ไปกันต่อ กับเขาลูกที่สอง โดยจะอยู่หลังหาดแหลมศาลา (ไม่ต้องกลัวหลง มีป้ายบอกตลอดทางครับ) เส้นทางก่อนขึ้นเขาลูกที่ 2 ขนาบด้วยทิวสนต้นใหญ่ ยังกะอยู่ญี่ปุ่น 555++ (คิดไปเอง) สังเกต 2 ข้างทางบริเวณนี้ดี ๆ นะครับ จะเห็นไก่ป่าแม่ลูกออกขุ้ยเขี่ยหากิน.
เริ่มแล้วทางขึ้นเขา สูดหายใจลึก ๆ แล้วก้าวต่อไปอีก 430 ม. ที่ไม่ได้ราบเรียบ. (สู้ต่อไปทาเคชิ) แอบเป็นป้ายข้างทางก่อนขึ้นเขาไปยังถ้ำพระยานคร เขียนลักษณะเตือนว่า "ท่านผู้มีโรคประจำตัว กรุณาพิจารณาก่อนขึ้น" เราไม่มีอยู่เเล้ว สบาย ๆ
เส้นทางช่วงที่ 2 ช่วงกลางเส้นทางจะมีจุดชมวิวพร้อมเป็นที่แวะพัก ลักษณะเส้นทางเป็นหินใหญ่น้อยตลอดทาง ค่อนข้างลาดชัน หินค่อนข้างลื่นเป็นมันแวว จากการที่มีนักท่องเที่ยวย่ำไปมาตลอดเวลา ควรสวมใส่รองเท้าที่กระชับยึดเกาะดี
ถึงเเล้ววววววววววว.... ถึงเเค่ป้ายบอกอ่ะดิ T^T !!!
ปากทางลงถ้ำ มีป้ายบอกที่หมาย ใกล้แล้ว อีกนิดเดียว.
เมื่อลงไปจากปากทางถ้ำ ก่อนจะเข้าไปถึงโถงถ้ำด้านใน จะเห็นประติมากรรมธรรมชาติ เกิดจากน้ำที่มีหินปูนผสม ไหลตกตะกอนเกิดเป็นหินงอกหินย้อย ลักษณะแปลกตา เรียกชื่อตามจินตนาการต่าง ๆ ดั่งชิ้นนี้มีชื่อเรียกว่า "น้ำตกแห้ง"
ปากทางลงถ้ำช่วงแรก ถ่ายจากล่างขึ้นบน.
เมื่อลงไปจะเจอกับโถงเเรก เเล้วเดินลอดเข้าไปยังโถงที่สอง ซึ่งเป็นโถงที่ตั้งของ "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์"
ถึงเเล้วครับ.....Unseen Thailand. มาก ๆ หายเหนื่อยเลยครับ เจอภาพนี้
ปานวิมานบนชั้นฟ้า.
เหมือนหลงอยู่ในยุคจูราสิค.
"พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" เป็นพลับพลาแบบจตุรมุข สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 คราวเสด็จประพาสเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2433 เป็นฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าขจรจรัสวงศ์ ทรงสร้างขึ้นในกรุงเทพฯ แล้วส่งมาประกอบทีหลังโดยให้พระยาชลยุทธโยธินเป็นนายงานก่อสร้าง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมายกช่อฟ้าด้วยพระองค์เอง ที่กำแพงหินด้านขวามีพระปรมาภิไธยย่อในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 เป็นตัวหนังสือใหญ่สีขาวสะดุดตา พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์นับเป็นจุดเด่นของถ้ำพระยานคร และเป็นตราประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบัน
คุ้มค่าจริง ๆ ครับ "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" ถ้ำพระยานคร อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์
ดูความใหญ่โตของโถงถ้ำที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้น มนุษย์เจ้าช่างเล็กและด้อยค่านัก. (มุมล่างด้านซ้าย)
วิวขากลับ..บรรดาเรือบริการรับนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวหาดแหลมศาลา (สำหรับคนที่ไม่อยากออกกำลังข้ามเขาลูกแรก) ลอยลำอยู่หน้าหาดเจ้าพระยาบางปู
ภายในโถงที่สอง มีประติมากรรมธรรมชาติเสาหิน เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้น
หินรูปทรงเจดีย์
ประวัติความสำคัญของถ้ำพระยานคร ตั้งเเต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ธรรมชาติที่แปลกตา
ก่อนจบการเดินทางในครั้งนี้ ธรรมชาติยังมอบของขวัญชิ้นสุดท้ายก่อนอำลากัน ด้วยฝูงค่างเเว่นถิ่นใต้ ฝูงใหญ่ที่ลงมากินยอดไม้ บริเวณหาดบางปู ให้เราได้เก็บภาพความน่ารัก น่าประทับใจกลับไปเป็นความทรงจำที่มีค่า
*ภาพถ่ายทุกภาพถ่ายจากกล้องมือถือผมทั้งหมดน่ะครับ อาจไม่สวย เเต่ใจรัก
**ขอขอบคุณภาพถ่ายค่างเเว่นจาก น้องถัง พธ.51 (ของผมเเบตฯ หมดซะก่อน แอบเศร้านิด ๆ พลาดชอตสำคัญไปได้ T^T)
เดินทางวันเสาร์ ที่ 19 - วันอาทิตย์ ที่ 20 มีนาคม 2559 ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ : Dr.Kai