การระบาดของโควิด 19 ทำให้ประชาชนเริ่มคลางแคลงใจ หันไปด่ารัฐบาล ทั้งที่หมอ เจ้าหน้าที่แต่ละส่วนก็ออกมาบอกว่า ทำงานหนักจนเกินคำว่าสุดความสามารถมา 2-3 เดือนแล้ว ในขณะที่การแถลงข่าว การพูด การบอก การขอร้องจากภาครัฐที่มีความน่าเชื่อถือ ข้อมูลถูกต้องที่สุด มีการอัพเดทสถานการณ์ทุกวัน กลับสู้ข้อมูลลวงที่ส่งกันตามไลน์ ตามเฟซบุ๊คไม่ได้เลย
สังเกตได้ว่า วันหนึ่งๆ ประชาชนหลายคนออกมาพูดข้อมูลชุดเดียวกัน พร้อมกัน ทั้งที่ไม่มีข่าวจริงประกาศออกมา เช่น เรื่องตรวจน้อยเลยพบผู้ติดเชื้อน้อย, ตัวเลขลวง, ขอให้ปิดเมือง, เตรียมกักตุน เป็นต้น เหล่านี้เป็นข้อมูลทางเทคนิค ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ไม่รู้เรื่องจะยกมาพูดลอยๆ ได้ แสดงว่าต้องมีคนคอยปล่อยข่าวอยู่ และเป็น influencer ด้วย จึงมีคนเชื่อ และนำมาแชร์ต่อ บ่น ด่า แซะกันต่อไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว
ข่าวลวงเหล่านี้ สร้างความสั่นคลอนปั่นป่วนในสังคม ภาครัฐก็ต้องคอยตามแถลงแก้ข่าวมาตลอด ว่านั่นไม่จริง นี่ไม่ใช่ แล้วขบวนการสร้างข่าวก็หาประเด็นใหม่มาด่าอีก ตั้งแต่ภาษีผ้าอนามัย, เรื่องแมทธิวผิด พรบ.คอมฯ แถมสื่อมวลชนก็คอยช่วยกระทืบซ้ำด้วยการพาดหัวข่าวให้เกิดกระแส แต่เป็นกระแสทางลบซะมากกว่า เพื่อให้ขายข่าวได้ ไม่ได้สนใจเลยว่าเนื้อข่าวกับพาดหัวเป็นเรื่องเดียวกันไหม
เมื่อวานสื่อก็พาดหัวเรื่องสวดมนต์ไล่โควิด คนก็ออกมาช่วยกันยำโดย ไม่ได้อ่านเนื้อข่าวตามเคย แล้วเย็นๆ ก็มีคนออกมาช่วยกันแก้ข่าว
แต่คนส่วนใหญ่ด่าไปถึงไหนแล้วเรียบร้อย
ยังไม่พอ มีคนเดินทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิมาบอก ไหนอ่ะกักตัว ไหนที่บอกทำงานหนัก จนมีคนมาบอกว่านี่เป็นสาเหตุที่เราต้องสวดมนต์
กลายเป็นโยงมั่วไปหมดแล้ว
อยากให้รัฐสื่อสารข้อมูลสู่ประชาชนให้ชัดแจ้ง เร็วกว่านี้นะ จัดการพวกสื่อเสี้ยม พวกปล่อยข่าวลวงจริงจังซักที เพราะวันๆ มาตามแก้ข่าวก็วุ่นวาย โดนด่าเสียหายไปแล้ว ต้องจัดการที่ต้นตอให้ได้ จะใช้กฎหมายจัดการก็ต้องทำ เมื่อสื่อมันไม่มีสำนึกอะไรเป็นพื้นฐานแล้ว อย่าปล่อยให้เสียหายไปกว่านี้เลย
อยากให้ภาครัฐเห็นความสำคัญของการประชาสัมพันธ์ จัดการสื่อเสี้ยมและการหยุดข่าวลวง
สังเกตได้ว่า วันหนึ่งๆ ประชาชนหลายคนออกมาพูดข้อมูลชุดเดียวกัน พร้อมกัน ทั้งที่ไม่มีข่าวจริงประกาศออกมา เช่น เรื่องตรวจน้อยเลยพบผู้ติดเชื้อน้อย, ตัวเลขลวง, ขอให้ปิดเมือง, เตรียมกักตุน เป็นต้น เหล่านี้เป็นข้อมูลทางเทคนิค ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ไม่รู้เรื่องจะยกมาพูดลอยๆ ได้ แสดงว่าต้องมีคนคอยปล่อยข่าวอยู่ และเป็น influencer ด้วย จึงมีคนเชื่อ และนำมาแชร์ต่อ บ่น ด่า แซะกันต่อไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว
ข่าวลวงเหล่านี้ สร้างความสั่นคลอนปั่นป่วนในสังคม ภาครัฐก็ต้องคอยตามแถลงแก้ข่าวมาตลอด ว่านั่นไม่จริง นี่ไม่ใช่ แล้วขบวนการสร้างข่าวก็หาประเด็นใหม่มาด่าอีก ตั้งแต่ภาษีผ้าอนามัย, เรื่องแมทธิวผิด พรบ.คอมฯ แถมสื่อมวลชนก็คอยช่วยกระทืบซ้ำด้วยการพาดหัวข่าวให้เกิดกระแส แต่เป็นกระแสทางลบซะมากกว่า เพื่อให้ขายข่าวได้ ไม่ได้สนใจเลยว่าเนื้อข่าวกับพาดหัวเป็นเรื่องเดียวกันไหม
เมื่อวานสื่อก็พาดหัวเรื่องสวดมนต์ไล่โควิด คนก็ออกมาช่วยกันยำโดย ไม่ได้อ่านเนื้อข่าวตามเคย แล้วเย็นๆ ก็มีคนออกมาช่วยกันแก้ข่าว
แต่คนส่วนใหญ่ด่าไปถึงไหนแล้วเรียบร้อย
ยังไม่พอ มีคนเดินทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิมาบอก ไหนอ่ะกักตัว ไหนที่บอกทำงานหนัก จนมีคนมาบอกว่านี่เป็นสาเหตุที่เราต้องสวดมนต์
กลายเป็นโยงมั่วไปหมดแล้ว
อยากให้รัฐสื่อสารข้อมูลสู่ประชาชนให้ชัดแจ้ง เร็วกว่านี้นะ จัดการพวกสื่อเสี้ยม พวกปล่อยข่าวลวงจริงจังซักที เพราะวันๆ มาตามแก้ข่าวก็วุ่นวาย โดนด่าเสียหายไปแล้ว ต้องจัดการที่ต้นตอให้ได้ จะใช้กฎหมายจัดการก็ต้องทำ เมื่อสื่อมันไม่มีสำนึกอะไรเป็นพื้นฐานแล้ว อย่าปล่อยให้เสียหายไปกว่านี้เลย