“ไม่ร้ายแรงถึงขนาดปี 1987 หรือ 2008”
นี่คือคำพูดของนักลงทุนชื่อดังระดับโลก “Warren Buffett” CEO ของ Berkshire Hathaway (BRK) ที่มีต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ลุกลามไปทั่วโลก และการปรับตัวลงรุนแรงของราคาน้ำมันดิบ ซึ่งคุณปู่ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันอังคารที่ 10 มี.ค.ผ่านมา ณ สำนักงานใหญ่ Omaha ก่อนตลาดหุ้นสหรัฐฯจะประกาศพักการซื้อขายเพียงวันเดียว (ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ใช้ระบบ Circuit Breaker แล้ว 2 วันติด ในรอบสัปดาห์ (วันที่ 11-12 มี.ค.) หลังทั้ง 3 ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างหนัก จากเหตุการณ์เหนือคาดที่มีอยู่หลายเรื่อง
คุณปู่ Buffett ยังแชร์แง่คิดการลงทุนจากประสบการณ์ที่มีในตลาดหุ้นมายาวนานด้วยว่า....
1. ถ้าคุณอยู่ในตลาดหุ้นมานาน คุณจะเห็นภาพทุกอย่าง แต่มันอาจต้องใช้เวลากว่า 89 ปี ในการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ แต่หากคุณติดตามตลาดทุกวินาที คุณจะเห็นว่า มันตอบสนองต่อข่าวรวดเร็วมาก
2. Buffett เรียกสองเหตุการณ์นี้ว่า “a one-two punch” เหมือนโดนต่อยหนักๆ 1-2 หมัด แต่เหตุการณ์ในเดือนต.ค.1987 คุณปู่เรียกว่า “Financial panic” มันแย่กว่าตอนนี้อีก
3. Buffett บอกว่า ในปี 2008 ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ตลาดหุ้นได้ปรับตัวลงน่ากลัวกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เสียอีก
4. ความผันผวนของตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยดัชนี S&P 500 ตลาดสหรัฐฯ ในช่วงวันที่ 19 ก.พ. - 9 มี.ค.ปรับตัวลงมาแล้วกว่า 19.4% ส่งผลให้ค่า P/E ปรับตัวลงมามากเช่นกัน
5. หลายอย่างทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หลังจากดัชนีหลักปรับตัวลงกว่า 7% ภายในวันเดียว โดยดัชนี Dow Jones ตกลงกว่า 2,013 จุด คิดเป็นประมาณ 7.8%
จากคำพูดของคุณปู่ อาจบ่งบอกได้ว่า ราคาหุ้นในตลาดสหรัฐฯหลายๆตัวอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ตอกย้ำความเชื่อนี้ได้จากคำกล่าวของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่พูดถึงการทรุดตัวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในช่วง 2 วันที่ผ่านมาว่า “ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะสามารถฟื้นตัวขึ้นต่อไป แม้มีความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19”
“Berkshire Hathaway” ถือหุ้นใหญ่โดย Warren Buffett ดำเนินธุรกิจ Holding ด้วยการเข้าไปซื้อบริษัทชื่อดังต่างๆ เช่น APPLE, Coca-Cola และ Bank of America เป็นต้น (TOP 3 ที่ Warren ถือผ่าน Berkshire Hathaway) ล่าสุดได้เข้าไปซื้อหุ้น RH และ OXY ซึ่งดำเนินธุรกิจร้านค้า ปัจจุบัน Berkshire Hathaway ถือเป็นหุ้นที่มีราคาแพงที่สุดในโลก โดยมีด้วยกัน 2 Class คือ Class A และ Class B ซึ่งมีความแตกต่างกันที่ราคาหุ้นและสิทธิการออกเสียงในที่ประชุมหรือการโหวต…
มาฟังปู่บัพเฟท พูดเกี่ยวกับเหตุการณ์รอบนี้กันครับ..
“ไม่ร้ายแรงถึงขนาดปี 1987 หรือ 2008”
นี่คือคำพูดของนักลงทุนชื่อดังระดับโลก “Warren Buffett” CEO ของ Berkshire Hathaway (BRK) ที่มีต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ลุกลามไปทั่วโลก และการปรับตัวลงรุนแรงของราคาน้ำมันดิบ ซึ่งคุณปู่ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันอังคารที่ 10 มี.ค.ผ่านมา ณ สำนักงานใหญ่ Omaha ก่อนตลาดหุ้นสหรัฐฯจะประกาศพักการซื้อขายเพียงวันเดียว (ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ใช้ระบบ Circuit Breaker แล้ว 2 วันติด ในรอบสัปดาห์ (วันที่ 11-12 มี.ค.) หลังทั้ง 3 ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างหนัก จากเหตุการณ์เหนือคาดที่มีอยู่หลายเรื่อง
คุณปู่ Buffett ยังแชร์แง่คิดการลงทุนจากประสบการณ์ที่มีในตลาดหุ้นมายาวนานด้วยว่า....
1. ถ้าคุณอยู่ในตลาดหุ้นมานาน คุณจะเห็นภาพทุกอย่าง แต่มันอาจต้องใช้เวลากว่า 89 ปี ในการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ แต่หากคุณติดตามตลาดทุกวินาที คุณจะเห็นว่า มันตอบสนองต่อข่าวรวดเร็วมาก
2. Buffett เรียกสองเหตุการณ์นี้ว่า “a one-two punch” เหมือนโดนต่อยหนักๆ 1-2 หมัด แต่เหตุการณ์ในเดือนต.ค.1987 คุณปู่เรียกว่า “Financial panic” มันแย่กว่าตอนนี้อีก
3. Buffett บอกว่า ในปี 2008 ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ตลาดหุ้นได้ปรับตัวลงน่ากลัวกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เสียอีก
4. ความผันผวนของตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยดัชนี S&P 500 ตลาดสหรัฐฯ ในช่วงวันที่ 19 ก.พ. - 9 มี.ค.ปรับตัวลงมาแล้วกว่า 19.4% ส่งผลให้ค่า P/E ปรับตัวลงมามากเช่นกัน
5. หลายอย่างทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หลังจากดัชนีหลักปรับตัวลงกว่า 7% ภายในวันเดียว โดยดัชนี Dow Jones ตกลงกว่า 2,013 จุด คิดเป็นประมาณ 7.8%
จากคำพูดของคุณปู่ อาจบ่งบอกได้ว่า ราคาหุ้นในตลาดสหรัฐฯหลายๆตัวอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ตอกย้ำความเชื่อนี้ได้จากคำกล่าวของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่พูดถึงการทรุดตัวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในช่วง 2 วันที่ผ่านมาว่า “ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะสามารถฟื้นตัวขึ้นต่อไป แม้มีความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19”
“Berkshire Hathaway” ถือหุ้นใหญ่โดย Warren Buffett ดำเนินธุรกิจ Holding ด้วยการเข้าไปซื้อบริษัทชื่อดังต่างๆ เช่น APPLE, Coca-Cola และ Bank of America เป็นต้น (TOP 3 ที่ Warren ถือผ่าน Berkshire Hathaway) ล่าสุดได้เข้าไปซื้อหุ้น RH และ OXY ซึ่งดำเนินธุรกิจร้านค้า ปัจจุบัน Berkshire Hathaway ถือเป็นหุ้นที่มีราคาแพงที่สุดในโลก โดยมีด้วยกัน 2 Class คือ Class A และ Class B ซึ่งมีความแตกต่างกันที่ราคาหุ้นและสิทธิการออกเสียงในที่ประชุมหรือการโหวต…