คือมีโอกาสได้ดูทาง netflix ก่อนดูไม่ได้มีข้อมูลอะไรมากแค่เห็นแคสนักแสดงหลัก และพลอตเรื่องคร่าวๆ นำเสนอความรักระหว่างชาย-ชาย ในยุค90 ซึ่งมันต่างกับหนังแนวนี้ส่วยใหญ่คือ มันดูไม่ได้ขายความจิ้น ฟิน แต่กลับเล่นประเด็นที่หนักขึ้น เช่น การยอมรับเพศสภาพของคนในสมัยนั้น ครอบครัวเอยจะรับได้ไหม ที่น่าสนใจอีกประเด็นคือตัว"ภพ"วัยผู้ใหญ่ที่ต้องมาปางน้อย กลับมาในสถานที่ที่คุ้นเคยจะเป็นอย่างไร จะเจอดิวไหม?? นั้นคือสิ่งที่ทำให้ผมอยากดูและทั้งหมดที่ผมอยากรู้จากหนัง
ในครึ่งแรก หนังพรีเซ้นความเป็น90 รวมถึงสภาพความเป็นอยู่ของเพศที่สามในสมัยนั้นว่าคนมองอย่างไร มีความเชื่ออย่างไรกับเพศที่สาม พวกเขาจะโดนปฏิบัติอย่างไรและแนะนำตัวละครภพ ดิวให้รู้จักว่าแต่ละคนมีครอบครัวเป็นอย่างไร ซึ่งตัวละครภพกับดิวก็มีความธรรมชาติดี ตัวของดิวเองที่ถือเป็นหัวใจหลักของหนัง หนังเลือกให้คนดูรู้ตั้งแต่แรกๆว่าดิวเป็นแน่ๆและแอบชอบภพ โดยไม่ต้องบอกทางการพูด แต่เป็นการบอกเล่าผ่านภาพ ผ่านสายตาดิวที่มักจะคอยมองหาภพอยู่เสมอ ซึ่งเอกลักษณ์ในการสื่อสารผ่านสายตาหรือภาพที่ไม่ได้บอกเราโต้งๆด้วยคำพูดหรือทำแบบชัดๆ มันช่วยยกระดับบทของหนังอีกระดับนึง มันดูมีความนุ่มลึกที่หนังไทยไม่ใช่ทุกเรื่องจะทำได้
แต่ก็มีหลายๆจุดที่หนังดูรีบเล่าจนมันดูรวบรัดมากกว่าทำให้หนังกระชับ แม้ว่ามันไมได้มีผลต่อเส้นเรื่องหลัก แต่พอดูไปมันจะมีความรู้สึกเอ้ะๆหรือบางครั้งหนังเลือกจะสื่อสารผ่านสายตาตัวละครแล้วให้คนดูไปตีความเอง แต่มันเรนจ์มันกว้างเกินไปจนมันตีความได้หลายอย่าง(หรือเป็นความตั้งใจผกก ก็เป็นได้ ตัวผมเองก็ดูหนังมาพอสมควร แต่มันจะเห็นอะไรแบบนี้ในประเด็นสำคัญๆมากกว่า จะให้คนดูงงเล่นๆโดยไม่จำเป็น) แลถ้าบทสามารถเติมเต็มตรงจุดนี้ได้ จะทำให้หนังสมบูรณ์และคนดูน่าจะอินกับบทมากขึ้น เช่น
เพื่อนสนิทของภพ ที่เหมือนจะรู้เห็นทุกอย่างหลังจากฉากที่เจอ ภพและดิวเปลือยในห้องน้ำ ตรงนี้ควรมาขยายเพิ่มการเคลียร์ใจ ระหว่างเพื่อน สำหรังผมก็รู้สึกขัดใจหน่อยๆ ฉากดิวยืนอ่านเนื้อเพลงแปลงแต่หนังก็ไม่ได้บอกว่าสรุปแล้วดิวหรือภพเป็นคนแต่ง เป็นต้น
ในช่วงที่ภพและดิวไปเรียนพิเศษที่เชียงใหม่ แล้วมีการทะเลาะ(พ่อแง่
อน??) ผมคิดว่าคสพ มันก้าวกระโดษเกินเพราะก่อนหน้านี้ก็เป็นเพื่อนมาตลอด แล้วไม่ได้มีสัญญะอะไรที่บอกว่ารู้กันนะ ชอบกันนะเลย จริงๆเอ๊ะตั้งแต่อนหนุนตักกันแล้ว ดิวมีสิทธ์อะไรไปงอนภพขนาดนั้น วิธีการพูดแทนตัวเองด้วยชื่อตัวเอง มันดูหน่อมแน่มเกินกว่าจะเป็นเพื่อนผชพูดกัน สรุปแล้ว หลังจากกลับมาจากเชียงใหม่ดิวและภพก็กลับมาดีกัน เหมือนจะรู้ใจกันแล้วสุดท้ายดิวต้องเลือกว่าจะอยู่กับแม่หรือไปกับภพที่โดนทางบ้านตัดขาด จบครึ่งแรก
ในช่วงครึ่งหลัง ไทม์สคิปมาปจุบันปี2562 ภพกลับมาเป็นครูที่ปางน้อย แล้วปัญหาเดิมคือหนังไม่บอกในเรื่องที่ควรบอกเช่น หลังจากภพออกจากบ้านตอนวัยรุ่นไปกินอยู่อย่างไร ตัวคนเดียวหรือมีญาติพอไทม์สคิปก็เหมือนพี่ๆญาติๆภพจะลืมเรื่องดิวไปแล้ว หลังจากนั้นแม่ดิวเป็นยังไงบ้าง คิดว่าสองอย่างนี้เป็นประเด็นที่คนดูก็สงสัยแต่หนังไม่ตอบ ไม่แม้แต่จะกล่าวถึงเลย(ก็คือพลอตโฮลนั้นแหละ) โดยภพในวัยผู้ใหญ่ได้เวียร์มาแสดง ซึ่งแสดงได้ดีตามมาตรฐาน ได้มาเจอกับหลิวเด็กเกเรที่เข้ามาเป็นบททดสอบการเป็นครูของภพ หนังเริ่มป้อนข้อมูลว่าตัวหลิวจะมีอะไรที่ทำให้นึกถึงดิวมากขึ้นเรื่อยๆๆ การแสดงของทั้งเวียร์และปั๋น(หลิว) ก็ทำให้ผมชอบหนังเรื่องนี้มากขึ้น นั้นคือการแสดงออกที่น้อยแต่มาก บอกความรู้สึกทางสายตา ทางฝั่งภพก็เหมือนจะเริ่มเป็นห่วงหลิวมากขึ้นแต่ก็ยังมีสถานะครูและสามีอยู่ ฝั่งหลิวก็มีอาการหึงแบบไม่รู้ตัว โดยไม่ต้องพูดให้คนดูฟัง"นี้เราหึงครูภพจริงๆหรอเนี่ย เราเป็นอะไรของเรา" อะไรแบบนี้ ถามว่ามันเป็นเทคนิคที่ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยหรอ ก็ไม่หรอกครับเพียงแต่มันดูมีชั้นเชิงและไม่ได้พบเจอบ่อยขนาดนั้นในวงการหนังไทย ถ้าในต่างประเทศก็เป็นเรื่องปกติ
เอาจริงพอหนังมาเฉลยว่าหลิวคือดิวที่กลับชาติมาเกิด ก็ทำเซอร์ไพรซ์เหมือนกันนะเพราะหน้าหนังมันดูไม่น่าจะมีอภินิหารในเรื่องเลย ขนาดตอนที่ภพถามหลิวว่าเชื่อเรื่องกลับชาติมาเกิดไหม ความเป็นไปได้ก้ผุดมาแต่ก็บอกตัวเองตลอดว่าไม่ได้หรอกมั้ง มาถึงโค้งสุดท้ายที่ทำผมอินและเครียดตามได้ประหนึ่งเป็นภพซะเองในขณะที่คนดูกำลังซึ้งกับหลิวที่กอดภพ ก็โดนตัดอารมณ์ฉับ!! กลายเป็นปัญหามันรุมเร้าไปหมด ทั้งเรื่องฝั่งเมียภพที่ได้เห็นข่าวภพกับหลิว(เข้ามาแล้วไม่ล๊อกประตูไม่เท่าไหร่ แต่ไม่ปิดประตูเนี่ยนะ บางทีมันก็ดูเอื้นเพื่อให้เกิดเหตุการ์ณเกินไปอะ) ไหนจะฝั่งการงานอาชีพหนังทำให้เรากดดันได้ดี ภพเลยตัดสินใจปล่อยดิวไปและคิดจะกลับไปเริ่มต้นที่กรุงเทพ ซึ่งถ้าจบแบบนี้มันจะเป็นหนังที่ดีมากกกกก จะรู้สึกว่าโอเคภพได้โตเป็นผู้ใหญ่จริงๆ ได้เรียนรู้ในความผิดพลาด มีการตกตะกอนความคิด ยอมปล่อยอดีตเพื่อไม่ฉุดรั้งการโตเป็นผู้ใหญ่แบบที่ครูที่ปรึกษาภพบอก แต่!!!
หลิวคิดได้จึงขี่มอไซต์ไปตามภพ พร้อมแฟลชแบคว่าในอดีตดิวโดนรถชนตาย เพื่อเป็นการบิ้วคนดูว่าเห้ยมันจะซ้ำรอยมั้ยฟะ(ซึ่งหนังทำได้ดี ดูไปลุ้นไป) หลังจากเจอกัน ปรับความเข้าใจกัน โอเคถ้าจบตรงนี้มันก็เพลย์เซฟจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งก็ได้ แต่กลับไปโดดบันจี้จัมป์ฆ่าตัวตาย แบบวอททท หนังไม่ได้บิ้วขาดว่าปัญหามันร้ายแรงขนาดต้องฆ่าตัวตาย(ถามว่าทำไมมั่นใจว่าฆ่าตัวตาย เพราะถ้าบอกว่าอยากจะโดดน้ำเล่นๆอันนี้ยิ่งไม่เมคเซนจ์เลย หนักกว่าห่าตัวตายอีก เออถ้าหนังปูมาว่าดิวภพฝันอยากทำแบบนี้สักครั้งว่าไปอย่าง) พอทราบว่ารีเมคจากเกาแต่ไม่แน่ใจว่าสามารถดัดแปลงได้ขนาดไหน ถ้าเลือกจะให้จบแบบนี้คิดว่าพีคแน่ๆ ก็ควรเพิ่มปมอะไรให้หนักกว่านี้ให้มันรู้สึกว่าไม่มีทางออกแล้วจริงๆ สรุปภาพรวมหนังดำเนินเรื่องดีไม่น่าเบื่อ พลอตเรื่อง นักแสดง โปรดักชั่นดีหมด แม้ว่าระหว่างทางจะมีบาดแผล ความไม่เมคเซนท์การกระทำตัวละครในหลายๆจุด ลืมพูดถึงในจุดที่ควรเติม แต่มันก็ถือเป็นหนังที่ดีอยู่ดีมาตายตอนจบจริงๆ ที่เรียกว่าสร้างบาดแผลใหญ่ให้หนังเลย เอาไป6.5/10
ปล.พูดถึงปั๋น แสดงดีนะดูสมวัยดี เป็นคนที่ไม่ได้สวยมากแต่การแสดงมีเสน่ห์ น้ำเสียงเอย อนาคตนางเอกซีรี่ไม่ไกล
[ดิว ไปด้วยกันนะ] ดีตลอดทาง มาตกม้าตายตอนจบ ??/10
ในครึ่งแรก หนังพรีเซ้นความเป็น90 รวมถึงสภาพความเป็นอยู่ของเพศที่สามในสมัยนั้นว่าคนมองอย่างไร มีความเชื่ออย่างไรกับเพศที่สาม พวกเขาจะโดนปฏิบัติอย่างไรและแนะนำตัวละครภพ ดิวให้รู้จักว่าแต่ละคนมีครอบครัวเป็นอย่างไร ซึ่งตัวละครภพกับดิวก็มีความธรรมชาติดี ตัวของดิวเองที่ถือเป็นหัวใจหลักของหนัง หนังเลือกให้คนดูรู้ตั้งแต่แรกๆว่าดิวเป็นแน่ๆและแอบชอบภพ โดยไม่ต้องบอกทางการพูด แต่เป็นการบอกเล่าผ่านภาพ ผ่านสายตาดิวที่มักจะคอยมองหาภพอยู่เสมอ ซึ่งเอกลักษณ์ในการสื่อสารผ่านสายตาหรือภาพที่ไม่ได้บอกเราโต้งๆด้วยคำพูดหรือทำแบบชัดๆ มันช่วยยกระดับบทของหนังอีกระดับนึง มันดูมีความนุ่มลึกที่หนังไทยไม่ใช่ทุกเรื่องจะทำได้
แต่ก็มีหลายๆจุดที่หนังดูรีบเล่าจนมันดูรวบรัดมากกว่าทำให้หนังกระชับ แม้ว่ามันไมได้มีผลต่อเส้นเรื่องหลัก แต่พอดูไปมันจะมีความรู้สึกเอ้ะๆหรือบางครั้งหนังเลือกจะสื่อสารผ่านสายตาตัวละครแล้วให้คนดูไปตีความเอง แต่มันเรนจ์มันกว้างเกินไปจนมันตีความได้หลายอย่าง(หรือเป็นความตั้งใจผกก ก็เป็นได้ ตัวผมเองก็ดูหนังมาพอสมควร แต่มันจะเห็นอะไรแบบนี้ในประเด็นสำคัญๆมากกว่า จะให้คนดูงงเล่นๆโดยไม่จำเป็น) แลถ้าบทสามารถเติมเต็มตรงจุดนี้ได้ จะทำให้หนังสมบูรณ์และคนดูน่าจะอินกับบทมากขึ้น เช่น เพื่อนสนิทของภพ ที่เหมือนจะรู้เห็นทุกอย่างหลังจากฉากที่เจอ ภพและดิวเปลือยในห้องน้ำ ตรงนี้ควรมาขยายเพิ่มการเคลียร์ใจ ระหว่างเพื่อน สำหรังผมก็รู้สึกขัดใจหน่อยๆ ฉากดิวยืนอ่านเนื้อเพลงแปลงแต่หนังก็ไม่ได้บอกว่าสรุปแล้วดิวหรือภพเป็นคนแต่ง เป็นต้น
ในช่วงที่ภพและดิวไปเรียนพิเศษที่เชียงใหม่ แล้วมีการทะเลาะ(พ่อแง่อน??) ผมคิดว่าคสพ มันก้าวกระโดษเกินเพราะก่อนหน้านี้ก็เป็นเพื่อนมาตลอด แล้วไม่ได้มีสัญญะอะไรที่บอกว่ารู้กันนะ ชอบกันนะเลย จริงๆเอ๊ะตั้งแต่อนหนุนตักกันแล้ว ดิวมีสิทธ์อะไรไปงอนภพขนาดนั้น วิธีการพูดแทนตัวเองด้วยชื่อตัวเอง มันดูหน่อมแน่มเกินกว่าจะเป็นเพื่อนผชพูดกัน สรุปแล้ว หลังจากกลับมาจากเชียงใหม่ดิวและภพก็กลับมาดีกัน เหมือนจะรู้ใจกันแล้วสุดท้ายดิวต้องเลือกว่าจะอยู่กับแม่หรือไปกับภพที่โดนทางบ้านตัดขาด จบครึ่งแรก
ในช่วงครึ่งหลัง ไทม์สคิปมาปจุบันปี2562 ภพกลับมาเป็นครูที่ปางน้อย แล้วปัญหาเดิมคือหนังไม่บอกในเรื่องที่ควรบอกเช่น หลังจากภพออกจากบ้านตอนวัยรุ่นไปกินอยู่อย่างไร ตัวคนเดียวหรือมีญาติพอไทม์สคิปก็เหมือนพี่ๆญาติๆภพจะลืมเรื่องดิวไปแล้ว หลังจากนั้นแม่ดิวเป็นยังไงบ้าง คิดว่าสองอย่างนี้เป็นประเด็นที่คนดูก็สงสัยแต่หนังไม่ตอบ ไม่แม้แต่จะกล่าวถึงเลย(ก็คือพลอตโฮลนั้นแหละ) โดยภพในวัยผู้ใหญ่ได้เวียร์มาแสดง ซึ่งแสดงได้ดีตามมาตรฐาน ได้มาเจอกับหลิวเด็กเกเรที่เข้ามาเป็นบททดสอบการเป็นครูของภพ หนังเริ่มป้อนข้อมูลว่าตัวหลิวจะมีอะไรที่ทำให้นึกถึงดิวมากขึ้นเรื่อยๆๆ การแสดงของทั้งเวียร์และปั๋น(หลิว) ก็ทำให้ผมชอบหนังเรื่องนี้มากขึ้น นั้นคือการแสดงออกที่น้อยแต่มาก บอกความรู้สึกทางสายตา ทางฝั่งภพก็เหมือนจะเริ่มเป็นห่วงหลิวมากขึ้นแต่ก็ยังมีสถานะครูและสามีอยู่ ฝั่งหลิวก็มีอาการหึงแบบไม่รู้ตัว โดยไม่ต้องพูดให้คนดูฟัง"นี้เราหึงครูภพจริงๆหรอเนี่ย เราเป็นอะไรของเรา" อะไรแบบนี้ ถามว่ามันเป็นเทคนิคที่ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยหรอ ก็ไม่หรอกครับเพียงแต่มันดูมีชั้นเชิงและไม่ได้พบเจอบ่อยขนาดนั้นในวงการหนังไทย ถ้าในต่างประเทศก็เป็นเรื่องปกติ
เอาจริงพอหนังมาเฉลยว่าหลิวคือดิวที่กลับชาติมาเกิด ก็ทำเซอร์ไพรซ์เหมือนกันนะเพราะหน้าหนังมันดูไม่น่าจะมีอภินิหารในเรื่องเลย ขนาดตอนที่ภพถามหลิวว่าเชื่อเรื่องกลับชาติมาเกิดไหม ความเป็นไปได้ก้ผุดมาแต่ก็บอกตัวเองตลอดว่าไม่ได้หรอกมั้ง มาถึงโค้งสุดท้ายที่ทำผมอินและเครียดตามได้ประหนึ่งเป็นภพซะเองในขณะที่คนดูกำลังซึ้งกับหลิวที่กอดภพ ก็โดนตัดอารมณ์ฉับ!! กลายเป็นปัญหามันรุมเร้าไปหมด ทั้งเรื่องฝั่งเมียภพที่ได้เห็นข่าวภพกับหลิว(เข้ามาแล้วไม่ล๊อกประตูไม่เท่าไหร่ แต่ไม่ปิดประตูเนี่ยนะ บางทีมันก็ดูเอื้นเพื่อให้เกิดเหตุการ์ณเกินไปอะ) ไหนจะฝั่งการงานอาชีพหนังทำให้เรากดดันได้ดี ภพเลยตัดสินใจปล่อยดิวไปและคิดจะกลับไปเริ่มต้นที่กรุงเทพ ซึ่งถ้าจบแบบนี้มันจะเป็นหนังที่ดีมากกกกก จะรู้สึกว่าโอเคภพได้โตเป็นผู้ใหญ่จริงๆ ได้เรียนรู้ในความผิดพลาด มีการตกตะกอนความคิด ยอมปล่อยอดีตเพื่อไม่ฉุดรั้งการโตเป็นผู้ใหญ่แบบที่ครูที่ปรึกษาภพบอก แต่!!!
หลิวคิดได้จึงขี่มอไซต์ไปตามภพ พร้อมแฟลชแบคว่าในอดีตดิวโดนรถชนตาย เพื่อเป็นการบิ้วคนดูว่าเห้ยมันจะซ้ำรอยมั้ยฟะ(ซึ่งหนังทำได้ดี ดูไปลุ้นไป) หลังจากเจอกัน ปรับความเข้าใจกัน โอเคถ้าจบตรงนี้มันก็เพลย์เซฟจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งก็ได้ แต่กลับไปโดดบันจี้จัมป์ฆ่าตัวตาย แบบวอททท หนังไม่ได้บิ้วขาดว่าปัญหามันร้ายแรงขนาดต้องฆ่าตัวตาย(ถามว่าทำไมมั่นใจว่าฆ่าตัวตาย เพราะถ้าบอกว่าอยากจะโดดน้ำเล่นๆอันนี้ยิ่งไม่เมคเซนจ์เลย หนักกว่าห่าตัวตายอีก เออถ้าหนังปูมาว่าดิวภพฝันอยากทำแบบนี้สักครั้งว่าไปอย่าง) พอทราบว่ารีเมคจากเกาแต่ไม่แน่ใจว่าสามารถดัดแปลงได้ขนาดไหน ถ้าเลือกจะให้จบแบบนี้คิดว่าพีคแน่ๆ ก็ควรเพิ่มปมอะไรให้หนักกว่านี้ให้มันรู้สึกว่าไม่มีทางออกแล้วจริงๆ สรุปภาพรวมหนังดำเนินเรื่องดีไม่น่าเบื่อ พลอตเรื่อง นักแสดง โปรดักชั่นดีหมด แม้ว่าระหว่างทางจะมีบาดแผล ความไม่เมคเซนท์การกระทำตัวละครในหลายๆจุด ลืมพูดถึงในจุดที่ควรเติม แต่มันก็ถือเป็นหนังที่ดีอยู่ดีมาตายตอนจบจริงๆ ที่เรียกว่าสร้างบาดแผลใหญ่ให้หนังเลย เอาไป6.5/10
ปล.พูดถึงปั๋น แสดงดีนะดูสมวัยดี เป็นคนที่ไม่ได้สวยมากแต่การแสดงมีเสน่ห์ น้ำเสียงเอย อนาคตนางเอกซีรี่ไม่ไกล