คือ รณรงค์เรื่องการจามในที่สาธารณะ
โควิด 19 มีผลถึงชีวิตหากติดเชื้อ แต่มันก็ทำให้เราคิดได้ว่า พฤติกรรมคนเราปัจจุบันที่ผ่านมา ประมาทกันขนาดไหน เพราะนี่คือเชื้อโรคที่ติดต่อกันได้ในระยะใกล้ชิด ไม่ใช่ลอยมาตามอากาศ แต่ถ้าคนจามที่ป้ายรถเมล์ แล้วลมพัดมา ผมว่ามันก็ไปไกลๆได้ และติดต่อกันได้ หรือไปเกาะติดเสื้อผ้าสิ่งของในระยะไกลได้นะ ( ถ้าไม่ได้บอกผมหน่อย )
โควิด 19 บอกและเตือนมนุษย์ให้รู้ว่า ถ้าเจอเชื้อที่แรงกว่านี้ ผลที่เกิดจะร้ายแรงขนาดไหน ถ้าเป็นแบบ ติดแล้วตายอย่างเดียวจะเป็นยังไง แต่นี่ยังมีคนรักษาหาย ยังมีระยะเวลาการเกิดอาการ และเข้ากักตัวรักษา
ผมคิดและหวังนะครับว่า โรค โควิด จะมีการควบคุมการแพร่ระบาดได้มากขึ้น และส่วนนึงคือควรมีกาารรณรงค์ เรื่อง จาม ในที่สาธารณะ ว่าไม่ว่าคุณจะเป็นแค่ หวัดธรรมดา หรือ ไข้หวัดใหญ่ หรืออะไรก็ตามที่สามารถติดต่อ ทางเสมหะ น้ำมูกน้ำลาย คุณอยุ่ในที่สาธารณะคุณควรปิดปาก ก้มเข้าหาตัว ไม่ใช่จามมันให้เต็มที่ หรือ สะบัดหน้าไปหาคนข้างๆ
ก็ด้วยคนเรามักคิดว่า ไม่เป็นไร แค่หวัด แต่แค่หวัดธรรมดา คนติดเชื้อ ก็ป่วยต้องลาพักงานเป็นสัปดาห์แล้ว ไม่งั้นถ้าไปทำงานก็แพร่เชื้อให้คนอื่นอีก จากผลการเสียหายเล็กน้อย คือไม่ตาย ก็เลยไม่รณรงค์กันจริงจัง เหมือนกับ ให้เลิกบุหรี่ ทำโฆษณาออกมาให้ดู ว่า สังคมรังเกียจ
เหมือนหนังโฆษณา รณรงค์ต่อต้านคนสูบบุหรี่ว่า " เรารู้จักกันเหรอ แล้วคุณมาทำร้ายฉันทำไม } นั่นแหล่ะครับ การจามก็เหมือนกัน ไม่รู้จักกัน มาแพร่เชื้อให้ทำไม คนติดเชื้อกลับบ้าน มีลูกติดลูก มีคนแก่ติดคนแก่ แต่ผมไม่เคยเห็นโฆษณา รณรงค์ หนักๆแบบ บุหรี่เลย สำหรับการจาม
ถ้าไม่เริ่มกันตั้งแต่ พื้นฐานง่ายๆ มารยาทที่ควรมี จามกันสุดฤทธิ์ พ่นพิษกันสุดเดช แล้วเจอเชื้อที่หนักกว่า อย่าง โควิด ค่อยมาซื้อหน้ากากใช้ อัลกอฮอลล์ หายาก ต้องตุนอาหาร เพราะมันอาจถึงชีวิต ถึงจะทำกัน แต่ลืมไปเลยว่า ปกติแล้ว ถ้ามีการรณรงค์ตระหนักถึงพฤติกรรมการจามในที่สาธารณะ ให้มันควรรู้สึกรับผิดชอบ มีความตระหนัก มีความละอายในการจามแบบ กระจุย กระจาย
ทำเป็นหนังโฆษณา รณรงค์ให้หนัก ว่า จามไม่ปิดปาก คือน่ารังเกียจ สังคมไม่รับ
อย่างคนยืนซื้อข้าว ก็จามใส่ตรงที่คนขายเขาทำอาหารให้คนทั้งร้านกินแบบนี้ยิ่งน่ารังเกียจสุดๆ แพร่กระจายให้คนทั้งร้านเลยน่ะครับนั่น เจอบ่อยสำหรับคนพวกนี้ หรือนั่งกินอาหารอยู่ๆ คนโต๊ะข้างๆ หันมาจามใส่เรา ส่วนอีกด้าน เป็นกำแพง ไม่หันไปนะ เป็นแบบนี้ละครับ
คือผมเข้าใจนะ ว่าคนจะจามบางทีมันอั้นไม่ทันหรอก แต่ก็ควรมีจิตสำนึกภายใน และรู้ว่ามันไม่ควร และถ้าทำได้ ควรปิดปากด้วยมือตัวเองไม่ว่าจะมือข้างนึง หรือ สองข้างก็แล้วแต่ และควรก้มลงหาตัวเอง ไม่ใช่หันหน้าส่ายแจกจ่ายให้คนอื่น หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ๋ หรือ โควิด มันก็ติดด้วยวิธีไม่ต่างกันเท่าไหร่ละครับ
ถ้าผมคิดผิด ขออภัยด้วย
ส่วนอื่นผมไม่รู้จะคิดอะไรเสนอ เพราะก็เห็นคนนำเสนอกันมาเยอะแล้วไม่ว่า จะในลิฟท์ หรือ อาหาร พฤติกรรมอื่นๆ
ขอบคุณครับ
สิ่งที่ อยากให้รณรงค์จริงๆ จากผลของ โควิด 19
โควิด 19 มีผลถึงชีวิตหากติดเชื้อ แต่มันก็ทำให้เราคิดได้ว่า พฤติกรรมคนเราปัจจุบันที่ผ่านมา ประมาทกันขนาดไหน เพราะนี่คือเชื้อโรคที่ติดต่อกันได้ในระยะใกล้ชิด ไม่ใช่ลอยมาตามอากาศ แต่ถ้าคนจามที่ป้ายรถเมล์ แล้วลมพัดมา ผมว่ามันก็ไปไกลๆได้ และติดต่อกันได้ หรือไปเกาะติดเสื้อผ้าสิ่งของในระยะไกลได้นะ ( ถ้าไม่ได้บอกผมหน่อย )
โควิด 19 บอกและเตือนมนุษย์ให้รู้ว่า ถ้าเจอเชื้อที่แรงกว่านี้ ผลที่เกิดจะร้ายแรงขนาดไหน ถ้าเป็นแบบ ติดแล้วตายอย่างเดียวจะเป็นยังไง แต่นี่ยังมีคนรักษาหาย ยังมีระยะเวลาการเกิดอาการ และเข้ากักตัวรักษา
ผมคิดและหวังนะครับว่า โรค โควิด จะมีการควบคุมการแพร่ระบาดได้มากขึ้น และส่วนนึงคือควรมีกาารรณรงค์ เรื่อง จาม ในที่สาธารณะ ว่าไม่ว่าคุณจะเป็นแค่ หวัดธรรมดา หรือ ไข้หวัดใหญ่ หรืออะไรก็ตามที่สามารถติดต่อ ทางเสมหะ น้ำมูกน้ำลาย คุณอยุ่ในที่สาธารณะคุณควรปิดปาก ก้มเข้าหาตัว ไม่ใช่จามมันให้เต็มที่ หรือ สะบัดหน้าไปหาคนข้างๆ
ก็ด้วยคนเรามักคิดว่า ไม่เป็นไร แค่หวัด แต่แค่หวัดธรรมดา คนติดเชื้อ ก็ป่วยต้องลาพักงานเป็นสัปดาห์แล้ว ไม่งั้นถ้าไปทำงานก็แพร่เชื้อให้คนอื่นอีก จากผลการเสียหายเล็กน้อย คือไม่ตาย ก็เลยไม่รณรงค์กันจริงจัง เหมือนกับ ให้เลิกบุหรี่ ทำโฆษณาออกมาให้ดู ว่า สังคมรังเกียจ
เหมือนหนังโฆษณา รณรงค์ต่อต้านคนสูบบุหรี่ว่า " เรารู้จักกันเหรอ แล้วคุณมาทำร้ายฉันทำไม } นั่นแหล่ะครับ การจามก็เหมือนกัน ไม่รู้จักกัน มาแพร่เชื้อให้ทำไม คนติดเชื้อกลับบ้าน มีลูกติดลูก มีคนแก่ติดคนแก่ แต่ผมไม่เคยเห็นโฆษณา รณรงค์ หนักๆแบบ บุหรี่เลย สำหรับการจาม
ถ้าไม่เริ่มกันตั้งแต่ พื้นฐานง่ายๆ มารยาทที่ควรมี จามกันสุดฤทธิ์ พ่นพิษกันสุดเดช แล้วเจอเชื้อที่หนักกว่า อย่าง โควิด ค่อยมาซื้อหน้ากากใช้ อัลกอฮอลล์ หายาก ต้องตุนอาหาร เพราะมันอาจถึงชีวิต ถึงจะทำกัน แต่ลืมไปเลยว่า ปกติแล้ว ถ้ามีการรณรงค์ตระหนักถึงพฤติกรรมการจามในที่สาธารณะ ให้มันควรรู้สึกรับผิดชอบ มีความตระหนัก มีความละอายในการจามแบบ กระจุย กระจาย
ทำเป็นหนังโฆษณา รณรงค์ให้หนัก ว่า จามไม่ปิดปาก คือน่ารังเกียจ สังคมไม่รับ
อย่างคนยืนซื้อข้าว ก็จามใส่ตรงที่คนขายเขาทำอาหารให้คนทั้งร้านกินแบบนี้ยิ่งน่ารังเกียจสุดๆ แพร่กระจายให้คนทั้งร้านเลยน่ะครับนั่น เจอบ่อยสำหรับคนพวกนี้ หรือนั่งกินอาหารอยู่ๆ คนโต๊ะข้างๆ หันมาจามใส่เรา ส่วนอีกด้าน เป็นกำแพง ไม่หันไปนะ เป็นแบบนี้ละครับ
คือผมเข้าใจนะ ว่าคนจะจามบางทีมันอั้นไม่ทันหรอก แต่ก็ควรมีจิตสำนึกภายใน และรู้ว่ามันไม่ควร และถ้าทำได้ ควรปิดปากด้วยมือตัวเองไม่ว่าจะมือข้างนึง หรือ สองข้างก็แล้วแต่ และควรก้มลงหาตัวเอง ไม่ใช่หันหน้าส่ายแจกจ่ายให้คนอื่น หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ๋ หรือ โควิด มันก็ติดด้วยวิธีไม่ต่างกันเท่าไหร่ละครับ
ถ้าผมคิดผิด ขออภัยด้วย
ส่วนอื่นผมไม่รู้จะคิดอะไรเสนอ เพราะก็เห็นคนนำเสนอกันมาเยอะแล้วไม่ว่า จะในลิฟท์ หรือ อาหาร พฤติกรรมอื่นๆ
ขอบคุณครับ